นายกฯ จับเข่าคุยเครือข่ายพะโต๊ะ - เพจดังแฉผู้สมัครก้าวไกล เป็นแกนนำต้าน 'แลนด์บริดจ์'

วานนี้ (23 ม.ค.67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สวมผ้าไทย 'ทรัพย์รักษ์ระนอง' ซึ่งเป็นผ้าบาติกสีคราม ลวดลายผสมระหว่างลายดอกรักราชกัญญา ผสมลายประแจจีน ภายใต้คอนเซ็ปต์เมืองฝน 8 แดด 4 ที่จังหวัดระนองมอบให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี สวมใส่ในการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2 ที่หอประชุมคอซู้เจียง ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง

--------------

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง  ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ จังหวัดระนอง ว่า  ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ปรับปรุงท่าเรือ เพื่อให้รองรับต่อการท่องเที่ยวและการขนส่งให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งพัฒนาให้เป็นระบบวันสต็อปเซอร์วิส เพื่อให้ประชาชนและนักธุรกิจทำมาค้าขายให้สะดวกยิ่ง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  ที่ประชุม ครม. ยังมีการเห็นชอบโครงการกลุ่ม 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน 13 โครงการมูลค่า 350 ล้านบาท แบ่งเป็นจังหวัดละ 50 ล้านบาท และโครงการตามข้อเสนอของภาคเอกชนอีก 5 โครงการ 202 ล้านบาท โดยให้ใช้งบประมาณของปี 2566 ในส่วนงบกลางไปก่อน

---------------

วานนี้ (23 ม.ค.67) เวลา 12.15 น. หลังประชุม ครม.เสร็จสิ้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง  ได้เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทาวิทยาเขตระนอง เพื่อพบปะพูดคุยและรับฟังความเห็นจากเครือข่ายรักพะโต๊ะ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ที่จะต้องเวนคืนที่ดิน เพื่อก่อสร้างโครงการแลนด์บริดจ์  

โดยตัวแทนเครือข่ายฯ ได้ยื่นหนังสือและข้อเรียกร้องให้กับนายกรัฐมนตรี  พร้อมกล่าวว่า  ความจริงแล้วทางกลุ่มพร้อมสนับสนุน  เพราะว่าโครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ ถือเป็นการช่วยชีวิตประชาชนในพื้นที่ แต่มีการทักท้วงจากผู้ประกอบการ นักวิชาการ สภาพัฒน์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ล้วนย้อนแย้งกัน จึงมีข้อกังวลในหลากหลายมิติ และอยากเสนอข้อสังเกตการต่อการดำเนินงานของโครงการ เพราะเห็นว่า กระบวนการศึกษาที่ผ่านมา ด้อยมาตรฐานทางวิชาการ และไม่เคารพเสียงของประชาชน นับตั้งแต่วันเริ่มการศึกษาการออกแบบ การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมในแต่ละโครงการย่อย ถือกระบวนการมาตรฐานทางวิชาการ และการมีส่วนร่วมของประชาชนตกต่ำอย่างมาก

จนมีคำถามว่า กระบวนการไม่สมราคากับโครงการขนาดใหญ่  ซึ่งเห็นว่ารัฐบาลต้องให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นลำดับแรก เพราะจะเป็นการเริ่มต้นทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ และการเปิดพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างทั่วถึงรอบด้าน จะทำให้รัฐบาลได้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจดำเนินการอย่างถูกต้อง ไม่ใช่เพียงแค่สร้างพิธีกรรม เพื่อให้เสร็จตามกระบวนการของกฎหมาย ถือเป็นการสร้างมาตรฐานกับโครงการที่ดี และเป็นการกระทำที่แตกต่างจากรัฐบาลที่ผ่านมา

นอกจากนี้ โครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ แต่ไม่มีการศึกษาผลกระทบและผลสัมฤทธิ์ในภาพรวม ทางด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ทำให้ชาวบ้านมองไม่เห็นภาพรวมของโครงการนี้ เพราะมีการซ่อนเร้นอุตสาหกรรมเข้าไปด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะมีโครงการขนาดเล็กอื่นๆ ตามมาอีก และเห็นว่าจะสร้างผลกระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ภาคใต้ในภาพรวม ทั้ง 14 จังหวัด ดังนั้น ต้องศึกษาในภาพรวมและให้ทำการศึกษาอย่างเป็นกลาง เป็นอิสระ ไม่มีการกดดัน และไม่เอนเอียง ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลสัมฤทธิ์ของโครงการ เพราะมองว่าการศึกษาของคณะกรรมการวิสามัญของสภาผู้แทนราษฎร เป็นการทำขึ้นมาเพียงเอาใจนายกรัฐมนตรี แต่กลับไม่ได้นำข้อเสนอของคนในพื้นที่เข้าไปร่วมด้วย จึงอยากให้รัฐบาลศึกษาและมีเป้าหมายอย่างชัดเจน มองไปถึงอนาคตว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง และให้มีผู้ส่วนได้ส่วนเสียเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

ตัวแทนเครือข่ายฯ ยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลต้องคำนึงถึงศักยภาพในการพัฒนาจังหวัดระนอง ชุมพร และจังหวัดภาคใต้ในมิติอื่นๆด้วย เพราะหากโครงการนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเคยคิดไว้หรือไม่ ว่าจะพัฒนาจังหวัดเหล่านี้อย่างไร เพราะเชื่อว่าจังหวัดระนอง ชุมพร และภาคใต้มีศักยภาพด้านอื่นที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา ทั้งการท่องเที่ยว การเกษตร การประมง ตามแนวคิดซอฟต์พาวเวอร์  ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย หากรัฐบาลกล้าคิดที่จะทำแตกต่างจากรัฐบาลอื่นที่ผ่านมา จะสามารถพัฒนาความรุ่งเรืองให้ภาคใต้ได้ไม่ยาก จะทำให้คนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ในหลายเท่ามากกว่าการทำโครงการแลนด์บริดจ์ พร้อมทั้งอยากให้ตั้งคณะกรรมการ ที่ประกอบด้วย นักการเมือง ข้าราชการท้องถิ่น นักวิชาการ ภาคประชาชน โดยเฉพาะในประชาชนในพื้นที่

ด้านนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การมายื่นหนังสือข้อเสนอในครั้งนี้  หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยในหลายข้อ โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์  มีความครอบคลุมเป็นอิสระหรือไม่ และมีความต่อเนื่องไปจนถึงอนาคตหรือไม่  ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมของประชาชน และภาคประชาคม ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับ และจะนำไปประกอบการพิจารณาศึกษา เพื่อให้ทุกฝ่ายมีความกระจ่างในจุดประสงค์ของการทำโครงการแลนด์บริดจ์ รวมถึงจะพูดคุยเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาคใต้ นอกเหนือจากโครงการแลนด์บริดจ์ มั่นใจว่า รัฐบาลจะทำอย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว การสร้างสนามบินอันดามัน ที่จังหวัดพังงา ซึ่งมีการดำเนินการแล้วในรัฐบาลนี้ รวมถึงเรื่องการประมง ตลอดจนเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ วัฒนธรรม อาหาร กีฬา ถูกบรรจุไว้ในนโยบายของรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่า ทุกเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังไตร่ตรองที่ดีจากรัฐบาลนี้ 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับกรุงเทพมหานครทันที

---------------

เมื่อวานนี้  (23 ม.ค.67) เพจ วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร โพสต์ภาพ น.ส.รสิตา ซุ่ยยัง ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล พร้อมกับโพสต์ข้อความ ระบุว่า

#ทุกคนคะ จากข่าวมีชาวบ้านมาค้านโครงการแลนด์บริดจ์เมื่อวาน พบว่า แกนนำชาวบ้านชื่อ รสิตา ซุ่ยยัง ผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลค่ะ ก่อนหน้านี้ พี่รสิตาก็เกณฑ์ชาวบ้านไปยื่นหนังสภาโดยมีหมออ๋องมารับหนังสือ พวกเขาทำเป็นขบวนการค่ะ #แลนด์บริดจ์”

-------------------

ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @kickasseng ทวีตภาพป้ายคัดค้านโครงการแลนด์บริจด์  ซึ่งในป้ายระบุข้อความว่า “ไม่เอาแลนด์บริดจ์  รอยเลื่อนชุมพร-ระนอง แผ่นดินไหว ก่อให้เกิดสึนามิ” 

ซึ่งทางผู้โพสต์ ระบุข้อความว่า “คนจบวิศวกรรมแผ่นดินไหวอย่างผม แทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ ใครนะช่างคิดได้”

พร้อมกับอธิบายเพิ่มเติมว่า “หากจะถกเถียงเรื่องความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์หรือไม่ ก็ว่าไป แต่อย่ามาเอาเรื่องวิทยาศาสตร์/วิศวกรรมศาสตร์ มาทำป้ายให้คนเข้าใจผิดๆแบบนี้เลย  แล้วไม่รู้เหรอว่า พื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวได้นี่ มันต้องคำนวณออกแบบโครงสร้างให้ต้านทานแรงแผ่นดินไหวอยู่แล้ว”
-------------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/kG01mj3duIg