"โฆษกกรมพินิจฯ" เผย "แก๊งลูกตำรวจสระแก้ว" อาการล่าสุด เด็กกังวลเรื่องคดี หลังเริ่มเห็นผลกระทบ

"โฆษกกรมพินิจฯ" เผย "แก๊งลูกตำรวจสระแก้ว" 5 ทรชนทำร้ายป้าบัวผัน แยกคุมตัว "แบงค์-โก๊ะ-บิ๊ก" คุมตัวสถานพินิจฯ จันทบุรี ขณะที่ "เชน-กัส" 2 ลูกตำรวจคุมตัวสถานพินิจฯ ระยอง แย้ม พบต้นตอพฤติกรรมรุนแรง เหตุ "ครอบครัวหย่าร้าง-ไม่สมบูรณ์" พร้อมเปิดอาการล่าสุด เด็กกังวลเรื่องคดี หลังเริ่มเห็นผลกระทบ



จากกรณีเกิดเหตุฆาตกรรมอุกฉกรรจ์ในจังหวัดสระแก้ว "น.ส.บัวผัน" หรือป้ากบ อายุ 47 ปี หญิงสติไม่สมประกอบ ได้ถูกกลุ่มเด็กอายุระหว่าง 13-16 ปี จำนวน 5 ราย โดยในจำนวนนี้มีลูกของนายตำรวจ ตำแหน่งรองสารวัตรฝ่ายสืบสวน สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ร่วมกันทำร้ายร่างกายป้าบัวผันอย่างสาหัสจนถึงแก่ชีวิต ก่อนนำร่างทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียน ต่อมาตำรวจกลับจับตัวนายปัญญา อายุ 54 ปี หรือลุงเปี๊ยก สามีผู้ตายฝากขังส่งเข้าเรือนจำจังหวัดสระแก้ว เนื่องจากจับกุมผิดตัว จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรง กระทั่งพบภาพจากกล้องวงจรปิดยืนยันกลุ่มผู้กระทำผิด เป็นเด็กวัยรุ่นทั้ง 5 ราย จึงนำตัวฝากขังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสระแก้ว ก่อนมีคำสั่งให้นำตัวทั้งหมดไปควบคุมยังสถานพินิจฯ ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน



ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 67 นายโกมล พรมเพ็ง รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ในฐานะโฆษก เปิดเผยถึงกรณีที่บัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ "อีซ้อขยี้ข่าว" ได้โพสต์รูปภาพกลุ่มวัยรุ่น 5 รายในอิริยาบถนั่งกินดื่มอยู่ที่ทางเท้าหน้าร้านแห่งหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า "ข่าวดังแบบนี้ใครจะมานั่งชู 2 นิ้ว ในร้านน้ำกระท่อม เชนอยู่ในสถานพินิจแล้ว ถ้าไม่ให้อยู่ในนั้น แล้วเชนอยู่ไหน?" โดยโฆษกกรมพินิจฯ ชี้แจงว่า เด็กทั้ง 5 รายยังอยู่ในการควบคุมของสถานพินิจฯ โดยวานนี้ (18 ม.ค.) ได้มีการส่งตัวเยาวชน 3 ราย ประกอบด้วย ด.ช. อายุ 13 ปี (แบงค์) ด.ช. อายุ 14 ปี (โก๊ะ) และ ด.ช. อายุ 16 ปี (บิ๊ก) ไปควบคุมไว้ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดจันทบุรี โดยยังอยู่ระหว่างการกักโรคโควิด-19 ส่วนสาเหตุที่ย้ายจากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสระแก้วนั้น เป็นเพราะสถานพินิจฯ จังหวัดสระแก้วเป็นสถานที่ควบคุมชั่วคราว มีลักษณะเป็นห้องแถวไม่เหมาะสมกับการดูแลเด็กระยะยาว ซึ่งปกติจะควบคุมเพียง 3-5 วันก่อนส่งตัวไปต่อสถานพินิจฯที่มีแดนแรกรับในโซนภาคตะวันออก คือ สถานพินิจฯ จันทบุรี จึงเป็นเหตุผลดังกล่าว

ส่วนอีก 2 รายที่เป็นลูกตำรวจ ได้แก่ ด.ช. อายุ 14 ปี (เชน) และ ด.ช อายุ 13 ปี (กัส) ในวันนี้จะมีการส่งตัวไปควบคุมไว้ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดระยอง เพราะ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มองว่าทั้งหมดต้องแยกออกจากกัน เกรงว่าหากอยู่รวมกันจะเกิดปัญหาตามมา หรือเกิดการสมคบให้ถ้อยคำในบางประเด็นที่อาจทำให้เสียรูปคดีได้ เพราะทางเจ้าหน้าที่ต้องมีการตรวจสอบเป็นรายบุคคล



โฆษกกรมพินิจฯ กล่าวต่อว่า ขั้นตอนระหว่างนี้ทางเจ้าหน้าที่คุมประพฤติจังหวัดสระแก้วของกรมพินิจฯ ได้ดำเนินการสืบเสาะข้อมูลจากเด็กผู้ก่อเหตุเป็นรายบุคคล และลงพื้นที่สอบปากคำผู้ปกครองของเด็ก สอบปากคำบุคลากรคุณครูและทางโรงเรียนของเด็ก รวมถึงไปดูสภาพแวดล้อมที่เด็กทั้ง 5 รายเคยอาศัย อีกทั้งยังต้องสืบย้อนหลังถึงพฤติกรรมของเด็กว่าเคยทำอะไรบ้าง มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนไม่เหมาะสมมานานแค่ไหน ซึ่งพยานแวดล้อมจะเป็นตัวบ่งชี้ได้ อย่างไรก็ตาม หากข้อมูลที่ได้รับยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ พนักงานคุมประพฤติก็จะต้องลงพื้นที่ไปยังสถานพินิจฯของเด็กทั้ง 5 รายอีกครั้ง

จนกว่าจะได้รายละเอียดครบถ้วน ซึ่งเท่าที่ตนได้รับรายงานมา ทราบว่าเด็กทั้งหมดให้ความร่วมมือดี อยู่ในท่าทีสงบเรียบร้อย และไม่พบความก้าวร้าว แต่ในส่วนของความวิตกกังวล ตนมองว่าเด็กจะค่อนข้างวิตกในเรื่องของคดีมากกว่า เพราะตอนก่อเหตุอาจยังไม่ทันคิดถึงผลที่ตามมา แต่พอตอนนี้คงรับรู้โดยถ่องแท้แล้วว่าสร้างผลกระทบต่อตนเอง คนรอบข้างและครอบครัวขนาดไหน ซึ่งในเรื่องนี้ทางนักจิตวิทยาจะรับหน้าที่ในการวิเคราะห์พฤติกรรมและจะมีการประชุมร่วมกับนักสหวิชาชีพ นักสังคมสงเคราะห์ พยาบาล และคณะกรรมการ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่พบว่าเด็กมีอาการเซื่องซึมหรือเศร้าเสียใจฟูมฟาย แต่ไม่มีความร่าเริง ถือเป็นเรื่องปกติ อาจอยู่ในช่วงของการปรับตัว



โฆษกกรมพินิจฯ กล่าวด้วยว่า ส่วนในเรื่องของสุขภาพจิต จากการประเมินของเจ้าหน้าที่พบว่าไม่มีปัญหาอาการทางจิตเวช ทั้งยังไม่พบประวัติการรักษาในเรื่องสุขภาพจิต ส่วนประเด็นภาพที่เด็กๆนั่งในร้านกระท่อมที่ถูกเผยแพร่ในโซเชียลทีเดียนั้น เป็นภาพเก่าก่อนเกิดเรื่องป้าบัวผัน ถือเป็นเฟคนิวส์ ส่วนในเรื่องของการยื่นประกันตัวชั่วคราวของเด็กทั้ง 5 ราย หากผู้ปกครองจะขอประกันตัวจะต้องยื่นต่อศาลเยาวชนฯ แต่เชื่อว่าคงไม่มีการยื่นขอประกัน เพราะกระแสสังคมค่อนข้างแรง และหากจะยื่นขอประกันตัว ตนมองว่าศาลเยาวชนฯ จะใช้ดุลพินิจไม่อนุญาต เพราะท่านอาจมองว่าให้เด็กอยู่ในสถานพินิจฯ สังคมจะปลอดภัยกว่า ซึ่งขณะนี้ทางครอบครัวของเด็กทั้งหมดยังไม่ได้มีการยื่นประกันตัวแต่อย่างใด



โฆษกกรมพินิจฯ กล่าวว่า ระหว่างนี้เด็กทั้งหมดจะอยู่ในขั้นตอนการฝากขัง 1 ผัด คือ 12 วัน และพนักงานสอบสวนสามารถฝากขังได้ 4 ผัด และเมื่อครบ 4 ผัด พนักงานสอบสวนจะต้องสรุปสำนวนส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่คุมประพฤติของกรมพินิจฯ จะต้องจัดทำรายงานข้อมูลของเด็กๆส่งให้พนักงานสอบสวนภายใน 23 วัน เพื่อให้พนักงานสอบสวนนำเอารายงานดังกล่าวไปแนบประกอบสำนวนส่งอัยการในการพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง ตามขั้นตอน



ทั้งนี้ โฆษกกรมพินิจฯ กล่าวปิดท้ายว่า จากพฤติกรรมของเด็กทั้ง 5 ราย และการสืบเสาะข้อมูลในส่วนของพื้นเพ (Background) ครอบครัวของเด็ก พบว่า ไม่มีความสมบูรณ์ เช่น เด็ก 3 ราย ครอบครัวมีการหย่าร้าง ขณะที่เด็กอีก 2 ราย อยู่กับครอบครัว แต่ก็ไม่ปกติสมบูรณ์ บางรายไม่เคยหน้าพ่อหรือแม่ตั้งแต่กำเนิด เป็นต้น ตนจึงมองว่าปัจจัยหลักมาจากสถาบันครอบครัวที่มีความแตกแยกไม่สมบูรณ์จึงส่งผลต่อเด็กิจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาวิเคราะห์จากสถิติเด็กที่เข้าสู่กระบวนการของกรมพินิจฯ จะพบได้ว่าสาเหตุหลักมาจากความสัมพันธ์ภายในครอบครัวทั้งสิ้น