อาชญากรรม

มือยิงเพื่อนข้างห้อง ดับคาคอนโด อ้างถูกตีท้ายครัว-ทะเลาะสะสมหลายปี ไม่เกี่ยวเรื่องหมา

โดย nattachat_c

1 พ.ค. 2567

47 views

คุมตัว 'แซม' มือยิงเพื่อนข้างห้องดับคาคอนโด ชี้จุดทำแผนฯ เจ้าตัวอ้างโดนแกล้ง ถูกขู่ฆ่ามานาน 5-6 ปี อดทนมานาน ลั่น “ปากดีก็ต้องเป็นอย่างนี้ ตั้งใจจบชีวิตเขา” พร้อมขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต เผยปมก่อเหตุแค้นใจเพราะเมียถูกด่า จึงเตรียมการมายิง อ้างไม่เกี่ยวเรื่องสุนัข ตำรวจไม่เชื่อมือยิงอ้างได้ยินคลิปเสียงผู้ตายมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาตนเอง


ความคืบหน้าคดีฆาตกรรม เมื่อ นายนารินทร์ หรือ แซม (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี อดีต รปภ.โหด ผู้ก่อเหตุ ใช้ปืนดักรัวยิง นายคงชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี เพื่อนข้างห้องร่วมคอนโด จนเสียชีวิต หน้าลิฟต์ชั้น 9 ของคอนโดแห่งหนึ่ง ในซอยงามวงศ์วาน 23 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เหตุเกิดช่วงเช้า วันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา จนต่อมาศาลออกหมายจับ


ล่าสุด วานนี้ (30 เม.ย. 67) ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 สามารถติดตามจับกุมตัว นายนารินทร์ หรือแซม ได้ภายในซอยรัตนกวี เขตจอมทอง กรุงเทพฯ


โดยหลังจากที่ก่อเหตุ ตำรวจได้สืบสวนหาเบาะแสจนพบว่า ผู้ก่อเหตุได้ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะหลบหนี เมื่อออกจากซอยงามวงศ์วาน 23 แล้ว ได้ขี่รถไปตามถนนงามวงศ์วาน จากนั้น มีการขี่รถในลักษณะวนไปวนมา จนเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานคร แล้วได้เข้าไปในซอยชุมชนแห่งหนึ่ง


จากนั้น ตำรวจพบเบาะแสว่า ผู้ก่อเหตุได้ขี่มอเตอร์ไซค์หลบหนีไปที่บ้านเพื่อน ย่านวัดสังข์กระจาย เขตบางกอกใหญ่ จึงได้เชิญตัวเพื่อนมาสอบปากคำ


โดยเพื่อนของผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 8 โมงกว่า ๆ ของวันเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้ขี่รถมาหาที่บ้าน บอกว่าไปก่อเหตุยิงคนตาย เพื่อนจึงได้พูดเกลี่ยกล่อมให้เข้ามอบตัว แต่ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพราะกลัวจะถูกทำร้าย โดยผู้ก่อเหตุได้อยู่ที่บ้าน จนถึงเวลาประมาณ 5 โมงเย็น แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้า ขี่รถออกไป


ตำรวจจึงแกะรอยหาเบาะแสเพิ่มเติม กระทั่งจับกุมตัวได้ พบว่า ผู้ก่อเหตุมีการโกนศีรษะเปลี่ยนทรงผม เพื่ออำพรางตัวเองในการหลบหนี ระหว่างตำรวจอ่านหมายจับ นายนารินทร์ หรือแซม ได้ร้องไห้ออกมา ก่อนที่ตำรวจจะคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ โดยเจ้าตัวยอมรับสารภาพในชั้นสืบสวน


เวลา 14.30 น. ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้คุมตัวนายนารินทร์ ไปที่คอนโดจุดเกิดเหตุ จากการสังเกต นายแซมอยู่ในสภาพสวมหมวกกันน็อคเต็มใบ ใส่เสื้อแขนยาว ก่อนจะพาเข้ามาสอบปากคำ ในห้องสำนักงานนิติบุคคลอาคารของคอนโด ซึ่งมี พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 สอบปากคำด้วยตัวเอง


โดยจังหวะที่ตำรวจจะพาผู้ต้องหาเข้าไปในห้องสำนักงานนิติบุคคลอาคารของคอนโด ทีมข่าวพยายามสอบถามนายแซม ถึงสาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้ เจ้าตัวบอกว่า สาเหตุที่ลงมือเพราะบันดาลโทสะ พร้อมอ้างว่า อดทนมานาน 5 ปี แล้ว แต่ไม่ตอบว่าสาเหตุมาจากเรื่องสุนัขหรือไม่


เมื่อถามว่าเสียใจ และอยากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตหรือไม่นั้น เจ้าตัวบอกว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต


ภายหลังสอบปากคำนานกว่า 10 นาที ตำรวจได้นำตัวนายแซม ขึ้นไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณโถงหน้าลิฟท์ชั้น 9 ซึ่งในขณะขึ้นลิฟต์ไป ปรากฏว่าลิฟต์ค้าง ทำให้แม่บ้าน และช่างอาคาร ต้องรีบนำกุญแจไปไขเปิดลิฟต์ช่วยตำรวจ รวมถึงผู้ต้องหา ออกมาจากลิฟต์อย่างทุลักทุเล ก่อนจะเปลี่ยนลิฟต์ ให้ไปใช้ลิฟต์ฝั่งตรงข้าม เพื่อขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 10 ก่อน แล้วเดินลงบันไดหนีไฟลงมา 1 ชั้น เพื่อมายังชั้น 9


โดยจุดแรก ที่ตำรวจคุมตัวนายแซมไปทำแผน คือบริเวณทางเดินออกมาจากห้องชั้น 9 จุดที่ยิงผู้เสียชีวิต จนผู้เสียชีวิตล้มลง ซึ่งนายแซมพูดอธิบายประกอบการชี้จุด และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ด้วยสีหน้านิ่งเรียบเฉยว่า “ผมตั้งใจจบชีวิตเขา จึงมาจ่อยิงที่ศีรษะ แล้วก็เดินกลับไปที่ห้อง แล้วก็ออกมาจากห้อง เพื่อลงไปข้างล่าง แต่ลืมกุญแจจักรยานยนต์ จึงจะขึ้นมาเอา แต่ก็ลืมกุญแจห้องด้วย เลยคิดว่าอาจจะใช้เวลามากไป จึงไปขอยืมไขควงจากแม่บ้านด้านล่าง แล้วก็ขึ้นมาใช้ไขควงงัดเปิดประตูห้อง เพื่อเอากุญแจจักรยานยนต์”


จากนั้น ตำรวจพาไปชี้จุดที่หน้าห้องของนายแซม ซึ่งอยู่ติดกับห้องของผู้ก่อเหตุ ก่อนจะมาชี้จุดสุดท้าย จุดที่ผู้เสียชีวิตล้มจมกองเลือด และภรรยาของผู้เสียชีวิตกำลังปั๊มหัวใจ ซึ่งจังหวะนี้ นายแซมกลับขึ้นมาที่ห้องเปลี่ยนเสื้อ แล้วเดินผ่านไปเพื่อลงลิฟต์หลบหนี โดยนายแซมพูดว่า ผมได้หันมาพูดระหว่างเดินผ่านขณะที่ภรรยาเขายปั๊มหัวใจว่า “ปากดีก็ต้องเป็นอย่างนี้” แล้วเดินไปลงลิฟต์ พร้อมอ้างว่า “เขาแกล้งผมมาตั้ง 5-6 ปี แล้ว ผมเคยบอกแม่บ้านไปแล้วว่าให้เขาหยุด เขาก็ไม่หยุด”


จากนั้น ช่วงที่ตำรวจได้นำตัวนายแซมลงมาจากคอนโด เจ้าตัวเปิดเผยอีกครั้งว่า “ผมถูกกลั่นแกล้ง ถูกด่าทอ ด่าถึงแม่ และเขาบอกจะฆ่าผม ผมไม่รู้ว่าเขามีเหตุผลอะไร ก่อนหน้านี้ เคยไปบอกแม่บ้านแล้วว่า มี 2 ห้องที่รุมผม คือ ห้อง 186 และ ห้อง187 ซึ่งช่วงวันเสาร์ เขาจะตั้งวงกินเหล้ากัน ตั้งวงด่าผม ด่าทุกอย่าง”


ทีมข่าวจึงย้ำว่า แสดงว่าวันนี้ เราเสียใจใช่หรือไม่ เจ้าตัว ตอบย้ำว่า “เสียใจครับ”


ด้านภรรยาของนายแซม ที่เดินลงมาจากคอนโด เปิดเผยสั้น ๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะกังวลว่า จะมีผลกระทบกับการทำงาน ว่า “ขอโทษกับคนที่ตาย เสียใจมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ ตัวเองไม่รู้เรื่องว่าเกิดจากอะไร เพราะไปทำงาน และไม่รู้ว่าเขาเคยทะเลาะกันมาก่อนหรือไม่ เพราะเพิ่งเข้ามาอยู่กับแซม” พร้อมยอมรับด้วยเสียงสะอื้นว่า “เครียดมาก มันแก้ไขอะไรไม่ได้ เสียใจ” และไม่รู้สาเหตุมาจากเรื่องสุนัขหรือไม่ โดยเจ้าตัวยืนยันช่วงท้ายว่า “ไม่ได้ทะเลาะกับนายแซม ก่อนที่นายแซมจะลงมือก่อเหตุ”


ขณะที่ พล.ต.ท.จิรสันต์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาอ้างว่า มีการทะเลาะกับผู้ตายมานานหลายปี ซึ่งก่อนวันเกิดเหตุ ผู้ตายได้ไปด่าทอกับภรรยาของผู้ก่อเหตุ จึงทำให้ผู้ก่อเหตุหมดความอดทน จึงได้วางแผนฆ่าผู้เสียชีวิต และผู้ก่อเหตุนั้น รู้กิจวัตรประจำวันของผู้ตายว่า จะลงมาทิ้งขยะตอนเวลา 6 โมงเช้า เป็นประจำ


ในส่วนของอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ คือ .38 ลูกโม่ ซึ่งผู้ต้องหามีครอบครองมานาน 2-3 ปี แล้ว เป็นปืนที่ไม่มีใบอนุญาต และผู้ก่อเหตุทำงานเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย จึงสามารถหาอาวุธปืนเถื่อนมาครอบครองได้


ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง เป็นเรื่องของสุนัขจริงหรือไม่ พล.ต.ท.จิรสันต์ ระบุว่า ผู้ก่อเหตุอ้างว่า ไม่ได้เกี่ยวในเรื่องนี้ เพราะสาเหตุจริง ๆ คือหมดความอดทน และปัญหาที่สะสมไว้มานาน จึงเตรียมการก่อเหตุ และหลังจากก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุได้เดินทางหลบหนีไปอยู่ที่ลานไก่ชน ซึ่งเป็นบ้านเพื่อน ย่านบางขุนเทียน โดยผู้ก่อเหตุเคยซื้อขายไก่อยู่ที่นั่น จึงได้ไปตั้งหลักกับคนที่รู้จักอยู่ที่นั่น


ส่วนประเด็นเรื่องอาการป่วยของผู้ก่อเหตุ ที่ภรรยาอ้างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า สามีป่วยโรคซึมเศร้า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ก็ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว อาจจะมีส่วน แต่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง

ซึ่งคำให้การทั้งหมดของผู้ต้องหาเป็นเพียงคำกล่าวอ้าง หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะต้องทำการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป


ทั้งนี้ ตอนนี้ มีการแจ้ง 2 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยการไตร่ตรองไว้ก่อน และ ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน


ส่วนคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหาที่อ้างว่า ได้ยินคลิปเสียงผู้ตายมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของตนเอง แต่เมื่อสอบถามว่า ทราบได้อย่างไรเป็นเสียงของภรรยา ทั้งที่ตัวผู้ตายไม่ได้มีการเปิดคลิปดังกล่าวให้ฟัง เจ้าตัวบอกว่า ได้ยินผ่านทางกำแพง


พ.ต.ท.ภาคิน พงษ์กาญจนะ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ ยืนยันว่า ไม่ได้ให้น้ำหนักกับคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา เชื่อว่าผู้ต้องหามีอาการเครียด และทราบว่า ก่อนถูกจับกุม ได้มีการทานยานอนหลับ ซึ่งปมสาเหตุหลัก ยังเชื่อว่ามาจากปัญหาเรื่องสุนัข เพราะในห้องยังพบร่องรอยการตะกุยของสุนัขที่กำแพง ส่วนเรื่องของยาเสพติด จากประวัติของผู้ต้องหา ไม่เคยพบว่ามีประวัติคดีเสพยาเสพติด

-------------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/IaPvN0CyO6o

คุณอาจสนใจ

Related News