เลือกตั้งและการเมือง

“ภูมิธรรม” ไม่มีปัญหา ปชน.เตรียมทัพชำแหละงบฯ ปี 69 ขอวิจารณ์สร้างสรรค์ อย่าให้เป็นการแสดง

โดย paranee_s

24 พ.ค. 2568

39 views

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความพร้อมในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 หลังพรรคประชาชนประกาศเตรียม 50 ขุนพลร่วมอภิปราย และจะช่วยหาเงินผ่านการตัดงบประมาณในส่วนที่ไม่จำเป็น โดยระบุว่าไม่มีปัญหา จะเตรียม 50 คน หรือ100 คนก็เตรียมไป เพราะเป็นหน้าที่ที่เขาต้องตรวจสอบอยู่แล้ว เพียงแต่อยากให้ตรวจสอบอย่างมีเหตุผล และหากมีปัญหาอะไรที่ยังไม่สมบูรณ์ก็วิจารณ์มา หรือถ้ามีข้อเสนออะไรก็เสนอมา รัฐบาลก็จะรวบรวมไปดูว่าจะแก้ไข ปรับปรุงอย่างไร ข้อเสนอที่สอดคล้องกับความเป็นจริงและมองการแก้ปัญหาในเชิงสร้างสรรค์ รัฐบาลรับฟังอยู่แล้ว อะไรที่เป็นการวิจารณ์แบบใช้อารมณ์ ความรู้สึก หรือเป็นการวิจารณ์ทั่วไป ก็รับมาอย่างพึงสังวร เป็นอุทาหรณ์ ว่ามีเรื่องที่คนเห็นต่าง แม้ว่าจะใช้อารมณ์วิจารณ์หลายเรื่องก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร


นายภูมิธรรม ยังอยากให้วิจารณ์กันอย่างตั้งใจเต็มที่ ไม่อยากให้ต้องแสดง ไม่อยากให้เป็นการแสดง รู้ว่าเป็นฝ่ายค้านก็มีหน้าที่ค้าน ไม่ว่าอยู่แล้ว รัฐบาลก็ไม่มีอะไรต้องพร้อม เพราะเกิดจากกระบวนการที่ได้ให้รัฐมนตรีประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในแต่ละกระทรวงตั้งแต่ระดับปลัดกระทรวงลงไป และได้มีการทำแผนจากประสบการณ์จริง เรานำเสนอเพื่อให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ เป็นเรื่องธรรมดา แต่อย่าออกนอกกติกาก็แล้วกัน


ส่วนที่กระทรวงกลาโหมเป็นเป้าในการถูกตัดงบประมาณ จนกระทบปฏิทินการซื้ออาวุธทดแทนมาโดยตลอดนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงกลาโหมจัดงบประมาณแบบเดิม ซึ่งต่างฝ่าย ต่างมอง แต่ขณะนี้เราเข้าใจกันในระดับ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ระดับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงว่าในการจัดวางต้องคุยกันทั้งหมด ว่ายุทธศาสตร์แต่ละช่วงเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้โลกเปลี่ยนแปลง มีความท้าทายใหม่ ๆ เกิดขึ้น คงต้องมาปรับอีกที แต่การปรับทีเดียวคงไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ คงต้องพูดคุยทำความเข้าใจกัน ตอนนี้ตนและพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ได้คุยกับเหล่าทัพถึงความจำเป็นในการรับมือภัยพิบัติ รวมถึงความท้าทายใหม่ ๆ ภัยธรรมชาติ หรือความขัดแย้งในโลก หรือความเกี่ยวพันทางการค้า


ซึ่งขณะนี้ความมั่นคงไม่ได้อยู่ในมิติเดิม ทุกคนก็เข้าใจ ดังนั้นการปรับก็จะมีมากขึ้น และให้มีเวลาในการนำเสนองบประมาณล่วงหน้า ไม่ใช่นำเสนอช่วงท้าย เพราะบางครั้งก็ไม่สอดรับกัน ถ้าเสนอล่วงหน้าอาจจะทำให้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งตนคิดว่ากระทรวงกลาโหมอยู่ระหว่างการปรับกระบวนการต่าง ๆ ให้รับใช้ประชาชนมากขึ้น และทำหน้าที่ปกป้องประเทศให้ดีที่สุด เช่น เรื่องภัยธรรมชาติ ขณะนี้ก็กลายเป็นภาระที่กลาโหมต้องรับผิดชอบ เพราะมีความพร้อม มีระเบียบวินัยเพียงพอในการเข้าไปแก้ไขปัญหา จะเห็นได้ว่าเวลาเกิดภัยพิบัติกองทัพก็จะเข้าไปทันทีโดยไม่ต้องรอคำสั่ง


นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณประจำปี 2569 ระหว่างวันที่ 29-31 พฤษภาคมนี้ว่า ว่าได้จัดยุทธศาสตร์ไว้เรียบร้อย และเตรียมความพร้อมไว้เลยว่าการอภิปรายงบประมาณฯ วาระหนึ่ง ซึ่งเราก็โปรยสโลแกนไว้แล้วว่ารอบนี้ เราช่วยหาเงินให้รัฐบางด้วยซ้ำ


นายณัฐชา กล่าวต่อว่า เพราะรัฐบาลมีการวางกรอบวงเงินงบประมาณไว้ไม่สอดคล้องหรือสอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งกำแพงภาษีจากสหรัฐอเมริกา หรือปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่กรอบวงเงินงบประมาณ และโครงการที่มีการของบประมาณไปแล้วไม่ตรงกับความต้องการขอพี่น้องประชาชนอย่างยิ่ง รวมถึงสิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้รับปากไว้กับพี่น้องประชาชน แต่เมื่อเราเปิดดู พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 69 ก็จะมองไม่เห็นในรายละเอียดที่นายกรัฐมนตรีพูดไว้ นั่นหมายความว่า คำพูดของผู้นำประเทศไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง ถ้าอนุมัติตามกรอบวงเงินประมาณปี 69



ส่วนพรรคประชาชนได้ล็อกเป้าการอภิปรายไปที่กระทรวงไหนเป็นพิเศษหรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ล็อกทุกกระทรวง ยิงทุกกระทรวงแน่นอน เพราะในการทำงานเป็นทีม วันนี้เราจะเห็นได้ชัดว่า พรรคร่วมรัฐบาลก็ทำกันไปคนละทิศคนละทาง เริ่มมีกระบวนการที่จะชิงไหวชิงพริบ ชิงความโดดเด่น เพราะมีสัญญาณที่อาจจะมีการรับรู้ได้ว่า ใกล้จะมีการเลือกตั้งใหม่แล้ว แต่ละพรรคการเมืองก็จะเริ่มใช้กลไกกระทรวงของตัวเองไปในทิศทางของการหาเสียงล่วงหน้า ดังนั้นในการของบประมาณปี 69 เราก็จะโฟกัสเป็นพิเศษว่าแต่ละพรรคการเมืองพยายามทำอะไรอยู่





ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กำลังมีปัญหากับฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะรัฐบาล จะส่งผลต่อการผ่านร่างงบปี 69 ด้วยหรือไม่ นายณัฐชา ระบุว่า ตนคิดว่างบประมาณปี 69 ดุเดือดแน่นอน เพราะพรรคร่วมรัฐบาลเองก็เริ่มมีความสั่นคลอน และมีปัญหากระทบกระทั่งกันบ้างแล้ว ตนจึงเชื่อว่าในการอภิปรายงบประมาณปี 69 ในเวลาทั้ง 4 วัน จะทำให้ประชาชนได้เห็นภาพที่ชัดขึ้นว่า ในขณะนี้ทางรัฐบาลสามารถไปต่อได้อีกไกลแค่ไหน และในกรอบวงเงินงบประมาณปี 69 มีการซ่อนโครงการอะไรอยู่ไว้ใช้เพื่อเป็นแต้มต่อทางการเมือง สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่



ส่วนงบประมาณของกระทรวงกลาโหม และด้านความมั่นคงที่เพิ่มมากขึ้น นายณัฐชา กล่าวว่า ก็น่าจะเป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทน เพราะวันนี้เราเห็นได้ชัดว่า ตัวนายกรัฐมนตรีถ้าไม่พึ่งทหารหรือกองทัพ ก็คงไม่มีวันนี้ ฉะนั้นประโยชน์ต่างตอบแทนเดียวที่สามารถทำได้คือ แลกเปลี่ยนในเรื่องงบประมาณ ซึ่งไม่ตรงกับความต้องการของพี่น้องประชาชน เราจะเห็นได้ชัดว่า ในวันนี้ความต้องการของประชาชนจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ที่เป็นปัญหาเยอะแยะมากมาย แต่การอนุมัติวงเงินงบประมาณอันดับหนึ่งกลับกลายเป็นในเรื่องต่างตอบแทนเพื่อให้ตัวเองได้มาซึ่งอำนาจ จึงเป็นการทำให้ประชาชนเห็นได้ชัดว่าการจัดตั้งรัฐบาลแบบนี้มันส่งผลพวง และผลกระทบมาเป็นวงกว้างต่อเนื่องมาจนถึงปี 2569 ด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ