สังคม

สุนัขกัดเด็ก 5 ขวบ หูเกือบขาด เจ้าของให้เงิน 1 หมื่นบาท ก่อนไร้เหลียวแล

โดย paranee_s

8 มิ.ย. 2566

286 views

วันที่ 8 มิถุนายน 2566 เพจเฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานเรื่องราวร้องทุกข์ของคุณแม่รายหนึ่ง กรณีลูกชาย 5 ขวบถูกหมาจากร้านค้าซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านเธอมากัด โดยวันเกิดเหตุ คือ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา คนในบ้านหลังดังกล่าว (แต่ไม่ใช่เจ้าของหมา) มาตัดผมที่ร้าน แล้วหมาตัวนี้ก็วิ่งตามมา ตอนนั้นลูกชายเธอเล่นอยู่หน้าบ้านและเอาไม้ตีพื้น เธอจึงพาลูกชายเข้าไปด้านในบ้าน


แต่มีช่วงจังหวะหนึ่งที่เธออยู่ในบ้าน ไม่ทันเห็นลูกชายว่าออกไปหน้าบ้านตอนไหน แต่ได้ยินเสียงร้องกรี๊ดดังลั่น เมื่อเธอออกมาดูหน้าบ้านก็แทบช็อก เพราะเห็นลูกชายโดนหมากัด ทั้งใบหน้าและศีรษะ โดยมีคนที่อยู่ใกล้ ๆ รีบอุ้มเด็กขึ้นมา ส่วนพี่ชายเธอพยายามเข้าช่วยหลานก็ถูกกัดที่หน้าแข้งบาดเจ็บ


หลังจากเกิดเหตุ ได้พาลูกไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว ซึ่งพบว่าใบหูฉีกขาด ต้องเย็บ รวมทั้งมีแผลที่ใบหน้า และศีรษะ ต่อมา เธอแจ้งกับเจ้าของหมาตัวนั้น ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติกัน โดยเจ้าของหมาบอกว่าจะโอนเงินให้ 1 หมื่นบาท เพื่อเป็นค่าเดินทาง โดยโอนมาเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา


ตอนนี้ลูกชายออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่เมื่อทวงถามถึงความรับผิดชอบเยียวยา ทางเจ้าของหมาก็เลยบอกว่า จ่ายให้แล้ว 1 หมื่นบาท พร้อมท้าให้แจ้งตำรวจ เธอกับพี่ชายจึงแจ้งตำรวจพร้อมลงบันทึกประจำวัน แต่ก็มีการโต้เถียงกันไปมาเกี่ยวกับค่ารักษา ด้วยความโมโหพี่ชายตนเลยบอกว่าจะเรียกค่าเสียหาย 2 แสนบาท


ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านในม.8 ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว ซึ่งเปิดเป็นร้านเสริมสวย หน้าบ้านพบน.ส.สาธิตา อายุ 23 ปีและเด็กชาย อายุ 5 ขวบ พร้อมนายเด่นณรงค์ อายุ 25 ปี ผู้เป็นญาติ อยู่ภายในบ้าน หลังดังกล่าว โดยหน้าบ้านมีสุนัขชื่อบิ๊กที่เป็นสุนัขที่ในบ้านเลี้ยงไว้เดินวนเวียนไปมา


น.ส.สาธิตา ผู้เป็นแม่ เล่าว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นวันที่ 14 พ.ค.2566 ทางเจ้าของสุนัขซึ่งเป็นบ้านร้านค้าและเป็นญาติกัน มีบ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามได้เข้ามาใช้บริการที่ร้านเสริมสวยของตนเอง โดยนำสุนัขมาด้วยชื่อลีโอ อยู่ที่หน้าบ้าน


ต่อมาลูกชายตนเอง นำถุงพลาสติกแกว่งไปมาเลยโดนสุนัขกัด จากนั้นพี่ชายซึ่งอยู่ในบ้านได้ยินเสียงหลานชายร้อยจึงวิ่งออกมาจากในบ้านเพื่อที่จะช่วย ก่อนที่จะโดนกัดที่ขา จากนั้นสุนัขชื่อบิ๊กที่ตนเองเลี้ยงไว้จึงออกมาช่วยด้วยการสู้ยื้อแย่งกับสุนัขของลูกค้า ที่กัดลูกตนเอง


จากนั้นตนได้รีบพาลูกส่งรพ.ปทุมธานี โดยลูกมีบาดแผลที่หูฝั่งซ้าย ถูกกัดจนอวัยวะห้อย ข้อมือซ้ายถูกกัด โดยพักรักษาตัวที่รพ.ปทุมธานี 1 คืน แพทย์จึงให้กลับบ้านได้ ส่วนพี่ชายตนเองถูกกัดที่ขาขวา


ช่วงแรกที่ลูกตนเองยังเจ็บอยู่ คู่กรณียินดีรับผิดชอบในค่าเดินทางไปรักษา และค่าล้างแผล ซึ่งตนเองก็รับไว้ และได้ตกลงกันไว้ว่า ถ้าสมมุติว่าตอนนี้จะช่วยเท่าไหร่ก็จะช่วย แต่ถ้าหลังจากนี้ลูกตนเองหายหรือดีขึ้น ค่าเสียหายเราจะเรียกกันทีหลัง และป้าเจ้าของสุนัขก็บอกว่า ถ้าน้องหูหนวกป้าก็ช่วยรักษา แต่รักษาตามบิลเท่านั้น


สำหรับสุนัขตัวที่กัดลูกตน ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ 3 ครั้งแล้ว แต่ตนเองคิดว่า 2 ครั้งแรกเกิดขึ้นที่ร้านค้า ซึ่งเป็นบ้านป้า และเป็นเพราะลูกเราไปซนจึงไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหาย แต่ครั้งนี้มากัดถึงในบ้านตนเอง ตอนนี้ตนเองคิดว่าวันที่เป็นเหตุที่ให้ตนเองไปแจ้งความ เพราะตนเองจะขอเรียกค่าเสียหาย เพราะต่อให้สภาพร่างกายหายแล้ว แต่สภาพจิตใจยังไม่ปกติ


ตนเองต้องพาไปพบหมอจิตแพทย์ แต่ว่าทางคู่กรณียืนยันว่าเงิน 10,000 บาทที่ให้ไปมากพอแล้ว และท้าให้ตนเองนำตำรวจมาที่บ้าน ตอนแรกก็ตกลงกันแล้วว่าจะไม่แจ้งเพราะเป็นญาติกัน สุนัขที่ทำร้ายลูกตนเองเป็นสุนัขพันธุ์ไทยตัวใหญ่ ตอนที่สุนัขกัด ตนไม่เห็น แต่ออกมาเจอตอนหูลูกชายตนเองห้อย


ตอนนี้ตนเพียงอยากจะบอกว่าตนไม่ได้จะเอาเรื่อง แต่อยากขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายตน เด็กเกือบเสียอวัยวะ ต้องมีแผลเป็นติดตัวไปตลอดชีวิต รวมทั้งแผลในใจ อีกทุกวันนี้ลูกตนเองยังนอนผวาร้องไห้แทบจะทุกคืน เราแค่อยากให้มาพูดคุยกัน ดูแลสภาพจิตใจลูกตนเองที่เป็นหลานของป้าบ้าง ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะยินดีคุยด้วยหรือไม่จึงอยากให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางในการเจรจาหากเขายินดีพูดคุยตนเองก็ยินดี


ส่วนนายเด่นณรงค์ ผู้เป็นญาติบอกว่า วันเกิดเหตุตนเองได้ยินเสียงหลานร้องตนเองจึงวิ่งออกมาพบมีคนช่วยหลานตนเองที่โดนสุนัขกัดแล้ว แต่สุนัขได้หันมากัดที่ขาของตนเองทันทีจำนวน 1 เขี้ยว ก่อนที่จะมีสุนัขที่ตนเองข้ามาช่วยโดยไปกัดกับสุนัขของป้าที่กัดหลานตนเอง


ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านค้าซึ่งเป็นบ้านป้าเจ้าของสุนัขเพื่อสอบถามพูดคุยด้วยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ป้ากล่าวว่าตนเองไม่สะดวก

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ