เศรษฐกิจ

ส่งออก มี.ค.67 ติดลบ 10.9% ครั้งแรกในรอบ 8 เดือน ลุ้นผลไม้ช่วยชาติ ไตรมาส 2 พลิกเป็นบวก

โดย passamon_a

30 เม.ย. 2567

63 views

เมื่อวันที่ 29 เม.ย.67 นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือน มี.ค.2567 มีมูลค่า 24,960 ล้านดอลลาร์ ลดลง 10.9% กลับมาติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน หลังจากก่อนหน้านี้ขยายตัวต่อเนื่อง 7 เดือนติดต่อกัน เพราะฐานปีก่อนสูงมาก โดยทำได้ถึง 28,004 ล้านดอลลาร์ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำและยุทธปัจจัย ติดลบ 5.6 %


ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 26,123 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.6% ขาดดุลการค้ามูลค่า 1,163 ล้านดอลลาร์ รวมไตรมาแรก ปี 2567 (ม.ค.-มี.ค.) การส่งออกมีมูลค่า 70,995 ล้านดอลลาร์ ลดลง 0.2% นำเข้ามูลค่า 75,470 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 3.8% ขาดดุลการค้า 4,475 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 188,014 ล้านบาท


สำหรับการส่งออกที่ลดลงมาจากการลดลงของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร 5.1% โดยสินค้าเกษตร เพิ่ม 0.1% แต่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ลด 9.9% โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ ข้าว ยางพารา อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป อาหารสัตว์เลี้ยง ผลไม้กระป๋องและแปรรูป สิ่งปรุงรสอาหาร นมและผลิตภัณฑ์จากนม ส่วนสินค้าที่หดตัว อาทิ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง น้ำตาลทราย ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปี 2567 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่มขึ้น 0.3%


ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรม ลดลง 12.3% โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ และสินค้าที่หดตัว อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด ทั้งนี้ ไตรมาส 1 ปี 2567 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมลดลง 0.3%


อย่างไรก็ตาม สาเหตุสำคัญที่การส่งออกในเดือน มี.ค.67 ลดลง เนื่องจากเทียบกับฐานที่สูงในเดือน มี.ค.66 ประกอบกับปีนี้สภาพอากาศร้อนจัด ทำให้ปริมาณผลผลิตผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนชะลอออกสู่ตลาดไปเป็นเดือน เม.ย. ซึ่งต่างจากในเดือน มี.ค.66 ที่ปริมาณทุเรียนออกสู่ตลาดมาก


ทั้งนี้ หากพิจารณาในแง่ของมูลค่าจะพบว่าเดือน มี.ค. การส่งออกมีมูลค่าสูงถึงระดับ 24,960 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ดังนั้นการที่ส่งออกในเดือน มี.ค.ที่ติดลบ 10.9% จึงไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด และเชื่อว่าในเดือนเม.ย.67 มูลค่าการส่งออกจะกลับไปเป็นบวกได้อย่างแน่นอน


นายพูนพงษ์ กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกเดือน เม.ย. มั่นใจว่าจะกลับมาเป็นบวก และไตรมาส 2 ก็มีแนวโน้มเป็นบวก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าเกษตร โดยเฉพาะผลไม้ ที่ขณะนี้กำลังออกสู่ตลาด คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน ที่เข้าสู่การฟื้นตัว สินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์พลังงานสะอาด ที่จะส่งออกได้ดีขึ้น


ดังนั้นจึงคงยืนยันเป้าส่งออกปีนี้ที่ 1-2% โดยจากนี้หากทำได้เฉลี่ยเดือนละ 24,044 ล้านดอลลาร์ การส่งออกจะขยายตัว 1% ทำได้เฉลี่ย 24,362 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน การส่งออกจะขยายตัว 2% ส่วนการขาดดุลการค้า ดูแลไม่น่าเป็นห่วง เพราะตัวหลักที่นำเข้าสูง คือ สินค้าทุนและวัตถุดิบ นำเข้ารวมกัน 60% ของการนำเข้ารวม และอีกตัว คือ น้ำมัน มีสัดส่วนถึง 19%


ด้าน นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า การส่งออกเดือน มี.ค.67 แม้ติดลบมาก แต่ดูเป็นรายสินค้าไม่มีปัญหาอะไร อย่างสินค้าเกษตร โดยเฉพาะทุเรียนปีนี้ผลผลิตออกช้า ซึ่งมาจากอากาศร้อนทำให้ส่งออกทุเรียนชะลอ ซึ่งปีที่แล้วเดือนเดียวกันมีการส่งออกทุเรียนมาก หากมองภาพรวมการส่งออกทั้งไตรมาส 1 ก็ถือว่าไม่ได้มีปัญหา ยังสามารถขับเคลื่อนไปได้


สำหรับทิศทางการส่งออกในไตรมาส 2 นั้น ภาคเอกชนยังมองเป็นบวก โดยคาดว่าจะมีมูลค่าราว 71,000 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนยังเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนการส่งออกของไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ยางพารา นอกจากนี้ยังสินค้าอื่น ๆ เช่น อาหารสัตว์ ยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่ยังคงไปได้ดี เพราะได้แรงหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า 36-37 บาทต่อดอลลาร์


ขณะที่สถานการณ์ของจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ และค่าระวางเรือกลับสู่ปกติแล้ว ไม่ได้เป็นปัญหาเหมือนที่ผ่านมา จึงเชื่อว่าการส่งออกของไทยในไตรมาส 2 นี้ จะยังสามารถขับเคลื่อนได้ และเติบโตเป็นบวกได้ตามที่กระทรวงพาณิชย์คาดว่าจะขยายตัวได้ 2%


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/HfKY4-t6v4A

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ส่งออกติดลบ ,ส่งออกมี.ค.

คุณอาจสนใจ