สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 5 ก.ค.66 วันนอร์นั่งประธานสภาฯ-รวบพ่อเลี้ยงโหดฆ่าโบกปูน-ไอซ์ ปรีชญา หมดสติ

โดย thichaphat_d

5 ก.ค. 2566

28 views

1. “วันนอร์” คว้าตำแหน่งประธานสภาฯ แบบไร้คู่แข่ง

ผ่านฉลุย! สภามีมติเอกฉันท์ “วันนอร์” นั่งเก้าอี้ประธาน - “พิเชษฐ์” เพื่อไทย เป็นรองประธานคนที่ 2 ไร้คู่ชิง ส่วน “หมออ๋อง ปดิพัทธ์” ก้าวไกล คว้ารองประธาน คนที่ 1 ชนะ “วิทยา” รวมไทยสร้างชาติ 312 ต่อ 150 โดย 8 พรรคร่วมจับมือแน่นไม่มีใครแตกแถว

2. รวบ " แจ๊บ" พ่อเลี้ยงโหด ฆ่าโบกปูนลูกเลี้ยงยัดถังอำพราง

จับแล้ว “แจ๊บ” พ่อเลี้ยงโหด หลังใช้ไม้เบสบอลฟาด ด.ญ. วัย 12 ปี ดับ นำศพยัดถังน้ำแข็ง โบกปูนถมดินทับ หลังหนีกบดานโรงแรมย่านอินทามระ ตำรวจเผยแจ๊บ สารภาพทุกข้อหา อ้างชนวนเหตุไม่พอใจเด็กมาก่อน เลยตีไป 10 ครั้ง จนแน่นิ่ง ไม่คิดว่าตาย สุดท้ายต้องอำพรางศพเพราะกลัวมีความผิด ครอบครัวร่ำไห้แทบขาดใจ หลังร่าง "น้องปีใหม่" มาถึงวัด ญาติๆ ส่งเสียงสาปแช่งพ่อเลี้ยงโหด เตรียมสวด 3 คืน ก่อนฌาปนกิจ

3. ลูกเหยื่อ “ทางเลื่อน” เผยแม่อาการดีขึ้น พักฟื้นเตรียมทำกายภาพ

ลูกชายเผยอาการ แม่เหยื่อทางเลื่อนสนามบินดอนเมืองดีขึ้น ออกจากไอซียูวานนี้ พักฟื้นเตรียมทำกายภาพ ใช้วอล์กเกอร์ยืนขาเดียวได้แล้ว สภาพจิตใจดีขึ้น เริ่มพูดคุยกับคนที่มาเยี่ยมแล้ว ที่โพสต์ตามหาคนเห็นเหตุการณ์ เพราะอยากรู้ความจริง ไม่ได้นำมาเป็นพยานในคดี ส่วนเรื่องเยียวยาครอบครัวขอเวลาพูดคุย เพราะยังประเมินความเสียหายไม่ได้

4. ตร.เมาขับ ซิ่งกระบะเสย จยย. 3 คัน ดับ 2 สาหัส 2

วงจรปิดนาที ตำรวจเมาซิ่งกระบะ ชนกวาดมอเตอร์ไซค์วิ่งสวนทาง 3 คันรวด ดับ 2 สาหัส 2 ญาติคนตาย หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ผู้กำกับ สภ.วังน้อย รับผู้ก่อเหตุยศ ร้อยตำรวจตรี เป็น รองสารวัตร เหตุเกิดเวลานอกราชการ ตรวจแอลกอฮอล์พบเกินกฎหมาย ขอให้ผู้เสียหายเชื่อมั่นตนทำคดีตรงไปตรงมา

5. หาม “ไอซ์ ปรีชญา” ส่งรพ.ด่วน พบหมดสติในห้องพัก

หามนางสาวเอกสาว “ไอซ์ ปรีชญา” ส่งรพ. พบหมดสติในห้องพัก ชีพจรเต้นอ่อน ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ก่อนหน้านี้เจ้าตัว โพสต์ภาพสีดำ – ยาแก้ช้ำใน และ ลบรูปคู่ “สเตฟาน” แฟนหนุ่มลูกครึ่งเกลี้ยงไอจี



เรื่องเล่าการเมือง

1.ผ่านฉลุย! "วันนอร์" ประธานสภา "ปดิพัทธ์ - พิเชษฐ์" รองฯ

8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลผ่านด่านแรกไปแล้ว คือ การเลือกประธานสภา ซึ่งถือว่าผ่านไปอย่างราบรื่น ได้ประธานและรองประธานสภาตามที่วางตัวบุคคลไว้

คือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ได้เป็นประธานสภาฯ ด้วยมติเอกฉันท์ โดยไม่ต้องโหวต เพราะอีกฝ่ายไม่ได้เสนอใครมาแข่ง

รองประธานสภาคนที่ 1 เป็น นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ถึงแม้พรรครวมไทยสร้างชาติจะเสนอนายวิทยา แก้วภราดัย มาแข่ง แต่ นายปดิพัทธ์ ก็ชนะขาดลอย และรองประธานคนที่ 2 คือ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ก็ชนะโดยไม่ต้องโหวต เพราะอีกฝ่ายไม่ได้เสนอใครมาแข่ง

โดยการประชุมสภาเมื่อวาน มีพลตำรวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีอาวุโสสูงสุด อายุ 89 ปี ทำหน้าที่ประธานชั่วคราว

หลังการกล่าวคำปฏิญาณตนของ ส.ส. ก็เข้าสู่วาระการเลือกประธานสภาฯ โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นผู้ลุกขึ้นเสนอชื่อนายวันนอร์ เป็นประธานสภา

จากนั้นไม่มีการเสนอชื่อใครมาชิงตำแหน่งประธานสภาอีก ประธานที่ประชุมจึงให้นายวันนอร์ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งนายวันนอร์ ก็แสดงวิสัยทัศน์สั้น ๆ เพียง 2-3 นาที และเนื่องจากเป็นการเสนอชื่อเพียงคนเดียว จึงไม่ต้องมีการโหวต และ ประธานฯ ได้แจ้งที่ประชุม ถือว่า นายวันนอร์ ได้รับเลือกเป็นประธานสภา

จากนั้นเป็นการเลือกรองประธานสภาคนที่ 1 โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ นายปดิพัทธ์ จากพรรคก้าวไกล

ขณะที่ทางพรรครวมไทยสร้างชาติโดยนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี เสนอชื่อ นายวิทยา แก้วภราดัย มาชิงตำแหน่ง ทำให้ต้องมีการโหวตลงมติ โดยทั้งสองท่านได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมก่อนลงมติ

จากนั้นเป็นขั้นตอนของการลงคะแนนลับ โดยให้ ส.ส.เขียนชื่อผู้ที่จะเลือกใส่กล่อง และขานคะแนนกันทีละใบ

ซึ่งสุดท้ายปรากฏว่า นายปดิพัทธ์ ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 ด้วยคะแนน 312 เสียง นายวิทยา ได้คะแนน 105 คะแนน มีผู้งดออกเสียง 77 คะแนน และบัตรเสีย 2 คะแนน ซึ่งต่อมามีรายงานข่าวว่า ในส่วนของผู้ที่งดออกเสียง ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.พรรคภูมิใจไทยที่มี ส.ส.ทั้งหมด 71 คน



2."พิธา" ชี้ ผลโหวตโชว์ 8 พรรคร่วมมีเอกภาพเต็มร้อย

หลังการเลือกประธานและรองประธานสภาเสร็จสิ้น นายพิธา แถลง ระบุว่าผลโหวตที่ออกมาสะท้อนให้เห็นว่า 8 พรรคร่วมมีความเป็นเอกภาพเต็มร้อย

โดยนายพิธา มาแถลงข่าวพร้อมกับนายปดิพัทธ์ ว่าที่รองประธานสภา คนที่ 1 นายพิธา บอกว่า ผลการโหวตน่าจะเป็นการยืนยันถึงเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรค ที่สามารถจะรวบรวมเสียงไม่ให้แตกแถว และมีเอกภาพในการโหวต

โดยเฉพาะการโหวตตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 คือ นายปดิพัทธ์ ที่ได้ 312 เสียง ทั้งที่ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ในฐานะประธานสภาชั่วคราว ไม่ได้ลงเสียง รวมถึงมี ส.ส.ของพรรคที่ต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ และยังมี ส.ส.ของพรรคร่วมที่ไม่ได้ร่วมโหวตด้วย ตัวเลขที่ออกมาแสดงถึงเอกภาพ เป็นนิมิตหมายที่ดีต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี



3."พิธา" ลั่น ก้าวไกล "รุกได้ถอยเป็น"

ขณะที่ช่วงเช้า ก่อนประชุมสภา นายพิธา ให้สัมภาษณ์ถึงการที่พรรคก้าวไกล ยอมถอยเรื่องประธานสภาฯ ว่าเพื่อความเป็นเอกภาพของ 8 พรรคร่วม โดยย้ำว่าพรรคก้าวไกล "รุกได้ถอยเป็น"

นายพิธา ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมสภาเพื่อเลือกประธานและรองประธานสภา ถึงการ ที่พรรคยอมถอยให้มีการเสนอชื่อนายวันนอร์ เป็นประธานสภา ว่า เพื่อรักษาเอกภาพและมิตรภาพของพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องนี้เป็นการส่งสัญญาณที่ดีว่าพรรคก้าวไกล "รุกได้ถอยเป็น"

และหลังจากที่นายพิธา เสนอชื่อนายวันนอร์เป็นประธานสภาในที่ประชุม และนายวันนอร์ได้รับเลือกแล้ว นายพิธาได้โพสต์เฟซบุ๊ก ร่ายยาวชี้แจงเรื่องนี้อีกครั้ง ใจความสำคัญ คือ ตอบคำถามว่าทำไมพรรคก้าวไกลถึงยอมถอยเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ โดยยืนยันว่า เป็นการตัดสินใจภายใต้การรักษาเอกภาพการทำงานระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล และได้ย้ำถึงความเชื่อมั่นในตัวนายวันนอร์ โดยบอกว่า "ผมกล้าพูดได้ว่า อ.วันนอร์เป็นหนึ่งคนที่ผมสามารถไหว้ได้อย่างสนิทใจ"

และช่วงท้ายได้ระบุว่า "ไม่ว่าฉากทัศน์จะเป็นอย่างไร ผมพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะเผชิญกับทุกสถานการณ์ การตัดสินใจครั้งนี้ของพวกเราไม่ใช่การเอาประโยชน์ของผมหรือพรรคก้าวไกลเป็นตัวตั้ง แต่เป็นภารกิจเพื่ออนาคตการฟื้นฟูประชาธิปไตยของประเทศ

การตัดสินใจภายใต้เงื่อนไขรัฐบาลผสม สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้ที่จะเดินหน้าและถอยภายใต้สถานการณ์ที่เหมาะสม การตัดสินใจของพรรคก้าวไกลในวันนี้ ไม่ใช่เป็นไปเพื่อเหตุผลทางการเมืองเฉพาะหน้า แต่เราตัดสินใจจากคุณค่าพื้นฐานร่วมกันของพรรคในการทำงานการเมืองระยะยาวเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศให้สำเร็จได้ โดยมีเส้นที่เราจะไม่สามารถล่วงล้ำได้เลย คือการทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน"



4."วันนอร์" ลาออก “หัวหน้าประชาชาติ” หลังรับตำแหน่ง “ประธานสภา”

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ให้สัมภาษณ์ ยืนยัน จะทำงานให้ดีที่สุดในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฏร เพื่อบ้านเมืองและประชาธิปไตยตามที่ประชาชนคาดหวัง

พร้อมบอกว่า ใช้เวลาไม่นานในการตัดสินใจ ซึ่งใจจริงอยากให้ทั้ง 2 พรรคใหญ่ตกลงกันได้เพื่อให้การทำงานราบรื่น แต่เมื่ออยากให้ตนมาทำหน้าที่นี้ ก็ต้องทำหน้าที่เพราะเป็นภาระของพวกเราทุกคน

จากนั้น นายวันนอร์ มีการเปิดเผย ยอมรับว่าได้ทำหนังสือลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาชาติแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. และมีผลทันที เพื่อความเป็นกลางในการทำหน้าที่

เช่นเดียวกับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ก็ได้ลาออกจากกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลแล้ว เพื่อทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง หลังได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1



5."วิทยา" แจงชิง "รองปธ.สภาฯ" สะท้อนจุดยืนตรงข้าม "ก้าวไกล"

ควันหลงจากการประชุมสภานัดแรก โดยเฉพาะการโหวตรองประธานสภาคนที่ 1 เมื่อวานนี้ นายวิทยา แก้วภราดัย จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ย้ำว่า การลงชิงในตำแหน่งนี้ เป็นการสะท้อนจุดยืน ว่า อยู่ตรงข้ามกับพรรคก้าวไกล

เมื่อวานนี้ นายวิทยา แก้วภราดรัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภา ซึ่งถูกเสนอชื่อชิงตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 ว่าคะแนนที่ออกมา จะเป็นเอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาลเดิมหรือไม่ ยังไม่ได้พูดคุยกัน แต่ เป็นเรื่องการตัดสินใจ เพียงว่าอยู่คนละฝั่งกับฝ่ายที่จะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองซึ่งเป็นแนวทางที่เราไม่เห็นด้วย

ก็บอกว่า เหตุผลที่ลงแข่ง เพื่อแสดงจุดยืน ว่าอยู่ตรงข้ามกับพรรคก้าวไกล ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องมาตรา 112 แต่ยังมีอีกหลายเรื่อง ที่เรารับไม่ได้ และประชาชนก็รับไม่ได้

นายวิทยา ยังพูดถึงตำแหน่งประธานสภา ซึ่งเป็นของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ว่า "ในความคิดของผมอาจารย์วันนอร์ ก็คือเพื่อไทย และยังมีความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อไทย ดีกว่าก้าวไกล ดังนั้นเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ถอย แต่ “เขาเดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำย เดี๋ยวก็หมดจาน"

ขณะที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก ย้ำถึงการที่พรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอชื่อวิทยา ส.ส.บัญชีรายชื่อ ชิงตำแหน่งรองประธานคนที่ 1 ว่า “หากไม่มีใครเสนอชื่อแข่ง ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเพียงคนเดียวก็จะลอยลำได้ตำแหน่งทันที จะเท่ากับว่าเรายอมรับไปด้วย

ดังนั้น จึงต้องเสนอสู้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ผลชนะหรือแพ้ แต่อยู่ที่ใจและสำนึกการทำหน้าที่ปกป้องสิ่งที่เรารัก ซึ่งสำคัญที่สุดคือเราสู้ไม่ถอย"



6."ส.ว.สมชาย" แนะ "ก้าวไกล" ลดเพดานแก้ 112 อย่าสร้างเงื่อนไขขัดแย้ง

เมื่อวานนี้ยังมีท่าทีจาก “ส.ว.” ซึ่งเป็นด่านสำคัญในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดย ส.ว.สมชาย แสวงการ ออกมาแนะให้พรรคก้าวไกล ลดเพดานเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ระบุว่า ขออย่าสร้างเงื่อนไขเพิ่มความขัดแย้ง

เมื่อวานนี้ นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ หลังรับหนังสือจาก กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน และ กลุ่มรามคำแหงรักสถาบัน ที่เรียกร้องไม่ให้ ส.ว. โหวตนายกรัฐมนตรี ที่สนับสนุนการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112

ว่า "ส่วนตัวไม่เชื่อว่า 14 ล้านเสียง จะต้องการให้มีการแก้ไขหรือยกเลิก มาตรา 112 และสิ่งที่กระทบความมั่นคงของชาติ" และยังบอกว่า ที่ผ่านมาพยายามสื่อสารกับพรรคก้าวไกล ให้ลดเพดานเรื่องนี้ลง เพราะถ้าเดินต่อ จะยิ่งเพิ่มเงื่อนไขนำไปสู่ความขัดแย้ง แล้วทำให้ ส.ว.ไม่สบายใจมากขึ้นในการโหวต เพราะเป็นผลกระทบต่อความสงบสุขของประเทศ”


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/sF6heUtkSBQ

คุณอาจสนใจ

Related News