เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 21 ก.พ.67 ฮุนเซนเยี่ยมทักษิณ-สามีสารภาพฆ่าน้องนุ่น-จับพระเอกละครคุณธรรมแบล็กเมลสาว

1. สามีเปิดปากสารภาพฆ่าน้องนุ่น นำศพไปทิ้งปราจีนบุรี

2. จับพระเอกละครคุณธรรม ขู่ปล่อยคลิปแบล็กเมล รีดเงินสาว

3.แพทย์นิติเวชยัน ข่าวการตายของผู้รับวัคซีน mRNA พบสิ่งประหลาดในหลอดเลือด ไม่ใช่เรื่องจริง

4.ธรรมนัสถกพัชรวาท ได้ข้อสรุปที่ดิน ส.ป.ก.เขาใหญ่

5.อุ๊งอิ๊ง รับฮุนเซน บินเยี่ยมทักษิณวันนี้



เรื่องเล่าการเมือง

-เพื่อไทย แถลงยันทักษิณ ป่วยจริง ใส่เฝือกคอ เพราะคอเสื่อม

เรื่องการพักโทษนายทักษิณ ชินวัตร ตอนนี้ยังเป็นที่ วิพากษ์วิจารณ์ถึงขั้นที่ เมื่อวานนี้พรรคเพื่อไทย ต้องออกมาแถลงข่าว ชี้แจงอาการของนายทักษิณ

นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงอาการป่วยของนายทักษิณ ที่ต้องใส่เฝือกอ่อนที่คอและที่แขนข้างขวา ว่า ทุกคนในพรรคเป็นห่วงนายทักษิณ และถามไถ่ถึงอาการเจ็บป่วยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค

จึงได้ทราบว่า ก่อนที่นายทักษิณจะกลับมาประเทศไทย นายทักษิณติดเชื้อโควิดมาแล้ว 3 รอบ โดยรอบแรกอาการหนักถึงขนาดต้องเข้าห้องไอซียู ซึ่งอาการลองโควิดของนายทักษิณนั้นมีอาการตามมาเยอะมาก เนื่องจากนายทักษิณเป็นผู้ป่วยที่มีอายุกว่า 70 ปีแล้ว ฉะนั้นอาการโควิดนั้นเป็นอาการหนึ่งที่รุมเร้ามาตลอด

ส่วนที่นายทักษิณใส่เฝือกที่คอนั้น ทราบว่า นายทักษิณเป็นโรคกระดูกคอเสื่อม จากการทำเอ็มอาร์ไอ หมอที่โรงพยาบาลตำรวจได้แนะนำให้นายทักษิณเข้ารับการผ่าตัด แต่นายทักษิณขอออกมาจากโรงพยาบาลก่อน แล้วจึงจะกลับเข้าไปรักษา เนื่องจากยังมีอีกหลายโรคที่รุมเร้าอยู่

ส่วนที่ต้องคล้องแขนออกมานั้น เป็นเพราะเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย ซึ่งต้องทำกายภาพหลังจากนี้ไม่ต่ำกว่า 1 ปี จึงจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ โดยโรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุหลายๆ คน และสาเหตุที่หายช้าเนื่องจากตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่นายทักษิณอยู่ภายใต้การดูแลของกรมราชทัณฑ์ ที่โรงพยาบาลตำรวจ แทบจะไม่ได้มีการออกกำลังกาย ทำให้กล้ามเนื้อร่วงโรยไปตามวัย จึงจำเป็นที่จะต้องใส่เฝือกอ่อนที่แขนไว้ก่อน

นายดนุพรยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้นายทักษิณพยายามรักษาตัวให้กลับมาแข็งแรงอย่างเต็มที่ และขอสื่อสารไปยังผู้เป็นห่วงเป็นใยว่า นายทักษิณมีอาการป่วย อาการหนักจริงและพยายามรักษาตัวให้แข็งแรงที่สุดเพื่อกลับมาใช้ความรู้ความสารมารถแนะนำนักการเมืองรุ่นต่อไปทำงานเพื่อประเทศชาติ

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า นายทักษิณ มีอาการความดันโลหิตสูงเล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นต้องกลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนสภาพจิตใจก็ค่อยๆ ดีขึ้น ได้สอบถามหลายๆคนที่อยู่ในที่เดียวนานๆ ก็ต้องใช้เวลาปรับตัวสักนิด



-ชัยธวัช ท้าเปิดเอกสารอาการป่วยทักษิณ ให้สังคมเลิกสงสัย

ขณะที่หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน ออกมาท้า ให้มีการเปิดเอกสาร ยืนยัน อาการป่วย ของนายทักษิณให้สังคมเลิกสงสัย

นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีอธิบดีอัยการบอกว่า นายทักษิณ ได้รับการพักโทษและปล่อยตัว เพราะมีอาการป่วยขั้นวิกฤต โดย ระบุว่า อาการป่วยไม่ใช่เหตุผลสำคัญในการได้รับประกันตัว เพราะอัยการคงไม่ใช่ผู้มีอำนาจมาวินิจฉัยอาการป่วย เรื่องนี้ต้องว่ากันตามเอกสารทางการแพทย์

ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า นายทักษิณ มีเหตุผลในทางการแพทย์ ถือว่าเป็นผู้สูงอายุเกิน 70 ปี ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือไม่ และผู้ให้คำตอบเรื่องนี้ได้ ไม่ใช่อัยการ แต่เป็นแพทย์

ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด คนที่เกี่ยวข้องควรมาเปิดเผยข้อมูลให้ชัดเจนว่านายทักษิณได้รับสิทธินี้โดยชอบตามกฎหมายหรือไม่ หากไม่มีการเปิดเผยข้อมูล กรมราชทัณฑ์ / ครอบครัวของนายทักษิณ หรือแม้กระทั่ง นายกรัฐมนตรี ออกมายืนยัน เรื่องการเปิดเผยเอกสารทางการแพทย์ ทำถูกต้องตามกฎหมาย เรื่องนี้ก็จบ

ส่วนที่นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อ้างว่ามีอาการอักเสบที่หัวไหล่ ถ้าพูดออกมาได้ผ่านทางเอกสารทางการแพทย์ก็จบแล้ว เช่นกัน สังคมจะได้เลิกสงสัย

และบอกด้วยว่า ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากออกมาต่อสู้เพราะต้องการให้สังคมไทยเป็นประชาธิปไตยแม้จริง ไม่มีกระบวนการสองมาตรฐาน ดังนั้นการคืนความยุติธรรมให้กับ นายทักษิณ ไม่ควรจะเกิดขึ้นด้วยวิธีการผลิตซ้ำกระบวนการยุติธรรมที่ 2 มาตรฐานอีก

ส่วนการที่รัฐบาลจะเชิญ นายทักษิณ มาเป็นที่ปรึกษานั้น นายชัยธวัช บอกว่า ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของรัฐบาล ซึ่ง นายทักษิณ มีสิทธิ์ที่จะให้ความคิดเห็นในประเด็นสาธารณะเหมือนประชาชนทั่วไป



- พิชิต ขอสังคมตั้งสติ ยันทักษิณ ไม่ทำลายกระบวนการยุติธรรม

พิชิตขอสังคมตั้งสติ บอกทักษิณไม่ได้ทำลายกระบวนการยุติธรรม เทียบนักโทษทั่วไปก็ติดคุกไม่ครบ ถ้างั้นก็ทำลายกระบวนการยุติธรรมกันหมด ชี้ พักโทษมีหลักเกณฑ์ แต่ไม่จำเป็นต้องป่วยโคม่า

นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข้อครหาต่างๆที่เกิดขึ้นหลังนายทักษิณ ชินวัตร ได้รับการพักโทษ อยากให้ทุกคนตั้งสติ เพราะเรื่องการพักโทษเป็นอำนาจฝ่ายบริหาร แต่เห็นว่าไม่ถูกต้องก็ควรใช้เวทีสภาในการตรวจสอบ เพื่อไม่ให้เกิดการแตกแยกขึ้นในสังคม ส่วนตัวขอยืนยันว่าการพักโทษของนายทักษิณไม่ได้เป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมและเข้าสู่กระบวนการอย่างไม่อิดออด

และขอให้เห็นใจ นายทักษิณ เพราะอายุ 70 กว่าแล้ว ถ้าบอกว่านายทักษิณทำลายกระบวนการยุติธรรม บรรดานักโทษจำคุก 20 ปี 30 ปี ที่ได้รับการลดโทษ ก็ทำลายกระบวนการยุติธรรมกันหมด

ส่วนข้อสงสัยเรื่องอาการของนายทักษิณ ป่วยวิกฤตจริงหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ต้องยึดหลักเกณฑ์ของการพักโทษว่าป่วยระดับไหน ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องโคม่า

ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย บอกว่า มีคนพยายามจะจับผิดการพักโทษของนายทักษิณมากมาย เช่น การบอกว่าในโรงพยาบาลตำรวจมีร้านย้อมผมด้วยหรือ เห็นนายทักษิณผมดำออกมา ตนก็แปลกใจว่าคนที่พูดเรื่องนี้ไม่เคยไปเดินซูเปอร์มาร์เก็ตหรือ ตอนนี้เขามีแบบพิเศษ คือเป็นหลอดที่กดแล้วสามารถย้อมเองได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าร้าน

บ้านเมืองช้ำมาเยอะแล้ว ขอให้นึกถึงอนาคตประเทศบ้าง อยากให้เศรษฐกิจดี ๆ กลับคืนมา อยากให้ท่านทักษิณมาเป็นที่ปรึกษา จะได้แก้ไขเศรษฐกิจให้กับบ้านเมือง ประเทศไทยจะได้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง



-ศิธา ชี้ทักษิณ ศูนย์กลางจักรวาลการเมืองไทย แต่ยังสู้ก้าวไกลไม่ได้

ขณะที่เมื่อวาน นายศิธา มาให้สัมภาษณ์ ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ บอกนายทักษิณ คือ ศูนย์กลางของจักรวาลการเมืองไทย แต่ยังเชื่อว่าแม้จะมี "ทักษิณ" เป็นตัวช่วย แต่ "เพื่อไทย" จะยังสู้ "ก้าวไกล" ไม่ได้ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย และเป็นผู้ที่เคยร่วมงานใกล้ชิดกับนายทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์กับสรยุทธ สุทัศนะจินดา ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ เมื่อวาน ถึงกรณีที่นายทักษิณ ได้รับการพักโทษ

ช่วงหนึ่ง นายศิธา พูดถึงที่มีการมองกันว่า ต่อจากนี้ถนนทุกสายจะมุ่งสู่บ้านจันทร์ส่องหน้าว่า "ผมพูดอย่างตรงไปตรงมาเลยว่า ไม่ใช่ถนนการเมืองทุกสาย แต่มันคือจุดศูนย์กลางของจักรวาลการเมืองในเมืองไทยเลย" และบอกด้วยว่า ที่ผ่านมาทั้งในช่วงที่ฝั่งพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลและเป็นฝ่ายค้าน ศูนย์รวมก็อยู่ที่ดูไบอยู่แล้ว

แต่แม้จะมีคุณทักษิณมาช่วย น.ต.ศิธา ยังเชื่อว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยก็ยังสู้พรรคก้าวไกลไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อเกิดกรณีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่านายทักษิณ เป็นอภิสิทธิ์ชน คนที่อยู่ตรงกลาง คือ กลุ่มสวิงโหวต ก็จะไม่กลับมาเลือกพรรคเพื่อไทย ยกเว้นถ้าเศรษฐกิจดีขึ้น ผลงานของรัฐบาลดีมาก ๆ พรรคเพื่อไทยอาจจะชนะได้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ZrBRFEiHHS4