เลือกตั้งและการเมือง

“ชัยธวัช” หวังศาลขยายเวลาส่งคำชี้แจงคดียุบก้าวไกล พ้อหากไม่ได้ถือว่าพรรคไม่ได้รับโอกาสสู้

โดย paranee_s

1 พ.ค. 2567

42 views

วันนี้ (1 พ.ค. 2567) ที่ ถ.ราชดำเนินนอก กทม. นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เมื่อวานนี้ (30เม.ย.) มีการประชุมสส.ของพรรคก้าวไกล ว่า เราหารือกันหลายเรื่อง ซึ่งตนได้อัปเดตในเรื่องของคดียุบพรรค โดยแจ้งว่าได้ยื่นขอขยายระยะเวลาในการส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญเพิ่ม ไปอีก 30 วัน โดยได้ยื่นไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่ในสัปดาห์ที่แล้วศาลฯไม่มีการประชุม จะมีการประชุมอีกครั้งคือวันนี้


เราหวังว่าศาลฯจะอนุญาตให้ขยายเวลา ในคดีนี้มีความจำเป็นต้องลงรายละเอียดเยอะ ทั้งในแง่ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในการต่อสู้คดี ที่มีโทษร้ายแรงถึงขั้นยุบพรรคการเมือง รวมถึงตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค ระยะเวลาที่ศาลให้ครั้งแรกคือ 15 วัน เราขอขยายต่อ 30 วัน ศาลฯให้เพิ่มแค่ 15 วัน รวมกันแล้วแค่ 1 เดือน ซึ่งไม่เพียงพอในการหาข้อเท็จจริง รวมถึงการพูดคุยขอความร่วมมือกับคนที่จะมาเป็นพยาน หวังว่าวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาตามคำร้องขอของเรา


หากวันนี้ศาลฯ ไม่เพิ่มระยะเวลาในการชี้แจง จะเป็นความเสียเปรียบของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายชัยธวัชระบุว่า ก็ถือว่าเราไม่ได้รับโอกาสให้ต่อสู้คดีที่มีความร้ายแรงอย่างเต็มที่


นายชัยธวัช กล่าวว่า นอกจากนั้นยังมีประเด็นสำคัญอีกหลายเรื่อง รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นเรื่องของคำถามประชามติฃ เพื่อนำไปสู่การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของรัฐบาล ในที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่า อยากให้รัฐบาลทบทวนคำถามในการจัดทำประชามติให้เป็นคำถามที่กว้างที่สุด และง่ายชัดเจน ไม่ใช่คำถามซ้อนคำถาม


“คือถามง่ายๆ เลยว่าประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ ว่าจะให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งคำถามแบบนี้ถูกต้อง ตามหลักเกณฑ์ของการทำรัฐธรรมนูญที่ดี และ จะเป็นคำถามที่ช่วยทำให้ประชาชน เห็นด้วยให้มีจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แทนรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 รวมเสียงกันเป็นเอกภาพมากที่สุด ทำให้แนวโน้มการทำประชามติผ่านมากขึ้น ในส่วนนี้เป็นความปรารถนาดีของพรรคก้าวไกลที่อยากจะรัฐบาลทบทวน หากรัฐบาลเห็นว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ควรจะยกเว้น เนื้อหาอย่างใดอย่างหนึ่งก็สามารถใส่ไปในร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของรัฐบาลได้เมื่อประชามติผ่าน” นายชัยธวัชกล่าว


เมื่อถามว่าหากรัฐบาล ไม่ได้ปรับเปลี่ยนคำถามในการทำประชามติ จะเป็นการวางยาตัวเองเพื่อนำไปสู่แก้รัฐธรรมนูญแบบรายมาตราหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราสามารถทำคู่ขนานได้ไม่มีปัญหา แต่สิ่งที่เราอยากจะย้ำคือหากรัฐบาลมีเจตนาตั้งใจอยากจะให้กระบวนการประชามติผ่านนำไปสู่การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จริงๆ ควรทบทวนคำถาม ส่วนความเห็นต่างอื่นๆ เช่นสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ควรมีโครงสร้างอย่างไร เนื้อหาในการจัดทำรัฐธรรมนูญ ควรจะมีข้อจำกัดเพิ่มเติมหรือไม่ สามารถนำไปใส่ในร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของแต่ละพรรคการเมืองได้


“มันน่าเสียดาย ถ้าประชามติไม่ผ่านตามที่คาดหวังไว้ อันที่จริงยังมีเรื่องการแก้ไขกฎหมายประชามติอีก ซึ่งเรื่องนี้ควรแก้ไขให้เร็วที่สุด ถ้าสามารถแก้ไขได้ทันแล้วนำมาบังคับใช้ในการทำประชามติครั้งแรกก็ถือว่าดีมาก ซึ่งพรรคฝ่ายค้านให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพราะเรามีร่างกฎหมายของเรายื่นไปแล้ว เพียงแต่ว่ารัฐบาลไม่เคยยื่นร่างของตนเองมาเลย ก็อยากให้ยื่นเร็ว ๆ จะเปิดวิสามัญก็ได้ “นายชัยธวัชกล่าว


ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรี 1/1 มองว่า ปัญหาของรัฐบาลในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา คือไม่สามารถปฏิบัตินำส่งนโยบายได้อย่างที่ประชาชนคาดหวัง ไม่สามารถทำงานอย่างมีเป้าหมาย มีรูปธรรมชัดเจน เมื่อมีการปรับรัฐมนตรีเกิดขึ้นประชาชน ก็คาดหวังว่าการปรับครั้งนี้จะตอบโจทย์


“พี่น้องประชาชนคาดหวังว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะทำให้การบริหารรัฐบาลมีรูปธรรมชัดเจนและมีเป้าหมายชัดเจนและมีประสิทธิภาพมีรัฐมนตรีที่ถูกที่ถูกเวลาถูกกระทรวงถูกงาน เป็นความเห็นที่เราสัมผัสได้ ความรู้สึกของฝ่ายค้านและประชาชนเองก็ผิดหวัง” นายชัยธวัชกล่าว


นอกจากนี้ยังมองถึงเรื่องเสถียรภาพของคนในรัฐบาล ว่าตอนนี้ยังเร็วไปที่จะมองในเรื่องนี้ แต่เสถียรภาพในพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่เห็นสัญญาณอะไร ชี้ปัญหาหลักไม่ใช่เรื่องเสถียรภาพ แต่เป็นเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานที่ประชาชนคาดหวัง แต่ก็คาดหวังการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่นี้ที่ฝ่ายค้านจะทำงานติดตามตรวจสอบอย่างเต็มที่


และยังเห็นว่ามีรัฐมนตรีในหลายกระทรวงที่ทั้งฝ่ายค้านและประชาชนที่เกี่ยวข้องในประเด็นต่างๆ คาดหวังให้รัฐบาลมีการปรับเปลี่ยน แต่ไม่ขอเอ่ยชื่อกระทรวง หากฟังการอภิปรายของฝ่ายค้านตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 มีรัฐมนตรีหลายคนในหลายกระทรวงที่พูดถึงว่ามีปัญหาเยอะ แต่ยังมั่นคงในเก้าอี้รัฐมนตรี “คนที่ควรถูกเปลี่ยนอย่างชัดเจนไม่ถูกเปลี่ยน”

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ