สังคม

อดีตผู้บริหารสาว ปัดเคยโดนคดีเมาแล้วขับ ยันไม่มีเจตนาถีบหน้า ตร.จ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม

โดย passamon_a

28 เม.ย. 2567

161 views

ความคืบหน้ากรณี อดีตผู้บริหารสาว ที่ถูกจับกุมเมาแล้วขับ ต่อสู้ขัดขวางถึงขั้นถีบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยช่วงสาย วันที่ 27 เม.ย.67 บริเวณหน้าสถานีตำรวจนครบาลประเวศ ยังไม่พบอดีตผู้บริหารสาวเข้ามารายงานตัวตามที่มีกระแสข่าว โดยมีสื่อมวลชนมาปักหลักรอติดตามความเคลื่อนไหวเป็นจำนวนมาก


ทีมข่าวได้เข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจใน สน.ประเวศ ให้ข้อมูลว่า ผู้ต้องหาอาจจะเข้ามารายงานตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมด้วยตนเอง หรือส่งทนายมาก็ได้ แต่ต้องรอดูว่า พนักงานสอบสวนจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมหรือไม่


ขณะที่เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กของตัวเองว่า ข้อมูลที่ปรากฏออกไป เป็นการให้ข้อมูลเพียงแค่ฝ่ายเดียว สิ่งที่ปรากฏในคลิปหรือที่เป็นข่าว เป็นความจริงแค่บางอย่างเท่านั้น อีกทั้งยังแจ้งว่า หากพร้อมแล้วจะออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนอีกครั้งหนึ่ง แต่ล่าสุด ได้มีการลบโพสต์ดังกล่าวออกไปแล้ว


เมื่อเวลา 11.30 น. อดีตผู้บริหารสาว เปิดใจให้ข้อมูลผ่านโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวเป็นครั้งแรกว่า จากกระแสข่าวที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาเปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่พร้อมให้ข้อมูลรายละเอียดกับสื่อ แต่ชี้แจงว่าที่ตัวเองเคยถูกดำเนินคดีส่งฟ้องศาลซึ่งอยู่ระหว่างการรอลงอาญา เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2565 เมื่อ 2 ปี ก่อน ยืนยันว่าไม่เคยโดนคดีเมาแล้วขับ ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาให้ข้อมูล


ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีหรือจะแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทนั้น ส่วนตัวยังไม่ทราบถึงเรื่องนี้ แต่เบื้องต้นได้พูดคุยเจรจากับ พันตำรวจโทดาราธร ขจรศิลป์ รองผู้กำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจร คู่กรณี จบไปแล้ว ส่วนในวันดังกล่าวถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่ ส่วนตัวขอไม่ตอบคำถามนี้ รวมถึงประเด็นอื่น ๆ ซึ่งขอไปให้การในชั้นศาลทั้งหมด โดยขณะนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวน แต่ยังคงรอการนัดแนะจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง


ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนแบบไหนก็ให้เป็นไปตามที่เป็นข่าว ซึ่งในส่วนของตัวเองยังไม่เคยออกมาให้การกับใคร แต่ขอเปิดเผยข้อมูลในชั้นสอบสวน ที่ต่างฝ่ายจะต้องนำหลักฐานมาพิสูจน์ตัวเอง แต่สิ่งที่ตัวเองพิสูจน์ได้ในเวลานี้ คือไม่เคยถูกดำเนินคดีใดในอดีต


ส่วนเรื่องผลกระทบทางจิตใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ส่วนตัวได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกรอบแล้ว และไม่มีอะไรติดใจกัน


ส่วนกรณีดังกล่าวสังคมต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมและการกระทำที่ไม่เหมาะสม ผู้สื่อข่าวสอบถามอดีตผู้บริหารว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบทางจิตใจหรือไม่ เจ้าตัวตอบว่า ตอนนี้ไม่มีอะไรกระทบ ทุกอย่างเป็นปกติ เพราะทุกคนที่สนิทและรู้จักกับตนเองรู้ดีว่าตนเป็นคนเช่นไร จากนี้ก็จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และให้ทนายความดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย


ทางด้านพันตำรวจโทดาราธร ขจรศิลป์ รองผู้กำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจร ให้ข้อมูลว่า หลังจากนี้จะต้องเข้าไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมแน่นอน แต่ยังติดการปฏิบัติหน้าที่จึงยังไม่ได้เข้าไป ซึ่งเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ก็อยู่ระหว่างไปตรวจร่างกายกับแพทย์ โดยเบื้องต้นจะแจ้งความเพิ่มเติมฐานหมิ่นประมาทแน่นอน จากคำพูดของผู้ต้องหา ซึ่งใครที่ได้ฟัง ก็รู้กันหมดว่าเข้าข่ายความผิด ส่วนข้อหาอื่น ๆ จะต้องมาไล่ดูรายละเอียดอีกครั้ง


ทั้งนี้ ขอเก็บพยานหลักฐานอื่น ๆ ไว้ใช้ในชั้นศาลเท่านั้น ส่วนผู้ต้องหาก็แล้วแต่เขาว่าจะไปพบพนักงานสอบสวนเมื่อไหร่ หลักฐานที่มีก็เอาไปสู้กันในชั้นศาล และไม่ต้องมาขอโทษด้วย เพราะไม่รับคำขอโทษ


พร้อมยืนยันว่าจากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังจากระบบ CRIME ทางผู้กระทำความผิดเคยถูกดำเนินคดีเมาแล้วขับ เมื่อประมาณเดือนสิงหาคม ปี 2565 ซึ่งเป็นจุดตั้งด่านตรวจเดียวกันกับครั้งนี้


ความคืบหน้าเวลา 21.35 น. ที่ผ่านมา อดีตผู้บริหารสาว ได้เดินทางมาที่ สน.ประเวศ เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ในข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และข้อหาทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่


โดยเจ้าตัวได้เปิดใจชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า ตนยอมรับผิดในเรื่องของการเมาแล้วขับ เพราะคืนนั้นตนเพิ่งเลิกงานและได้มีการไปรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนร่วมงาน ก็ได้มีการดื่มสุรากันเล็กน้อย ก่อนจะขับรถมาเจอด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์รวม 104 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นจริงตามที่ปรากฏในข่าว และตนยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะขัดขืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ เพียงแค่ว่าตอนนั้นตนมีลูกรออยู่ที่บ้าน ด้วยความที่ตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวจึงอยากรีบกลับไปหาลูกเท่านั้น


ส่วนกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า ตนได้ใช้เท้าถีบหน้ารองผู้กำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจรนั้น ตนยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะใช้เท้าถีบหน้า ซึ่งหลังจากนั้นตนได้มีการพูดคุยขอโทษกับตำรวจนายดังกล่าวแล้ว ส่วนเรื่องที่ปรากฏภาพที่ตนด่าตำรวจว่า "ชั้นต่ำ" นั้น ตนขอไม่ให้ข้อมูล เนื่องจากกลัวกระทบกับรูปคดี


นอกจากนี้ตนยืนยันว่า ตนไม่เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับ หรือคดีอาญาใด ๆ มาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ทั้งนี้ ตนได้ฝากขอโทษถึงอดีตบริษัท และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน รวมถึงตำรวจชุดปฏิบัติการในวันที่เกิดเหตุ



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/oCd_cX5qCxo

คุณอาจสนใจ