เลือกตั้งและการเมือง

‘หมอพรทิพย์’ หนึ่งใน ส.ว. ยินดีพูดคุยกับ ‘พรรคก้าวไกล’ แต่ต้องชัดเรื่องแตะสถาบัน

โดย JitrarutP

16 พ.ค. 2566

638 views

วันที่ 16 พ.ค. 66 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย รองศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ถึงกรณีการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล

รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย เผยว่า การเมืองคือเรื่องของการแสวงหามิตร พรรคที่ได้เสียงข้างมากก็ต้องฟังเสียงข้างน้อยด้วย การจะเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่ให้สังคมขัดแย้งวันนี้ในสภาไม่ได้มีพรรคเดียว มีหลายพรรคแต่ละขั้วอุดมการณ์ การที่จะเดินหน้าต่อไปได้ เสียงข้างมากต้องรับฟังเสียงข้างน้อยด้วย ประชาชนก็งงและตั้งคำถามว่าเป็นการเลือกตั้งที่พิสดารหรือเปล่า หาเสียงกับประชาชน แล้วต้องมาหาเสียงกับ ส.ส. หรือ ส.ว. อีก เป็นผลจากรัฐธรรมนูญปี 60 ทำให้กลไกในสภาบิดเบี้ยว

ขณะที่ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ระบุ นี่ไม่ใช่การโหวตเพื่อตัวบุคคล แต่คือการโหวตเพื่อหลักการ พรรคที่มีเสียงข้างมาก ควรจัดตั้งรับบาลเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องมีอยู่ ไม่ว่า ส.ว. จะคิดยังไง ถ้าก้าวไกลหาเสียงกับ ส.ส. ก็อาจไม่ได้พึ่งกับ ส.ว.เพียงอย่างเดียว นี่คือการหาเสียงรอบ 2 ระหว่าง ส.ส. กับ ส.ว.

“ส.ว.ไม่ควรมาโหวตเลือกนายกฯ ไม่มีประเทศไหนในโลก ประเทศไทยที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีที่ ส.ว. มาโหวตเลือกนายกฯ ส.ว. ก็อยู่อีกแค่หนึ่งปี ถ้า ส.ส. รวมเสียงกันได้จนเข้มแข็งขนาดนี้เป็นไปได้ไหมที่จะอนุโลมตามเสียงประชาชน การหาเสียงคือการหาเสียงกับประชาชน แต่ครั้งนี้เป็นการหาเสียงกับ ส.ส. กับ ส.ว. ส.ส. มี 310 เสียง ที่เหลือมีพรรคไหนไหม เช่น ประชาธิปัตย์หรือ ส.ว. ที่จะไปขอเสียงเขา เราไม่เห็นด้วยกับระบบการเมืองที่บิดไปแบบนี้ แต่รัฐธรรมนูญเขียนไว้แบบนี้ ถ้าต้องการได้เป็นนายกฯ รอบสองก็ต้องไปเคาะประตู ส.ว. กับ ส.ส. เพื่อให้ได้อีก 66 เสียง” ผศ.ดร.ปริญญา กล่าว...

ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ตนเคารพที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 จากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของไทยในการมีการเมืองรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช้นายทุน ส่วนจะโหวตให้หรือไม่ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะยังมีเรื่องที่ไม่เห็นด้วยแต่ยินดีหากพรรคก้าวไกลจะมาพูดคุย เพราะไมตรีคือการเปิดใจให้คุยกันได้มากกว่าแรงกดดัน

ตนเห็นความตั้งใจปรารถนาดีของคนรุ่นใหม่ที่จะสร้างสิ่งที่ดี อะไรที่ผ่านมาในอดีตเป็นสิ่งคลางแคลงใจ ก็ต้องให้กลับไปทำให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น การที่ได้จัดตั้งรัฐบาล 300 กว่าเสีย ไม่ใช่เรื่องง่าย ตนมองว่าพรรคก้าวไกลสมควรได้เป็นรัฐบาลแล้ว และยินดีที่จะมีการพูดคุยกัน

พร้อมเผยอีกว่า “300 กว่าเสียง เป็นสิ่งที่ควรให้อำนาจเขา แต่อะไรที่ทำให้ไม่ไว้วางใจ ไปทบทวนว่าแก้ไขได้ไหม เราขอที่จะไม่เอานโยบายที่รุนแรง ต่อการแตะต้องสถาบันออกไปเท่านั้นแหลค่ะ”

“ให้คิดให้ยาว ถ้าพลิกแผนไปมา เล่นเกม ไม่ว่าจะใครก็ตามที่ไม่ทำให้เป็นไปตามนี้ เลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่เหลืออะไรเลยค่ะ เพราะมันจะเป็นก้าวไกลทั้งหมด” หมอพรทิพย์ กล่าวเพิ่มเติม...

คุณอาจสนใจ

Related News