เลือกตั้งและการเมือง

"เท้ง" ชี้รัฐบาลแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ล้าช้า "ภูมิธรรม" สวนกลับอย่าเอาเรื่องเล็กน้อยมาโจมตีเป็นเกมการเมือง

โดย nutda_t

23 ม.ค. 2568

153 views

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปัญหาฝุ่น PM 2.5 ทางกองทัพสามารถช่วยอย่างไรได้บ้าง ว่าจริง ๆ ต้องยอมรับและเข้าใจเรื่องฝุ่น PM 2.5 เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลายประเทศมาก วันนี้เราขึ้นจุดแดง 160 ตนไปประชุมที่ประเทศเวียดนาม เมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ก่อน ของเขาที่นั่น 300-400 ประเทศลาว เขาก็บอกเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด บริเวณชายแดนไทย ผมได้ประชุมเขตตรวจราชการที่ 10 ,15 ,16 ทางฝั่งเหนือและอีสาน ได้รับรายงานว่าจุดที่สร้างฝุ่น PM 2.5 หรือการเผาอะไรต่างๆ นั้น ถือว่ากระบวนทำงานของเขาทำให้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ตนก็ได้บอกกับผู้ว่าราชการ 8 จังหวัดภาคเหนือและผู้ว่าราชการ 5 จังหวัดภาคอีสาน ที่ตนดูแลอยู่ ให้ดำเนินการตรงนี้อย่างจริงจัง ซึ่งจะมาสอดรับกับนโยบายปิดซีลชายแดน

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนใหญ่ที่เห็นจุดฮอตสปอต มันอยู่ที่นอกชายแดนในดินแดนของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งดูได้จากดาวเทียม อันนี้ก็ต้องใช้มาตรการของกระทรวงการต่างประเทศในการดำเนินการ ส่วนภายในของเราก็มีปัญหาอยู่บ้าง อย่างกรณีที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้อย่างการตัดอ้อย จริงๆ แล้วรัฐบาลพยายามใช้มาตรการการตัดสด จ่ายเงินเพิ่มเติมให้ เมื่อมาประท้วงคราวนี้เราไปดูมันก็เกิดจากการเผาอยู่ดี เราต้องมีมาตรการพูดคุยกัน เราคุยกันต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนการปฏิบัติของชาวไร่อ้อยบางส่วนได้ ตรงนี้ต้องดำเนินการต่อไป

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าในพื้นที่กรุงเทพฯ ทางผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ก็พยายามใช้มาตรการเฉพาะหน้าหลายเรื่อง ตั้งแต่การห้ามรถบรรทุกใหญ่เข้ามา การให้ปิดโรงเรียน และพยายามดูเงื่อนไขหรือปัจจัยต่างๆ ส่วนทหารนั้น ตนสั่งการไปแล้วว่าจะต้องดูเรื่องเครื่องมือที่เพียงพอหรือไม่ แต่อะไรที่มีอยู่แล้ว เช่น โดรน ก็จะต้องนำมาใช้ มาช่วยกันโดยเฉพาะปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้น จากจุดเริ่มต้นของไฟและไฟที่ลุกลาม ขณะนี้งบประมาณที่จัดการเรื่องไฟป่าเดิมอยู่ที่กระทรวงทรัพย์ฯ 400 กว่าล้านบาท ปัจจุบันได้กระจายไปที่ท้องถิ่นที่จะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบได้ แต่งบของส่วนกลางอาจยังไม่มากพอก็ต้องมาคุยกัน โดยตอนนี้นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยและได้ประกาศแล้ว ฉะนั้นเราจะดำเนินการเต็มที่ ทั้งการเลือกยุทโธปกรณ์หรือเลือกใช้กำลังพลมาช่วยภัยพิบัติโดยเฉพาะเหตุไฟป่าซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนกระทรวงเกษตรฯ ก็ทำเรื่องของฝนหลวงทำให้บรรยากาศเปลี่ยนแปลง กระทรวงกลาโหมก็มีส่วนช่วยเข้าไปดำเนินการอยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องคุยกันในระดับนานาประเทศ ส่วนในประเทศต้องบูรณาการร่วมกัน

เมื่อถามถึงการที่ฝ่ายค้านออกมาโจมตีรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี เรื่องการแก้ปัญหาฝุ่น โดยมีการเชื่อมโยงกับการที่นายกรัฐมนตรี เดินทางไปประชุมที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่อยากให้มองแยกส่วน เรื่องของประเทศไม่ได้มีเรื่องฝุ่นอย่างเดียว ยังมีเรื่องเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการไปประชุมที่ดาวอส เป็นการประชุมของคนทั้งโลกทุกประเทศในโลกเพื่อหามาตการร่วมกันที่จะดำเนินการทางเศรษฐกิจ ถ้าไม่ไปเราก็เสียโอกาส และไม่ทันต่อการก้าวทันการเปลี่ยนแปลงแก้ไขปัญหาได้ ไม่อยากให้เอาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาโจมตีนายกรัฐมนตรี แต่อยากให้มาเสนอแนะช่วยคิดว่าทางที่แก้ได้จริงๆ คืออะไร ถ้าสามารถทำให้สาธารณชนเห็นว่านั่นคือทางออก รัฐบาลก็ยินดีทำอยู่แล้ว ไม่อยากให้เอาเกมการเมืองมาปนกับการแก้ไขปัญหาของประชาชน

เมื่อถามว่ารัฐบาลควรออกคำสั่งที่เด็ดขาดมากกว่าขอความร่วมมือหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้เป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนอยู่แล้ว เราก็เริ่มจากปัญหาที่เบา ขณะนี้หลายเรื่องเป็นมาตรการเราก็เริ่มเข้มงวดขึ้น เช่น เรื่องชายแดน ก็กำลังเข้าสู่กระบวนการเข้มข้น และต้องมีอีกหลายเรื่อง


ด้าน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการแสดงความเห็นเรื่องการแก้ไขปัญหา PM 2.5 แต่กลับถูกพรรคเพื่อไทยออกตอบโต้ว่าการแก้ไขปัญหาไม่จำเป็นต้องแซะ ว่าการเดินทางไปทำงานต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี สามารถทำได้ แต่สิ่งที่ประชาชนเรียกร้องอยู่ คือก่อนจะออกไปหาโอกาสใหม่ในต่างประเทศ ประชาชนรอให้มีการแก้ไขปัญหาอากาศสะอาดในประเทศ วันนี้ สถานการณ์ฝุ่นในประเทศเข้าขั้นวิกฤตบางพื้นที่สูงถึง 200 ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือกลุ่มเปราะบาง ดังนั้นเราจึงอยากได้ความชัดเจนจากรัฐบาลว่าจะดำเนินการแก้ไขอย่างไรบ้าง ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลในอดีตจนถึงพรรคประชาชน ได้เรียกร้องมาโดยตลอด แต่รัฐบาลยังดำเนินการไม่ดีเท่าที่ควร วันนี้จึงจะเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เพื่อเสนอข้อเสนอเชิงมาตรการต่างๆ

นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลยังล่าช้าในหลายส่วน เช่น มาตรการรับซื้ออ้อยสด จะเห็นตามข่าวว่ารถบรรทุกอ้อยเผาไปจอดค้างเป็นจำนวนมาก หากที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีหรือรัฐบาล มีมาตรการที่ชัดเจนว่าในปีนี้จะไม่รับซื้ออ้อยเผา และแจ้งต่อเกษตรกรหรือโรงงานล่วงหน้า หรือแม้แต่การเพิ่มราคาการรับซื้ออ้อยสดก่อนจะเก็บเกี่ยว เกษตรกรก็จะสามารถวางแผนในการเก็บเกี่ยวได้อย่างถูกต้อง ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น

และส่วนตัวเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษเป็นเรื่องที่สามารถแก้ไขได้ เพราะเราทราบที่มาของฝุ่น ทั้งจากภาคการเกษตร การจัดการไฟป่า ฝุ่นในเมือง หรือแม้แต่ฝุ่นข้ามพรมแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทุกส่วนมีมาตรการที่สามารถเร่งดำเนินการได้ทันที แล้วก็เข้าใจว่าหลายอย่างต้องรอเวลาในการดำเนินการของงานภาครัฐ การตั้งญัตติด่วนในวันนี้ จึงเป็นการเสนอสิ่งที่สามารถดำเนินการได้จริงในวันนี้

คุณอาจสนใจ

Related News