เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ ชี้ กฎหมายสมรสเท่าเทียมเป็นจุดเริ่มต้นในการเคารพความหลากหลาย

โดย paranee_s

23 ม.ค. 2568

52 views

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวเนื่องในโอกาสกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ผ่านวิดีโอ ว่าขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมต่อสู้ให้กฎหมายฉบับนี้เกิดขึ้นจริง และเน้นย้ำจุดยืนความเท่าเทียมบนความหลากหลาย ให้คนไทยทุกคนได้มีศักดิ์ศรีอย่างภาคภูมิ พร้อมเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งนี้ไปด้วยกัน



เนื่องในวันที่ 23 มกราคม 2567 ในฐานะวันประวัติศาสตร์ที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้อัดคลิปวิดีโอเพื่อส่งสารถึงความสำเร็จร่วมกันในวันนี้ว่า ทุกความรักของคนไทยทุกคน จะถูกรับรองทางกฎหมาย ได้รับเกียรติและศักดิ์ศรีอย่างเท่าเทียม กฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านการต่อสู้มากว่า 2 ทศวรรษ เป็น 2 ทศวรรษที่ต้องเผชิญหน้ากับอคติและการเปลี่ยนแปลงค่านิยมของสังคม ชัยชนะในครั้งนี้จึงถือเป็นความสำเร็จจากความร่วมมือของทุกคน โดยเฉพาะภาคประชาชน LGBTQIA+ ที่เป็นแกนนำสำคัญทำให้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ในวันนี้



นายกรัฐมนตรี ยังขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งมั่นผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับพี่น้องประชาชน ขอบคุณสภาผู้แทนราษฎรทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึงสมาชิกวุฒิสภาที่ร่วมกันผลักดันกฎหมายฉบับนี้ผ่านกลไกนิติบัญญัติ



และขอบคุณสื่อมวลชนที่เป็นกระบอกเสียงในการทำลายอคติทางเพศที่ฝังรากลึกในสังคมไทย ทั้งหมดเป็นผลจากการทุ่มเททำงานของทุกภาคส่วนที่ทำให้ธงสีรุ้งปักลงบนประเทศไทยอย่างภาคภูมิ ให้ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยแห่งนี้เป็นพื้นที่แห่งความหลากหลายและเท่าเทียม ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นชาติแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นประเทศที่ 3 ของเอเชียที่ผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม



นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงจุดยืนรัฐบาลในการให้ความสำคัญ และยึดมั่นเสมอว่า คนไทยทุกเพศ และความรักทุกรูปแบบควรได้รับการยอมรับอย่างเท่าเทียม โดยกฎหมายสมรสเท่าเทียมเป็นจุดเริ่มต้นความตระหนักรู้ของสังคมไทยในการเคารพความหลากหลายทั้ง เพศสภาพ เพศวิถี เชื้อชาติ และศาสนา ที่ทุกคนมีสิทธิ์และศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ก่อนกล่าวปิดท้ายว่า “ด้วยพลังของความรักของทุกคน ทำให้วันนี้ ประเทศไทยได้บันทึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ ที่ทำให้ทั้งโลกรับรู้ว่า ประเทศไทยโอบรับความรักทุกรูปแบบ ยอมรับความหลากหลายทางเพศ ซึ่งเป็นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย และขอแสดงความยินดีกับคู่สมรสใหม่ทุกคู่ พร้อมเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จนี้ไปด้วยกัน”



ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติม ว่า “23 มกราคม 2568 วันที่ทุกความรักของคนไทย ถูกรับรองโดยกฎหมาย



กฎหมายสมรสเท่าเทียม ผ่านการต่อสู้มากว่า 2 ทศวรรษ เป็น 2 ทศวรรษที่ต้องเผชิญหน้ากับอคติและการเปลี่ยนแปลงค่านิยมของสังคม ชัยชนะในครั้งนี้จึงถือเป็นความสำเร็จจากความร่วมมือของทุกคน โดยเฉพาะภาคประชาชน LGBTQIA+ ที่เป็นแกนนำสำคัญทำให้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ในวันนี้ ทำให้ธงสีรุ้งปักลงบนประเทศไทยอย่างภาคภูมิ



กฎหมายสมรสเท่าเทียมเป็นจุดเริ่มต้นความตระหนักรู้ของสังคมไทยในการเคารพความหลากหลายทั้ง เพศสภาพ เพศวิถี เชื้อชาติ และศาสนา ที่ทุกคนมีสิทธิ์และศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันค่ะ”

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ