เลือกตั้งและการเมือง

ดีเอสไอเดินหน้าเอาผิด “ขบวนการฮั้ว สว.” ฟอกเงิน-อั้งยี่ พบเส้นเงินโยงนักการเมืองกว่า 30 จังหวัด

โดย nicharee_m

17 ก.ค. 2568

205 views

ดีเอสไอเดินหน้าเอาผิด “ขบวนการฮั้ว สว.” ฟอกเงิน-อั้งยี่ พบเส้นทางการเงินโยงนักการเมืองกว่า 30 จังหวัด คาดอีก 1 เดือนเรียกรับทราบข้อกล่าวหา

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 ก.ค.68 ที่ ห้องประชุม 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย นายสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 พร้อมหน่วยงายที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่  24/2568

กรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รวมถึงผู้ที่เป็นสมาชิกอั้งยี่และผู้สนับสนุน หรือคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. เพื่อหารือกรอบการสอบสวน สรุปผลการดำเนินการว่าสอบสวนปากคำพยานได้ความอย่างไรบ้าง ความคืบหน้าทางคดี และแนวทางการสอบปากคำพยานบุคคลเพิ่มเติม จะเรียกใครเพิ่มอีกหรือไม่ เนื่องด้วยพฤติการณ์ใด รวมถึงจะดำเนินการเร่งรัดการสอบสวนอย่างไรบ้าง ซึ่งหากปรากฏพยานหลักฐานชัดเจนจึงจะได้ขยับขั้นตอนไปเป็นการออกหมายเรียกผู้ต้องหา

เนื่องด้วยภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลภายในขบวนการจัดฮั้ว กระทั่งมีการออกหมายเรียกพยานมากกว่า 12 ราย ทยอยเข้าให้ปากคำชี้แจงกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีการฟอกเงินทางอาญา เนื่องด้วยปรากฏเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับกระบวนการจัดฮั้ว สว. มีการโอนเงินในลักษณะเครือข่ายที่มีการจ้างผู้สมัครใน 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ลำพูน และหนองบัวลำภู รวมถึงยังพบเส้นทางการเงินที่เกี่ยวพันกับสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 24 จังหวัด

อย่างไรก็ตาม คำให้การของพยานส่วนใหญ่ยังคงปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับขบวนการจัดฮั้ว แม้เส้นทางการเงินจะประจักษ์ในช่วงวันเวลาก่อนการเลือก สว. ระหว่างการเลือก สว. และหลังเสร็จสิ้นการเลือก สว.ระดับประเทศ ก็ตาม

ภายหลังการประชุม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การสอบสวนขณะนี้คืบหน้าไปกว่า 70% โดยได้สอบพยานแล้วกว่า 90 ปาก ครอบคลุมทั้งผู้ที่รู้เห็นการวางแผนจัดการเลือกตั้ง และผู้เกี่ยวข้องกับการรับโอนเงิน

ขณะเดียวกัน ได้มีการประชุมร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณาองค์ประกอบความผิดเกี่ยวกับฟอกเงินเพิ่มเติม ยังพบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินกับนักการเมืองระดับท้องถิ่นในกว่า 30 จังหวัด และมีแนวโน้มขยายไปถึงนักการเมืองระดับประเทศ ซึ่งอาจรวมถึงผู้ที่มีตำแหน่งในพรรคการเมือง โดยเงินบางส่วนที่ใช้ในการจัดฮั้ว ถูกโอนกลับไปยังกลุ่มคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งผู้ช่วยหรือที่ปรึกษาประจำตัว สว.

นอกจากนี้ ในการสอบปากคำรอบถัดไป DSI เตรียมเรียกผู้ที่มีชื่ออยู่ในข่ายต้องสงสัย หากพบว่ามีนักการเมืองหรือ สส.เข้าไปเกี่ยวข้อง จะดำเนินการเรียกสอบทั้งหมด ซึ่งมีรายชื่ออยู่แล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีผู้ต้องสงสัยมากกว่า 100 ราย แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนผู้ต้องหาแน่ชัด ต้องรอผลการสอบสวนและพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาเข้าข่ายทั้งการฟอกเงิน (โอนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับความผิด) และความผิดฐานอั้งยี่ (รวมกลุ่มเพื่อกระทำการอันมิชอบ)

อย่างไรก็ตาม ขอไม่ออกความเห็นเกี่ยวกับมติของคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แม้จะมีเจ้าหน้าที่จากดีเอสไอเข้าไปร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการชุดนี้ด้วย

ทั้งนี้ ขณะนี้ดีเอสไอยังไม่ออกหมายเรียกผู้ต้องหาอย่างเป็นทางการ เนื่องจากอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนมากขึ้น คาดว่าในอีกประมาณ 1 เดือนข้างหน้า จะสามารถเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม

ด้าน นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการและโฆษกสำนักงาน ปปง. ระบุว่า ทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1) ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด, 2) ทรัพย์สินที่ใช้สนับสนุนการกระทำผิด, และ 3) ทรัพย์สินของบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยผู้เกี่ยวข้อง หากถูกเรียกสอบปากคำก็สามารถนำพยานหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้


แท็กที่เกี่ยวข้อง  คดีฮั้ว สว. ,ดีเอสไอ

คุณอาจสนใจ

Related News