เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯนั่งรถไฟชั้น 2 จากอุดร-หนองคาย ถกพัฒนารถไฟรางคู่เฟสสอง - เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย เคาะกระหม่อมนายกฯ อวยชัย

โดย weerawit_c

10 ก.ย. 2566

398 views

นายกฯนั่งรถไฟชั้น2 จากอุดร-หนองคาย ถกพัฒนารถไฟรางคู่เฟสสอง - เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย เคาะกระหม่อมนายกฯ อวยชัยขอให้บริหารประเทศให้ดี


วานนี้ (9 ก.ย.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางด้วยรถไฟดีเซลรางนั่งปรับอากาศชั้นสองขบวนพิเศษ โบกี้ที่ 2516 เดินทางจากสถานีรถไฟอุดรธานี ไปยังสถานีรถไฟหนองคาย กับนักธุรกิจภาคเอกชน เพื่อพูดคุยประเด็นการขนส่งสินค้าสินค้าจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน


ซึ่งระหว่างนั่งรถไฟนายกรัฐมนตรีและคณะได้พูดคุยกับนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน นายวรายุส์ ตรีวัฒนสุวรรณ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี และ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ถึงเส้นทางรถไฟรางคู่ซึ่งขณะนี้ ระยะ1 ถึงแค่จังหวัดขอนแก่นเท่านั้น ส่วนระยะที่ 2 จะมีการเชื่อมต่อจากจังหวัดขอนแก่นมายังจังหวัดหนองคาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจและการขนส่ง ให้สามารถเชื่อมต่อจากไทยไปลาวและจีนได้


ขณะที่หอการค้าไทย-จีน และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ต้องการให้รัฐบาลเร่งรัดการก่อสร้างรถไฟรางคู่ให้เสร็จก่อนปี2569 ซึ่งจังหวัดอุดรธานี จะเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งเรื่องการค้าและการท่องเที่ยว


จากนั้นขบวนรถไฟได้หยุดแวะพักที่สถานีนาทา จังหวัดหนองคาย ซึ่งจะเป็นจุดที่ก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอรายละเอียด การพัฒนาพื้นที่นาทา ซึ่งมีแนวคิดต้องการให้เป็นจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าแบบ One stop service ที่มีหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องกลับการเปลี่ยนถ่ายสินค้าจุดเดียวไม่ว่า ศุลกากร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และอย.


ซึ่งปลัดกระทรวงคมนาคมได้ชี้แจงว่า การดำเนินการที่ผ่านมาแผนจะเป็นลักษณะเดียวกันกับที่นายกต้องการ ซึ่งจะต้องมีการประสานกับจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าประเทศเพื่อนบ้าน


สำหรับพื้นที่นาทาอาจจะต้องมีการเวนคืนที่ดินบริเวณโดยรอบ 193 ไร่ และอาจจะต้องใช้เงินลงทุน 5400 ล้านบาท ซึ่งจะต้องใช้แนวทาง ให้เอกชนร่วมลงทุน


พร้อมกันนี้ ยังมีการรายงานต่อนายกรัฐมนตรีว่าการขนถ่ายสินค้าระหว่างไทยกับลาว ยังมีความล่าช้าเนื่องจาก เส้นทางรถไฟจุดสะพานมิตรภาพไทยลาวรับน้ำหนัก ได้น้อยจึงมีแปนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการรับน้ำหนัก เพื่อทำให้การขนถ่ายสินค้าคล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้น


และเมื่อเวลา 10.50 น. ขบวนรถไฟมาถึงสถานีรถไฟหนองคาย มีประชาชนจำนวนมากรอต้อนรับอยู่ โดยได้มอบดอกกุหลาบ ผูกผ้าขาวม้า และขอถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรีด้วยความคึกคัก พร้อมตะโกนด้วยว่า “นายกเศรษฐา ชาวนาจะเป็นเศรษฐี” นอกจากนี้ยังมีสภาเกษตรกรจังหวัดสภาเกษตรกรหนองคายได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกับนายกฯเพื่อขอให้แก้ไขปัญหา สิทธิทำกินและปัญหาแหล่งน้ำ


จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะพูดคุยกับผู้ประกอบการส่งออก ณ ด่านพรมแดนหนองคายเพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาการส่งออก ขั้นตอนพิธีการศุลกากร การค้าชายแดน และการพัฒนา One Stop Service ระหว่าง ไทย ลาว และจีน


เวลา 13.30น. นายเศรษฐา และคณะเดินทางต่อมายัง วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคายเพื่อเข้าสักการหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อบ้านหลวงพ่อพระใส ซึ่งเป็นอารามหลวง ทันทีที่นายเศรษฐา ได้เดินมาถึงอุโบสถได้มีชาวบ้านเข้ามาขอถ่ายรูป พร้อมนำผ้าขาวม้ามาผูกที่เอว และกล่าวว่า ต้องผูกแน่นๆ จะได้อยู่นานๆ พวกเรารอมานานแล้ว นายกฯ ต้องอยู่นานๆ จากนั้นนายเศรษฐา ได้เข้ากราบสักการะพระพุทธรูปหลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองหนองคาย และนมัสการ พระเทพวชิรคุณ (รศ.ดร.พิศิษฐ์ สุวีโร) เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย พร้อมทั้งรับพรจากเจ้าอาวาสที่ระบุว่า “ได้ติดตามพวกท่านทั้งหมด รู้จักชื่อรัฐมนตรีทุกคน ขอให้ช่วยกันบริหารประเทศให้ดี” จากนั้นนายเศรษฐา ได้ก้มกราบรับน้ำมนต์จากเจ้าอาวาส โดยเจ้าอาวาสได้ใช้ตอกพรมน้ำมนต์แตะไปที่ศีรษะของนายกรัฐมนตรี


จากนั้นเวลา 15.00น. นายเศรษฐา และคณะได้เดินทางมาที่ตลาดผ้าบ้านนาข่า ซึ่งเป็นการร่วมกลุ่มทอผ้าของชาวบ้าน จนมีการบริหารกันในรูปแบบธุรกิจ โดยเฉพาะการขายผ้าไหมลายขิด และผ้าฝ้ายย้อมคราม ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากพ่อค่าแม่ขายในพื้นที่เข้ามาขอถ่ายรูปกันอย่างคึกคัก ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากได้ผ้าไทยไปตัดชุด สำหรับใส่เป็นประชุมคณะรัฐมนตรี แต่เดินจนสุดซอยแล้วยังไม่ได้ผ้าที่ถูกใจ


ก่อนเดินทางกลับนายกรัฐมนตรีได้ถ่ายรูปที่จุดถ่ายรูปที่ระลึกของตลาดผ้านาข่า พร้อมกับ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับสินค้า OTOP แต่เข้าใจว่าตอนนี้มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูง จะขอยืนยันว่าในการประชุมครม. นัดแรกจะลดค่าไฟฟ้า และค่าน้ำมัน เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์เบื้องต้นส่วนปัญหาหนี้สินก็จะดูแลด้วย


จากนั้นนายกฯและคณะได้เดินทางต่อไปยังสนามบินนานาชาติจังหวัดอุดรธานีเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร

https://youtu.be/n_M1wzMJpmE

คุณอาจสนใจ

Related News