สังคม

'ภูมิธรรม' ชิมข้าว 10 ปี โชว์สื่อฯ พิสูจน์คุณภาพ ก่อนเปิดประมูล

โดย panwilai_c

6 พ.ค. 2567

55 views

ความเคลื่อนไหวของรัฐบาล ที่มีต่อโครงการรับจำนำข้าวเมื่อ 10 ปีก่อน ในรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อพิสูจน์ว่า ข้าวในโกดัง ยังสามารถนำไปเปิดประมูลขายได้หรือไม่ โดยวันนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำสื่อมวลชน ผู้ประกอบการ และ โรงสี เปิดโกดัง 2 แห่งที่จังหวัดสุรินทร์ ตรวจสอบสต็อกข้าวโครงการรับจำนำข้าว ที่เก็บไว้ 10 ปี



โดยนำมาหุงเพื่อพิสูจน์ว่ากินได้ ก่อนจะเปิดประมูลขายเป็นล็อตสุดท้ายได้ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ โดยมีผู้ส่งออกสนใจที่จะประมูลแล้ว คาดว่าจะมีรายได้เข้ารัฐประมาณ 200-400 ล้านบาท ปิดครงการรับจำนำข้าวที่ยาวนาน



นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นสักขีพยานในการเปิดโกดัง คลังกิตติชัย หลัง 2 อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นโกดัง 2 หลังสุดท้ายในโครงการรับจำนำข้าว ปี 2556/2557 เก็บรักษาข้าวหอมมะลิ 100 เปอร์เซ็นต์ มาแล้ว 10 ปี 2 เดือน คงเหลือข้าวสาร 11,656 ตัน หรือ 112,711 กระสอบ จากที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2557 ถึง 10 มีนาคม 2557 รวมปริมาณทั้งสิ้น 26,094 ตัน หรือ 258,106 กระสอบจาก 24 โรงสี และได้มีการระบายข้าวสารแล้ว 3 ครั้ง



การเปิดโกดังครั้งนี้เพื่อให้มีการเก็บตัวอย่างข้าวมาทำการพิสูจน์ว่า ข้าวสารที่เก็บไว้ 10 ปี สามารถกินได้ จากที่นายภูมิธรรม ได้มาตรวจโกดังนี้เพมื่อเดือนที่แล้ว และได้พิสูจน์ว่ากินได้ แต่ถูกตั้งคำถามว่าเป็นเพียงการแสดงละคร จึงอยากพิสูจน์ให้สิ้นข้อสงสัย



เจ้าของโกดังกิตติชัย หลัง 2 ยืนยันว่า โกดังทำการเก็บรักษาข้าวตามมาตรการขององค์การคลังสินค้าหรือ อคส. เช่น ดูแลไม่ให้น้ำรั่ว รมยาทุก 2 เดือน และนับจำนวนกระสอบ ที่ผ่านมา 10 ปีไม่เคยมีปัญหา ทำการประมูลไปแล้วมากกว่า 2 ครั้งเป็นการประมูลเพื่อไปบริโภค



ขณะที่โรงสีและผู้ส่งออก มองว่า ข้าวในโครงการรับจำนำ ยังเป็นที่ต้องการของตลาดข้าว เช่น ตลาดแอฟริกา ที่ซื้อข้าวในโครงการรับจำนำมาตลอด หากมีการเปิดประมูลเชื่อว่าผู้ส่งออกจะร่วมประมูลแน่นอน โดยข้าวเหล่านี้จะต้องไปผ่านขั้นตอนการขัดและปรับปรุง ก็จะได้เม็ดข้าวที่มีคุณภาพ จากที่เห็นเม็ดข้าวสารจะมีสีเหลืองไม่ขาว เพราะเป็นข้าว 10 ปี ที่เก็บไว้เป็นเวลานาน



ขั้นตอนการพิสูจน์ทำขึ้นอย่างโปร่งใส หลังเปิดโกดัง ได้เปิดให้สื่อมวลชน โรงสี ผู้ส่งออก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ สส.มาสังเกตการณ์โดยให้เจ้าหน้าที่เซอร์เวย์เยอร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเอาข้าวใส่ถุง แล้วนำตัวอย่างใส่ถังข้าว เคลื่่อยย้ายไปโกดังที่ 2 ที่ บจก.พูนผลเทรดดิง หลัง 4 อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อนำข้าวทั้ง 2 โกดัง มาหุงรับประทานพร้อมกัน



สำหรับคลัง บจก.พูนผลเทรดดิง หลัง 4 เป็นข้าวหอมมะลิ 100% รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2557 ถึง 29 เมษายน 2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 7 วัน มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 9,567 ตัน หรือ 94,637 กระสอบ จาก 6 โรงสี ซึ่งระบายข้าวสารแล้ว 4 ครั้ง คงเหลือ 3,356 ตัน หรือ 32,879 กระสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่เซอร์เวย์เยอร์ ทำการเจาะตัวอย่าง เพื่อนำมาหุง พร้อมกับข้าวจากโกดังกิตติชัย



โดยนำข้าวสารมาทำการซาวน้ำ จำนวน 15 ครั้ง เนื่องจากนำมาจากกระสอบที่เก็บไว้ 10 ปี ยังไม่ผ่านการขัดหรือปรับปรุง แต่เพื่อพิสูจน์ว่าสามารถทำการหุงรับประทานได้ทันที เนื่องจากเม็ดข้าวอยู่ในสภาพดี ไม่มีมอด หรือ ข้าวเน่า มีเพียงสีข้าวที่มีสีเหลืองบ้าง ก่อนจะนำมาหุงในหม้อหุงข้าว และได้ข้าวสวย พร้อมรับประทาน



โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สุรินทร์ รวมถึงโรงสึ ผู้ส่งออกและสื่อมวลชน ร่วมพิสูจน์ว่า กินได้ มีการดมกลิ่นที่ไม่พบกลิ่นหืน เม็ดข้าวทานแล้วยังมีรสชาติของข้าว ที่อาจจะไม่หอมเท่าเข้าใหม่ แต่ถ้าเทียบว่าเป็นข้าว 10 ปี ทางผู้ประกอบการ ยืนยันว่า สามารถทานได้



นายภูมิธรรม ยืนยันว่าการตรวจสอบโกดังข้าวครั้งนี้ เป็นไปตามการร้องเรียนของโกดังข้าวที่เหลือทั้ง 2 แห่ง เพราะต้องเก็บข้าวมา 10 ปีแล้ว ไม่สามารถใช้โกดังไปประกอบการอื่น การพิสูจน์วันนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการเปิดประมูล จะให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ คาดว่าจะมีรายได้เข้ารัฐ ประมาณ 200-400 ล้านบาท



สำหรับโกดังทั้งสองแห่ง เป็น 2 แห่งสุดท้ายที่เก็บรักษาข้าวในโครงการรับจำนำข้าว ตั้งแต่สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี การขายข้าวล็อตสุดท้าย 15,000 ตันนี้จะกลายเป็นการปิดโครงการรับจำนำข้าวที่ยืดเยื้อมา 10 ปี



คุณอาจสนใจ

Related News