สังคม

ตำรวจ ปส.สกัดจับรถกระบะตู้ทึบ รวบอดีตคนขับรถขนส่งพัสดุ รับจ้างลำเลียงยา 12 ล้านเม็ด

โดย panisa_p

3 พ.ค. 2567

417 views

ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ไล่ล่ารถขนส่งพัสดุเอกชน หลังพบเบาะแสว่านำไปรับงานลำเลียงยาเสพติด โดยคนขับมีประวัติเพิ่งพ้นโทษจากคดียาเสพติด จึงพยายามขับด้วยความเร็วสูงเพื่อหลบหนี ในที่สุดขับไปชนเสาไฟฟ้า พบว่าภรรยาที่นั่งมาด้วย เป็นผู้รับงานจากกลุ่มผู้ว่าจ้าง ให้มาส่งที่จ.พระนครศรีอยุธยา ถึง 12 ล้านเม็ด และเคยรับงานมาก่อนหน้านี้แต่ไม่ถูกจับ



ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ขับรถติดตามรถต้องสงสัย ซึ่งมีลักษณะเป็นรถกระบะทึบ ติดตราสัญลักษณ์เครื่องหมายยา จาก จ.นครราชสีมา แต่เมื่อรู้ตัวว่าถูกเจ้าหน้าที่ติดตาม ก็ขับรถเร่งเครื่องหนีทันที คนขับไม่มีท่าทีจำนนง่ายๆ ยังขับหนีไปตามถนนสายบางปะอิน- วังน้อยด้วยความเร็วสูง แทรกทางหลบหนี แม้ยางล้อรถจะแตก แต่คนขับก็ไม่สนใจ ขับต่อไปและได้เลี้ยวไปถนนเส้นรอง และได้ ชลอรถ แต่กลับไปต่อ ขับไปไกลอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ขับทิ้งห่างจากรถติดตามของเจ้าหน้าที่ ในที่สุด รถเสียหลักชนเสาไฟฟ้า ไปต่อไม่ได้



จากการสอบสวนนายธีรภัทร เบื้องต้นพบว่า เคยทำงานขับรถส่งพัสดุให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง และมารับงานลำเลียงยา โดยมีนส.นงนุช ภรรยาไปรับงาน รับมาจากชายแดน จ หนองคาย เจ้าหน้าที่เปิดประตูตู้ทึบออกพบยาเต็มคันรถกว่า 12 ล้านเม็ด โดยนส.นงนุชได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกรถที่ชนเสาไฟฟ้าต้องนำส่ง รพ.



พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. กล่าวว่า เป็นเครือข่ายบางปะอินวังน้อยติดตามพฤติกรรมตั้งแต่ปีที่แล้วเคยตรวจค้นแต่ไม่พบยาจึงตามแกะรอยไม่หยุด เคยต้องโทษในคดียาเสพติดตัดสินเจ็ดปีมียา 800 เม็ดหลังพ้นโทษก็ออกมารับงานยาเสพติดเช่นเดิม ส่วนที่จังหวัดอุดรธานี ตำรวจ ปส.2 ติดตามนักบินรับจ้างตายแทน รับยาจาก จ.บึงกาฬ เข้ามายัง พื้นที่ขอนแก่น เมื่อถึง สี่แยกไฟแดง เจ้าหน้าทีได้สกัดจับ



พบเบาะโดยสารด้านหลัง มียา 2 ล้านเม็ด มีนายณัฐพงษ์ เป็นคนขับ รับว่า อาศัยอยู่ย่านคลองเตย ไม่มีงานทำ จึงติดต่อเพื่อนที่รู้จักกัน เพื่อนได้นัดขึ้นไปพบกับนายพรพจน์ และได้ขับรถของนายพรพจน์ไปยังจุดนัดหมาย เพื่อใส่ยาเสพติด และขับมาส่ง ที่ ขอนแก่น จะมีคนมารับยาต่อ แต่ถูกจับได้ก่อน ซึ่งเครือข่ายนี้ ตำรวจระบุว่า เป็นเครือข่ายนายเบส มุดดิน ที่เคยถูกจับขณะรับยามา 2.5 แสนเม็ด ขณะที่วันนี้เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันแถลงผลการปิดล้อม ตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติด ระหว่างช่วงวันที่ 10-30 เมษายน ติดตาม 300 เครือข่าย ยึดทรัพย์ได้กว่า 1,500 ล้านบาท จับผู้ต้องหาได้ 465 ราย

คุณอาจสนใจ

Related News