เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา​' ชี้ต้องรับฟังโพล หลังคะแนน 'พิธา' นำโด่ง ลั่นไม่พอใจผลงานตัวเอง​-​ครม. มั่นใจมีงบแล้วทำผลงานเปรี้ยงขึ้น

โดย passamon_a

25 มี.ค. 2567

407 views

เศรษฐา บอกต้องรับฟังผลโพล สะท้อนความเห็นประชาชน หลังพบอยากให้ พิธา นั่งนายกฯ มองอาจคลาดเคลื่อนไม่ได้เป็นกระจกสะท้อนความเป็นจริงทั้งหมด ลั่นไม่พอใจผลงานตัวเอง​-​ครม.​ ชี้ยังทำได้ดีกว่านี้ มั่นใจมีงบแล้วทำผลงานเปรี้ยงขึ้น


เมื่อวันที่ 24 มี.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ระหว่างการลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ถึงผลสำรวจความนิยมของนิด้าโพล ล่าสุดพบว่า อันดับ 1 ที่ประชาชนสนับสนุนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ส่วนนายเศรษฐา อยู่ในลำดับที่ 3 ว่า เราก็ต้องรับฟังโพล เพราะผลโพลสะท้อนความคิดของประชาชน แต่การทำโพลมีหลายแบบ เช่น ในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งมีความไม่แน่นอนเช่นเรื่องกลุ่มตัวอย่างที่อาจมีความคลาดเคลื่อนได้ หรืออาจจะไม่ได้เป็นกระจกสะท้อนความเป็นจริง แต่ก็ถือเป็นโพลโพลหนึ่ง ซึ่งเราก็ต้องรับฟังและมีหน้าที่ที่ต้องทำต่อไป


ถึงแม้จะทำงาน 6-7 เดือนแล้วก็ตาม อีกทั้งงบประมาณปี 2567 ก็เพิ่งผ่านการพิจารณาสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันศุกร์นี้เอง ซึ่งก็จะใช้ระยะเวลาอีกเดือนหนึ่งกว่าจะใช้งบประมาณได้ อย่างในวันนี้ อสม.ก็เพิ่งทราบว่างบประมาณเพิ่งผ่าน ก็จะได้เงินค่าตอบแทนเพิ่ม ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่พอใจรัฐบาลก็ได้ แต่หารู้ไม่ว่าที่จริงแล้วมีขั้นตอน ทางสภาฯ เรื่องการอนุมัติงบประมาณ ซึ่งตนก็ยอมรับว่าต้องตั้งใจทำงาน และรับฟังเสียงของประชาชนเป็นหลัก


ส่วนที่ผ่านมาพอใจการทำงานของรัฐมนตรี แต่ละกระทรวงหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ ผมไม่พอใจการทำงานของตัวเอง ไม่พอใจการทำงานของรัฐมนตรีทุกท่าน เพราะทุกอย่างทำให้ดีขึ้นได้อีก เพราะอันนี้คือชีวิตจริง เราต้องไม่พอใจเรื่องพวกนี้ เพราะความเดือดร้อนของประชาชนยังมีอยู่ ในทุกเรื่องตัวเราเองต้องพยายามทำต่อ ถึงได้ลงมาในพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชน จะได้นำไปปรับวิธีการทำงาน เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่หลังงบประมาณปี 67 ผ่านสภาฯ การทำงานจะเปรี้ยงขึ้นกว่าเดิม นายกรัฐมนตรี ตอบทันทีว่า "มั่นใจครับ"


ส่วนจะต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ เพื่อทำให้เกิดกระแสขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ตนไม่อยากใช้คำว่าอิงกับกระแส ตนว่าเรื่องเสียง สะท้อนทุกอันต้องรับฟัง และต้องมีการปรับกลยุทธ์ แต่ไม่ใช่ปรับเพื่อให้กระแสดีขึ้น เป็นการปรับกลยุทธ์ เพื่อให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ปรับกลยุทธ์ให้เศรษฐกิจดีขึ้น ปรับกลยุทธ์เพื่อให้เกิดความเสมอภาคและเท่าเทียมดีขึ้น มีการปรับตลอด


เมื่อถามว่า ต้องเน้นเรื่องการประชาสัมพันธ์หรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาทำงานแทบทุกวัน ไม่มีวันหยุดแต่หลายผลงานประชาชนอาจไม่เห็น ทำให้ผลสำรวจออกมาเป็นเช่นนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ซึ่งทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทีมสื่อสารคงเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ กันอีกทีว่าตรงไหนเราพูดน้อยเกินไปหรือไม่ เราทำเรื่องเยอะเกินไปหรือเปล่า เราเปิดงานเยอะเกินไปหรือเปล่า เราต้องโฟกัสบางเรื่องให้เยอะขึ้นหรือไม่ ทำเรื่องที่จะโดนใจประชาชน และการที่รัฐมนตรี 5-6 คนมาลงพื้นที่ ก็พยายามที่จะผลักดัน วิธีการแก้ไขปัญหาของประชาชน และเชื่อว่ามาโคราชอีกครั้ง ช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ น่าจะมีผลงานคืบหน้าได้ เพราะงบประมาณออกแล้ว


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/kGnVjvwnjYk

คุณอาจสนใจ

Related News