นายกฯ เปิดมาตรการช่วยแรงงานไทยในอิสราเอลชดเชยเงินให้ 5 หมื่น - ให้กู้เงินดอกเบี้ยต่ำระยะยาว

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม.ว่า ในที่ประชุมครม.ได้มีการพูดคุยกันถึงการช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล โดยมีรายงานจากฝ่ายความมั่นคง และสถานทูตไทยประจำอิสราเอล ทราบว่าการต่อสู้ไม่ได้เบาบางลงไป แต่กลับทวีความเข้มข้นขึ้น และมีการปฏิบัติภาคพื้นดินอย่างต่อเนื่อง ความอันตรายยังมีอยู่มาก เรายืนยันต่อไปอยากให้พี่น้องคนไทยกลับมา ซึ่งต้องมีการปฏิบัติการเชิงรุก เพราะรู้ว่าการที่พี่น้องไม่กลับมาเพราะอะไร เป็นเพราะเรื่องเงิน โดยจะให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แถลงรายละเอียดว่า เรามีมาตรการช่วยเหลืออย่างไร โดยหลัก ๆ มี 2 เรี่อง คือ แรงงานที่กลับมาแล้ว แรงงานที่กำลังจะกลับมา และที่จะกลับมาในอนาคต จะได้เงินชดเชยคนละ 5 หมื่นบาท ตรงนี้ได้แน่ ๆ และจะได้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะยาว คนละไม่เกิน 150,000 บาท เผื่อใครที่ไปกู้มาต้องทำงานผ่อนใช้



นายกฯ กล่าวอีกว่า นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ลาการประชุมครม. เพื่อเดินทางไปรัฐกาตาร์ และสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ โดยรับทราบข้อมูลจากทุกฝ่ายที่ได้ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือเจรจากับกลุ่มชนที่จับคนไทยเป็นตัวประกัน ไม่ว่าจะเป็นการประสานจากนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้บังคับบัญชาทหารสูงสุด หรือหน่วยงานอื่น ๆ ตนคิดว่าเพื่อเป็นการลดความสับสน นายปานปรีย์ได้บินไปเจรจาเองที่หน้างานด้วยตัวเอง ก็จะช่วยเหลือได้มาก



ส่วนเที่ยวบินกลับมาจากอิสราเอลในทุกเที่ยว จะพยายามนำกลับมาให้ได้มากที่สุด ช่วยเหลือตัวประกันได้ก็พยายามช่วย อยากให้ประชาชนช่วยเผยแพร่ข่าวเพื่อให้พี่น้องแรงงานคนไทยรีบกลับมา

ล่าสุด นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบอนุมัติโครงการสินเชื่อคืนถิ่นแรงงานไทยจากอิสราเอล โดยรัฐบาลอนุมัติเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 2,000 ล้านบาท ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ดูแลคนละ 1,000 ล้านบาท ให้กับแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาจากอิสราเอลรายละ 150,000 บาท คิดดอกเบี้ย 3% รัฐบาลช่วย 2% และแรงงานที่กู้จะจ่ายเอง 1% ระยะเวลาการผ่อนชำระ 20 ปี จะตกเฉลี่ยผ่อนต่อเดือนเดือนละ 689.84 บาท โดยให้เวลาตัดสินใจในการยื่นกู้ถึงเดือนมิถุนายน 2567 ซึ่งถือเป็นการดูแลแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงในอิสราเอล





นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานยังเสนอที่ประชุมเป็นกรณีพิเศษว่าเงินเยียวยาผู้ที่เดินทางกลับมาแล้วจากเดิม 15,000 บาทอาจไม่เพียงพอจึงเสนอว่าอยากขออนุมัติงบกลางจ่ายให้เพิ่มคนละ 50,000 บาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับปากในที่ประชุมและให้มีผลย้อนหลังสำหรับผู้ที่เดินทางกลับมาก่อนด้วย ซึ่งในประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งหน้าจะให้กระทรวงแรงงานเป็นผู้เสนอเรื่องเข้ามาก่อนจะอนุมัติเงินอย่างเป็นทางการ

ส่วนวงเงินนั้น ต้องรอดูว่าจำนวนคนที่สมัครใจเดินทางกลับมามีจำนวนเท่าไหร่





ขณะเดียวกันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานยังเสนอเสนอขอให้มีการพักชำระหนี้ 1 ปี ทั้งต้นและดอกแก่แรงงานไทยที่เป็นหนี้สถาบันทางการเงิน วงเงิน 150,000 บาท ซึ่งจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการเป็นทาง