สังคม

'เศรษฐา' เยือนเชียงใหม่ รับข้อเสนอเอกชน สร้างสนามบินแห่งที่ 2 ผลักดันท่องเที่ยว

โดย chiwatthanai_t

16 ก.ย. 2566

135 views

นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมผลักดันการท่องเที่ยว ขยายเวลาสนามบินเชียงใหม่รองรับนักท่องเที่ยว รวมถึงการบริหารจัดการน้ำ และการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเตรียมนำเสนอในเวทีการประชุม UN ในสัปดาห์หน้าด้วย



ในการรับฟังข้อเสนอแผนพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ จากนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ตัวแทนภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตอบรับข้อเสนอ เช่นการขยายเวลาเปิดสนามบินเชียงใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีข่าวดีเร็วๆนี้ แต่ขอให้ไปทำความเข้าใจกับประชาชนโดยรอบที่อาจได้รับผลกระทบด้วย เช่นเดียวกับการเปิดสนามบินแห่งที่ 2 อาจทำในรูปแบบเดียวกับสนามบินอันดามันที่ภูเก็ต เป็นสนามบินนานาชาติล้านนา เพื่อรองรับในหลายจังหวัด



นายกรัฐมนตรี เห็นด้วยที่จังหวัดเชียงใหม่จะเปิดให้มี 12 เดือน 12 อีเวนต์​ ตรงกับเป้าหมายของรัฐบาลที่จะให้มี ไฮซีซั่นทุกเดือน และเชียงใหม่มีศักยภาพในการพัฒนา Soft power นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพร้อมสนับสนุนให้เชียงใหม่ มี world event world class chef ที่อาจให้เน้นเชฟในเชียงใหม่และภาคเหนือด้วย นอกจากนี้พร้อมสนับสนุนการท่องเที่ยวสายมู เชื่อมโยงวัฒนธรรมทางศาสนา รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Wellness ที่เชียงใหม่มีความพร้อม และเร่งจัดการปัญหาสำคัญ เรื่องฝุ่น PM 2.5 ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยวได้ ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้ากำหนดแผนแห่งชาติ และทุกนโยบายที่ต้องทำแบบ Quick win อยากให้คำนึงการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเป็นภาษีของประชาชน ต้องคำนึงถึงเหมือนเงินในกระเป๋าของเรา ที่ต้องใช้อย่างมีวินัย นายกรัฐมนตรี ย้ำด้วยว่าต้องการสนับสนุนให้เถ้าแก่เล็กเป็นเถ้าแก่ใหญ่ ที่วันหนึ่งอยากเห็นคนไทยเป็นเจ้าสัวระดับโลก ส่วนการเปิดฟรีวีซ่าให้จีน จะได้ไปทำความเข้าใจในระหว่างการเยือนจีน 8-10 ตุลาคมนี้


นายกรัฐมนตรี ได้ไปเยี่ยมชม ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดําริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อศึกษาต้นแบบการพัฒนาพื้นที่ น้ำ ป่า อาชีพ และการใช้ประโยชน์ร่วมกันของชุมชนตามแนวทางพระราชดําริ ซึ่งสามารถพลิกฟื้นป่าเสื่อมโทรม เป็นป่าอุดมสมบูรณ์ได้ในเวลากว่า 40 ปี นอกจากนั่งรถรางชมสภาพป่าที่ฟื้นคืนมาแล้ว นายกรัฐมนตรียังได้ปลูกต้นยางนา เป็นที่ระลึกในจุดที่ใกล้เคียงกับฝายที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยมาทำไว้เมื่อปี 2555 และฝายแม้ว ที่นายทักษิณ ชินวัตร ได้มาทำไว้เมื่อปี 2544 หลังได้รับตำแหน่งได้ไม่นาน เช่นเดียวกับนายเศรษฐา ที่ได้มาเยี่ยมชม ในปี 2566 ซึ่งผลสำเร็จจากโครงการในพระราชดำริ ในหลวงรัชกาล ที่ 9 สืบสาน รักษา ต่อยอดมาถึงในหลวงรัชกาลที่ 10 กลายเป็นต้นแบบในการพัฒนาอย่างยั่งยืน เช่น โคกหนองนา โมเดล ก็สามารถนำไปเป็นตัวอย่างที่จะนำเสนอในการประชุม UNGA ที่สหรัฐอเมริกา ในสัปดาห์หน้าด้วย


นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เขื่อนแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด ตรวจเยี่ยมอุโมงค์ผันน้ำบริเวณเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ซึ่งนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำภาคเหนือในปีนี้ น้ำน้อยกว่าปีก่อน 3,700 ล้านลูกบาศ์กเมตร ส่วนในเขื่อนแม่กวง มีปริมาณน้ำน้อยกว่าปีก่อน 30 ล้านลูกบาศ์กเมตร โดยโครงการเพิ่มปริมาณน้ำให้เขื่อนแม่กวง ก่อสร้างไปแล้ว 80% อยู่ระหว่างเร่งรัดให้ผู้รับจ้างเร่งดำเนินการ ซึ่งโครงการจะเริ่มต้นจากประตูระบายน้ำแม่ตะมาน อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ไปยังเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และจากเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลไปสู่เขื่อนแม่กวงอุดมธารา ความยาว 49 กิโลเมตร ส่วนเขื่อนภูมิพล เป็นเขื่อนสร้างเสถียรภาพให้ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา 22 จังหวัด มีปริมาณน้ำน้อยกว่าปีก่อน 1,800 ล้านลูกบาศ์กเมตร และไม่เคยเต็มความจุ นอกจากในปี 2554 ที่น้ำท่วมใหญ่ แต่มีศักยภาพต่อการเกษตร จึงมีโครงการเติมน้ำให้เขื่อนภูมิพล โดยผันมาจากแม่น้ำยวม อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเชื่อมต่อกับแม่น้ำสาละวิน คาดว่าจะเพิ่มปริมาณน้ำได้มากกว่า 3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

ซึ่งผ่านการเห็นชอบคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนการมีส่วนร่วมของประชาชนในหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ หากทำโครงการแล้วเสร็จจะผันน้ำได้ ปีละประมาณ 1,800 ล้านลูกบาศ์กเมตร หากใช้ครึ่งหนึ่งเก็บครึ่งหนึ่งทุกปี คาดว่าเขื่อนภูมิพลจะมีน้ำเต็มภายใน 5 ปี


ขณะที่นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการผลักดันโครงการผันน้ำยวม ที่กรมชลประทานเสนอ โดยให้มีการศึกษาเพื่อดำเนินการต่อ แต่ ก็ต้องรับฟังเสียงของประชาชนเป็นสำคัญ​ และการขออนุญาตให้ต้องให้ประชาชนมีส่วนด้วย


ในช่วงค่ำนายกรัฐมนตรี​ ได้ไปเที่ยวชมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี​ ได้แวะเล่นกับเมียแคท​ ซึ่งเป็นสัตว์ที่จัดแสดงโชว์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมทุกวันศุกร์​ เสาร์​ และ​อาทิตย์ รับชมการแสดงระบำน้ำพุ ก่อนที่จะรับประทานอาหารค่ำพื้นเมืองเป็นแบบขันโตก ถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงได้รับความนิยมของเชียงใหม่ โดยนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย. 66)

คุณอาจสนใจ

Related News