เลือกตั้งและการเมือง

'แสนสิริ' แจงกรณี 'ชูวิทย์' กล่าวหา 'เศรษฐา' ทำนิติกรรมอำพราง เลี่ยงภาษี 521 ล้าน

โดย panisa_p

3 ส.ค. 2566

133 views

วันนี้บริษัทแสนสิริ ที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยเคยเป็นผู้บริหารสูงสุด ออกหนังสือชี้แจงหลังถูกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แถลงข่าวกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลี่ยงภาษีซื้อขายที่ดินกว่า 521 ล้านบาท



นายชูวิทย์เริ่มต้นด้วยการยกประเด็นเรื่องที่ดินถนนสารสินมาอธิบาย พร้อมแสดงหลักฐานเป็นโฉนด การโอนจ่าย ธุรกรรมการจำนองที่ดิน และ แผนผังของเครือข่ายที่เกี่ยวข้องมาแสดงที่ดินถนนสารสิน เดิมเป็นของนายพจน์ สารสิน มีการโอนให้กับทายาทจำนวนเนื้อที่ 399.7 ตารางวาและมีการซื้อขายมาตามลำดับ โดยผู้ถือครองกลุ่มสุดท้าย มีการแบ่งที่ดินตามส่วนผู้ถือหุ้นรวม 12 คน



นายชูวิทย์ระบุว่าบุคคลทั้ง 12 คน ได้มีการโอนขายที่ดินให้บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ในลักษณะแบ่งโอนแยกรายบุคคลทั้งที่เป็นที่ดินแปลงเดียวกัน ซึ่งนายชูวิทย์มองว่าเพื่อเป็นการเลี่ยงภาษี พร้อมอธิบายว่าการที่จะโอนชื่อ 12 คน ใน 1 วัน ทางกฎหมายจะถือว่าเป็นคณะบุคคล หรือห้างหุ้นส่วนสามัญ จะต้องไปเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปลายปี ภงด.90 อัตราก้าวหน้า 35% นอกเหนือจากที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมที่กรมที่ดินแล้ว โดยจะต้องเสียภาษีที่กรมที่ดิน 59,247,317 บาท และต้องเสียภาษีเงินบุคคลธรรมดา 521,130,789.05 บาท รวมทั้งสิ้น 580,378,106.05 บาท



นายชูวิทย์ระบุพฤติการณ์ของนายเศรษฐาถือว่าร่วมกันกระทำความผิดโดยการหลีกเลี่ยงภาษีให้ผู้ขาย ซึ่งเรื่องนี้คนขายที่ดินทำคนเดียวไม่ได้ เหมือนการตบมือข้างเดียวไม่ดัง เรื่องนี้ต้องมีคนซื้อ ที่มีความรู้ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์มาช่วยสนับสนุนความผิด เพราะ 12 คนถ้าโอน 12 วันก็จะไม่ต้องเสียภาษีตรงนี้



โดยนายชูวิทย์ ได้นำเอกสารรายการประชุมที่ระบุว่าในวันที่ 14 สิงหาคม 2562 นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่เข้าร่วมประชุม มีลายเซ็นรับรองสำเนารายงานการประชุมถูกต้อง โดยทำรายงานการประชุมวันเดียว ฉบับเดียว แบ่งเป็น 12 คน 12 วัน ส่วนตัวมองว่า พฤติการณ์ของนายเศรษฐา จึงแสดงให้เห็นว่ามีการร่วมมือกันกับผู้ขาย เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในฐานะห้างหุ้นส่วนสามัญ ไม่จดทะเบียน หรือคณะบุคคลตามคำวินิจฉัยของสรรพากร



นายชูวิทย์ ระบุว่าจะนำข้อมูลและเอกสารที่นำมาแถลงวันนี้ไปยื่นต่อ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์,ประธานรัฐสภา และ กรมสรรพากร เพื่อให้นำข้อมูลนี้ไปประกอบในการพิจารณาโหวตนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเชื่อว่าพฤติการณ์เหล่านี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ที่ระบุว่านายกฯต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต



ขณะที่บริษัท แสนสิริฯ ได้ออกหนังสือแถลงการณ์ชี้แจงว่า สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินแปลงดังกล่าว กำหนดให้ผู้ขายเป็นผู้รับผิดชอบภาษีอากร ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด ประกอบกับเป็นหน้าที่ตามกฏหมายของผู้ขายในการเสียภาษีอากรข้างต้นด้วย แสนสิริมีหน้าที่ชำระราคาให้ครบถ้วนตามที่ตกลงกัน และรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเท่านั้น ไม่ได้รับรู้หรือเกี่ยวข้องในวิธีการหรือการดำเนินการใดๆ ทางภาษีอากรของผู้ขายตามที่ได้มีการกล่าวอ้างดังกล่าว และไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ จากการประหยัดภาษีและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ของผู้ขาย



ในการซื้อขายที่ดินของแสนสิรินั้น นายเศรษฐา ขณะที่เป็นผู้บริหารสูงสูดและกรรมการของแสนสิริ จะมีส่วนร่วมเฉพาะในขั้นตอนการอนุมัติจัดซื้อที่ดิน โดยพิจารณาจากตัวเลข และข้อมูลที่ทีมสรรหาที่ดินของแสนสิริได้จัดทำ และนำเสนอให้ที่ประชุมผู้บริหารเพื่อพิจารณา และนำเสนอคณะกรรมการของบริษัทเพื่ออนุมัติการซื้อที่ดิน และการลงทุนตามลำดับ



ภายหลังจากที่แสนสิริได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายและวางมัดจำซื้อที่ดินไปแล้วเป็นระยะเวลาหลายเดือน ก่อนถึงกำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ขายเป็นผู้แจ้งความประสงค์ เกี่ยวกับรายละเอียดวิธีการโอนกรรมสิทธิ์และชำระราคาส่วนที่เหลือ ว่าต้องการแยกโอนเฉพาะส่วนตามรายชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน



การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงดังกล่าว เป็นการดำเนินการที่กรมที่ดินโดยเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง และได้มีการชำระค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีธุรกิจเฉพาะอากรแสตมป์ ตามที่มีการเรียกเก็บเรียบร้อยแล้ว และแสนสิริได้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามราคาที่ตกลงซื้อขายกัน

เป็นการซื้อขายที่ดินตามปกติในธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป บริษัทฯ ขอยืนยันว่า ได้ดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาล ถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใส และตรวจสอบได้

คุณอาจสนใจ

Related News