จ่ายแล้วแสนสาม หลังเป็นข่าว แม่พาลูกสาวร้องสื่อ ถูกรถชน 5 เดือน คดีไม่คืบ

จ่ายแล้ว 1.3 แสน หลังแม่วัย 36 ปี ชาวอุดรธานีพาลูกสาวร้องสื่อ ถูกรถชนแล้ว 5 เดือนคดีไม่คืบ ลูกสาวบาดเจ็บ วันนี้เจ้าของรถติดต่อขอชดใช้ 130,000 บาท ยอมรับเป็นเจ้าของรถแต่ลูกน้องเอาไปขับ พร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้ทันที

วันนี้ (31 ส.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีนางพิกุล สอนดี อายุ 36 ปี ชาวอุดรธานี พร้อมลูกสาว ด.ญ.ปาย อายุ 15 ปี ได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรม กรณีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนแล้วหนี ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา เหตุเกิดที่ซอยสุวรรณ ต.บ้านเลื่อม อ.เมืองอุดรธานี แต่ผ่านมาเกือบ 5 เดือนกว่าแล้วคดีไม่คืบหน้าเลย ลูกสาวต้องกลายเป็นพิการ ส่วนคนขับยังลอยนวลไม่ได้รับผิดแต่อย่างใด โดยทางตำรวจรับปากจะเรียกอีกฝ่ายมาเจรจาคุยกัน

ล่าสุดบ่ายวันนี้ ที่ สภ.เมืองอุดรธานี นางพิกุล สอนดี อายุ 36 ปี ชาวอุดรธานี พร้อมลูกสาว อายุ 15 ปี ได้เข้ามาไกล่เกลี่ยคดีความกับเจ้าของรถ ซึ่งเจ้าของรถยินยอมจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับครอบครัวจำนวน 130,000 บาท โดยวันนี้เจ้าของรถคู่กรณีได้จ่ายเงินให้ก่อน 29,000 บาท จากนั้นวันที่ 7 กันยายน จะให้อีก 30,000 บาท ต่อจากนั้นเจ้าของรถคู่กรณีจะผ่านจ่ายเป็นงวดๆ จนกว่าจะครบ

โดยนางพิกุล บอกว่า รู้สึกดีใจที่เจ้าของรถติดต่อกลับมาชดใช้กรณีรถชนลูกสาวเป็นเงินจำนวน 130,000 บาท ทั้งนี้เงินจำนวนที่ได้วันนี้ตนจะเอาไปใช้หนี้ ซึ่งไปหยิบยืมมาในการรักษาพยาบาลลูกสาว ด้านคู่กรณีชี้แจ้งข้อมูลว่า รถคันนั้นให้ลูกน้องเป็นคนขับเมื่อเกิดอุบัติเหตุก็หนีไป มารู้อีกตำรวจมาแจ้งรีบให้มาพบและชดใช้ค่าเสียหายให้แก่คู่กรณี ไม่มีเจตนาหนีแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ลงพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือเบื้องต้น ให้คำแนะนำเรื่องของการเลี้ยงดูเด็กตามวัย และประสานเรื่องการเข้ารับการศึกษาต่อของน้องปาย โดยมีแผนที่จะส่งน้องทั้งสองคนเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ในจังหวัดใกล้เคียง พร้อมกับมอบเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

เบื้องต้นพิจารณามอบเงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน และจะประสานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในการขอรับเงินช่วยเหลือจากกองทุนคุ้มครองเด็ก รวมถึงประสานยุติธรรมจังหวัดเพื่อขอรับการพิจารณาเงินเยียวยาจากการที่น้องได้รับอุบัติเหตุจนบาดเจ็บต่อไป