สาวดีใจสุดขีด ถูกรางวัลที่ 1 รับเงิน 12 ล้าน เผยจนมากไม่มีเงินซื้อลอตเตอรี่ ต้องขอคนขายติดเงินไว้ก่อน

เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 31 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ น.ส.วกุลทิพย์ อายุ 23 ปี ชาวหมู่ 5 บ้านโนนแสนสุข ตำบลสังเม็ก อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษพร้อมด้วยครอบครัวและญาติพี่น้องได้นำเอาสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 2 ใบ เป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำงวดวันที่ 31 ก.ค.66 งวดที่ 30 ชุดที่ 44 และชุดที่ 45 หมายเลข 260453 เข้าไปแจ้งความกับ ร.ต.ท.ชวนาภรณ์ คุณเพชรนาค ร้อยเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ ไว้เป็นหลักฐานว่า สลากกินแบ่งรัฐบาล ทั้ง 2 ใบ ถูกรางวัลที่ 1 จะได้รับเงินรางวัลรวมจำนวนทั้งสิ้น 12 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว


น.ส.วกุลทิพย์ อายุ 23 ปี เล่าว่า ตนกับสามีประกอบอาชีพรับจ้างก่อสร้างฐานะยากจนมาก มีลูก 2 คน ต่อมาเมื่อช่วงใกล้สว่างของคืนวันที่ 29 ก.ค.66 ขณะที่ตนกำลังครึ่งหลับครึ่งตื่น ได้ยินเสียงคล้ายกับมีคนมาบอกว่าให้ซื้อเลข 53 เป็นเลขที่จะออกรางวัลที่ 1 พอรุ่งเช้ามีคนขายสลากกินแบ่งรัฐบาล เดินมาเร่ขายที่บ้านของตน ที่อาศัยอยู่กับครอบครัว แต่ว่าตนไม่มีเงินสดติดตัวเนื่องจากยากจนมาก จึงได้ขอใช้เครดิตกับคนขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ขอซื้อเลขท้าย 53 จำนวน 2 ใบ และเลขท้ายอื่นอีก จำนวน 2 ใบ รวมเป็นเงินจำนวน 400 บาท ซึ่งคนขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ยอมให้ติดหนี้และนำเอาสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 4 ใบ มาให้กับตน


น.ส.วกุลทิพย์ เล่าต่อไปว่า ต่อมาช่วงบ่ายของวันนี้ (31 ก.ค.66) ตนได้ฟังผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ทราบว่า เลขท้ายรางวัลที่ 1 คือ 53 ตนจึงได้นำเอาสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ซื้อไว้มาตรวจรางวัล และปรากฏว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลที่ตนซื้อไว้ เลขท้าย 53 คือ สลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำงวดวันที่ 31 ก.ค.66 งวดที่ 30 ชุดที่ 44 และชุดที่ 45 หมายเลข 260453 ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ จะได้รับเงินรางวัล 12 ล้านบาท ทำให้ตนดีใจมาก จึงได้แจ้งให้แม่ทราบ และได้โทรศัพท์ไปบอกให้พ่อรู้ว่าตนถูกรางวัลที่ 1 ด้วยอาการดีใจสุดขีด จากนั้น จึงได้พากันมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ไว้เป็นหลักฐาน


น.ส.วกุลทิพย์ ยังเล่าด้วยว่า ตนจะเดินทางไปรับเงินรางวัลในวันที่ 3 ส.ค.66 ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กรุงเทพฯ ซึ่งเงินรางวัลที่จะได้รับมา จำนวน 12 ล้านบาท ตนจะนำเอาไปสร้างบ้านอยู่ เพราะว่าบ้านที่ตนเองอยู่กับครอบครัวเก่ามากใกล้จะพังแล้ว จะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้ลูกทั้ง 2 คน ใช้เงินเป็นทุนในการประกอบอาชีพ และจะแบ่งเงินให้พ่อแม่ รวมทั้งจะนำเอาไปทำบุญที่วัดในหมู่บ้านอีกด้วย