สังคม

จับได้แล้ว 4 ราย แก๊งตร.อุ้มชาวจีนรีดเงิน 2.5 ล้าน คาดผู้ร่วมขบวนการนับสิบ จ่อออกหมายเพิ่ม

โดย panwilai_c

4 พ.ค. 2567

56 views

จับผู้ต้องหาแก๊งตำรวจอุ้มรีดทรัพย์ชาวจีนได้แล้ว 4 คน หลังออกหมายจับ 5 คน พบมีอดีตตำรวจเป็นหัวหน้าขบวนการ คาดออกหมายจับอีก 6 คนที่เหลือได้ภายในวันนี้



เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา เวลา 20.30 น. โดยกลุ่มชายฉกรรรจ์ 11 คน บุกเข้าไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยประชาสงเคราะห์ 2 ย่านดินแดง แล้วอ้างตัวเป็นตำรวจ ก่อนอุ้มชาวจีน 4-5 คนไปรีดทรัพย์



นี่คือภาพจากกล้องวงจรปิดล่าสุด ที่ทีมข่าวเพิ่งได้มา เป็นภาพขณะที่กลุ่มผู้ก่อเหตุ เข้าไปที่ล็อบบี้โรงแรม เพื่อขอเปิดห้องพัก จากนั้น ได้ขึ้นไปด้านบนชั้นที่ผู้เสียหายพักอยู่ โดยขึ้นไปทั้งหมด 3 คน เป็นตำรวจ 2 คน แล้วเดินวนเวียนหน้าห้อง ก่อนจะเคาะประตู แล้วบุกเข้าไปในห้องผู้เสียหาย



จากนั้น ผู้ก่อเหตุได้เดินล็อกแขนชาวจีนผู้เสียหายรวม 4 คน ไปขึ้นรถ 2 คัน ที่จอดอยู่ ก่อนขับออกไปจากที่เกิดเหตุ



จากนั้น ผู้ก่อเหตุได้บังคับให้ผู้เสียหายโอนเงินสกุลดิจิตอล 65,000 USDT หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,500,000 บาท พร้อมให้จ่ายเงินสดที่ผู้เสียหายมีติดตัวอยู่อีก 100,000 บาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี โดยอ้างว่าผู้เสียหายกระทำความผิดเกี่ยวกับการแลกเงิน



หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้มาแจ้งความที่ สน.ดินแดง ซึ่งตำรวจได้สืบสวน จนทราบตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ และสามารถออกหมายจับได้แล้วทั้งหมด 5 คน เป็นอดีตตำรวจ 1 คน / ตำรวจในราชการ 2 คน และพลเรือนอีก 2 คน



โดยเมื่อวานนี้ ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ ดาบตำรวจอรรถวุฒิ อดีตตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.คันนายาว หรือ ดาบบอส และ สิบตำรวจเอกภูวเดช หรือ หมู่มิก สังกัดศูนย์วิทยุผ่านฟ้า 191 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล



และล่าสุด เมื่อคืนนี้ ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 2 คน คือ นายธีรชัย หรือ ฟาง และนายนภสินธุ์ หรือ บิ๊ก ซึ่งนายธีรชัย พูดภาษาจีนได้ จึงทำหน้าที่เป็นล่ามให้กับแก๊งตำรวจ



ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน ที่ยังหลบหนี คือ จ่าสิบตำรวจวีรยุทธ ผบ.หมู่จราจร สน.พญาไท หรือจ่า แจ๊ค ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวโดยประสานผู้บังคับบัญชา และครอบครัวให้ทราบแล้ว ซึ่งตำรวจย้ำว่าหากใครให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา ไม่ว่าจะเป็นให้พักพิง หรือช่วยปกปิดข้อมูล ก็จะดำเนินคดีตามกฏหมายอาญา



โดยวันนี้ พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมกับ พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร่วมกันประชุมติดตามเร่งรัดคดีที่ สน.ดินแดง



พลตำรวจตรีนพศิลป์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนที่ถูกจับกุมได้แล้ว ทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์ แต่ก็ยังให้การภาคเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้มีการให้ผู้เสียหายชาวจีนมาชี้ตัว โดยผู้เสียหายเองก็ยืนยันว่าทั้ง 4 คนที่ถูกจับกุม คือ กลุ่มผู้ก่อเหตุอุ้มเรียกค่าไถ่จริง



สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน จะแบ่งหน้าที่กันโดยมี ดาบตำรวจอรรถวุฒิ หรือ ดาบบอส อดีตตำรวจ สน.คันนายาว ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าขบวนการ เป็นด่านสุดท้ายที่กลุ่มผู้ก่อเหตุพาผู้เสียหายมาเจอ เพื่อให้ยืนยันว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ พร้อมกับข่มขู่รีดเงิน โดยพบว่า ในวันเกิดเหตุได้ ดาบบอส ขับรถเบนซ์สีดำมาจอดที่หน้าโรงแรม แต่ไม่ได้ลงจากรถ



ส่วนนายนภสินธ์ หรือบิ๊ก ได้รับการติดต่อจาก จ่าสิบตำรวจวีรยุทธ หรือ จ่าแจ๊ค ให้มาทำหน้าที่นั่งรถ มาพร้อมนางสาวลูกปลา และเข้ามาเปิดห้องพักเพื่อให้เข้าถึงตัวผู้เสียหายได้



ส่วนนายธีรชัย หรือฟาง ได้รับการติดต่อจากจ่าแจ็ค ให้มาเป็นล่ามแปลภาษา เพื่อพูดคุยกับผู้เสียหาย โดยได้รับค่าจ้างจำนวน 15,000 บาท และสิบตำรวจเอกภูวเดช หรือหมู่มิก เป็นผู้ให้จ่าแจ๊คยืมรถ โดยจ่าแจ๊คอ้างว่าจะมาจับผู้ต้องหา ก่อนจะถูกชวนมาร่วมทีม โดยหมู่มิกให้การยอมรับว่าร่วมอยู่ในทีมด้วย



ส่วนผู้ก่อเหตุที่เหลืออีก 6 รายที่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิดนั้น จากการรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำผู้ต้องหา ทำให้ขณะนี้ ทราบข้อมูลแล้วว่าเป็นใครบ้าง จะให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลในการออกหมายจับต่อไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกหมายจับได้ภายในวันนี้



สำหรับนางสาวลูกปลา ที่ทำหน้าที่เป็นนกต่อ ชี้เป้าให้กับกลุ่มผู้ต้องหา และพาจ่าแจ๊คมาเปิดห้องที่โรงแรม ตำรวจสืบสวนพบว่า นางสาวลูกปลา เป็นคนนำเครื่องรูดบัตรมาให้กับกลุ่มผู้เสียหายด้วย เพื่อให้แก๊งตำรวจอ้างว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งตำรวจเตรียมจะขออนุมติศาลออกหมายจับนางสาวลูกปลาเช่นกัน



พลตำรวจตรีนพศิลป์ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่กลุ่มผู้ก่อเหตุเลือกลงมือกับกลุ่มผู้เสียหายชาวจีนกลุ่มนี้ เพราะสันนิษฐานว่า กลุ่มชาวจีนน่าจะทำสิ่งผิดกฎหมาย เพราะต้องการแลกเงินสดมาใช้จ่ายในประเทศไทย จึงไปก่อเหตุเพื่อข่มขู่รีดเงิน เมื่อผู้เสียหายเห็นว่าเป็นตำรวจจริงจึงยอมโอนเงินให้ ส่วนกลุ่มผู้เสียหายทำธุรกิจผิดกฎหมายอะไรหรือไม่ ขณะนี้ ตำรวจได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และสถานทูตฯ เพื่อขอทราบรายละเอียดการเดินทางเข้ามาประเทศไทย และประวัติของกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดแล้วเพื่อทำการตรวจสอบ


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/lJiZypRpj48

คุณอาจสนใจ