ตร.เอะใจ หนุ่มเข้าแจ้งความถูกดูดเงินมีพิรุธ ค้นประวัติเจอหมายจับยาบ้า รวบคาโรงพัก

ตำรวจไหวพริบดี เอะใจหนุ่มเข้าแจ้งความถูกแอปฯดูดเงินมีพิรุธ ตรวจสอบพบหมายจับค้ายา เรียกกำลังเสริมรวบคาโรงพัก

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 11 พ.ย. 2566 พ.ต.ต.ธนวัฒน์ ชีวิตโสภณ สว.(สอบสวน) สภ.บางกรวย ได้จับกุมตัวนายปรีดา พรรณนิยม อายุ 33 ปี ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดที่สมคบนั้นและร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครอง เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” หลังนายปรีดาได้เข้าแจ้งความว่าถูกมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บอกให้โหลดแอปพลิเคชัน สูญเงินไปกว่า 10,000 บาท

ส.ต.ต.พิทักษ์ โพยมชัชวาล ตำรวจผู้รับแจ้งความกับผู้ต้องหา กล่าวว่า เหตุเกิดประมาณช่วง 17.00 น. มีประชาชนเข้ามาแจ้งความ 2 คน เรื่องฉ้อโกงออนไลน์ แอบอ้างเป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บอกให้ผู้เสียหายโหลดแอปพลิเคชันและทำตามขั้นตอน ทำให้เงินในบัญชีโดนดูดไปประมาณ 10,000 บาท จึงขอบัตรประชาชนเพื่อเสียบเข้าเครื่องเพื่อดูข้อมูลแต่ไม่อ่านผล จึงค้นทะเบียนราษฎรตามเลขบัตรประชาชน ทำให้พบว่าผู้เสียหายรายนี้มีหมายจับติดตัว ที่ สภ.บางใหญ่ คดีสมคบคิดเรื่องยาเสพติด จึงนำบัตรประชาชนเสียบเข้าเครื่องอีกครั้ง และแกล้งชวนคุย ก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำและโทรหาสารวัตรเพื่อแจ้งข้อมูล จากนั้นสารวัตรได้เดินทางมาตรวจสอบ โดยระหว่างนั้นได้พยายามชวนให้ผู้เสียหายที่มีหมายจับรายนี้มองกล้องวงจรปิด ก่อนแจ้งให้สายป้องกันปราบปรามเข้ามาควบคุมตัว ผู้เสียหายค่อนข้างมีพิรุจ อยู่ไม่นิ่งและสั่น ไม่มองหน้า พยายามก้มหน้าตลอด สังเกตเห็นผู้เสียหายเหงือกสีดำ ฟันไม่ครบ จึงสงสัยว่าผู้เสียหายรายนี้เล่นยา เพราะอาการจำพวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของคนที่เล่นยา จากนั้นจึงค้นตัว โดยผู้เสียหายสมัครใจและได้แจ้งสิทธิเพื่อควบคุมตัว ส่วนเพื่อนที่มาแจ้งความด้วยได้ปล่อยตัวไป เพราะตรวจสอบประวัติแล้วไม่มีคดีติดตัว ซึ่งตอนนี้ผู้เสียหายยังให้การปฏิเสธและขอติดต่อญาติ แสดงท่าทีว่าไม่ได้ทำ เปลี่ยนจากผู้เสียหายเป็นผู้ต้องหาซะเอง

พ.ต.ต.ธนวัฒน์ กล่าวว่า ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่คดีสอบสวนร้อยเวรจราจรอยู่ ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ของคดีฉ้อโกงทรัพย์จากแอปดูดเงิน สูญเงินไปพอสมควร จากนั้นได้มาแจ้งความกับ ส.ต.ต.พิทักษ์ โพยมชัชวาล ซึ่งได้สอบถามข้อมูลแล้วเห็นท่าทีผู้เสียหายมีพิรุธตามลักษณะโจร จึงได้ขอบัตรประชาชนและตรวจสอบประวัติอาชญากรรม จึงพบว่ามีหมายจับอยู่ ส.ต.ต.พิทักษ์จึงได้แจ้งมาในฐานะผู้บังคับบัญชา หลังจากได้รับแจ้งจึง ตรวจสอบและเช็คว่าหมายจับยังมีผลบังคับใช้อยู่ และผู้ต้องหายังไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน จึงตรวจสอบไปยังโรงพักต้นสังกัดที่ สภ.บางใหญ่ ปรากฏว่าหมายจับเพิ่งออกเมื่อเดือนมิถุนายน จากนั้นจึงแจ้งชุดป้องกันปราบปรามสภ.บางกรวย เข้าควบคุมเรียบร้อยด้วยดี ขั้นตอนในการเข้าจับกุมเป็นไปตามกฏหมายทุกอย่าง มีการบันทึกวิดีโอและแจ้งสิทธิผู้ต้องหา ทางผู้ต้องหายังมึนงงอยู่ว่าตนเองมีหมายจับได้อย่างไร และให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ถือว่า ส.ต.ต.พิทักษ์ มีไหวพริบดี ในส่วนของคดีที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นข้อกล่าวหามีโทษที่ร้ายแรง และเป็นบุคคลตามหมายจับสำคัญที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องการตัวเพื่อไปดำเนินคดียาเสพติด การที่ส.ต.ต.พิทักษ์ มีไหวพริบปฏิภาณและสังเกตพฤติการณ์พฤติกรรมของผู้ที่ต้องสงสัยเป็นผู้ต้องหา ถือว่ามีวิญญาณของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างเต็มตัว 100% มีสติสัมปชัญญะไม่ตื่นเต้นตื่นตัว รีบรายงานผู้บังคับบัญชา และตีถ่วงเวลาให้ชุดจับกุมสามารถจับกุมได้ ถือว่าเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง และร้ายแรง จากการปฏิบัติหน้าที่มายังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เหมือนการเข้าถ้ำเสือ