สังคม

ศาลนัดสืบพยานคดี "อ๊อฟ" ดาราหนุ่มถูกสาวเมาขับชนจนติดเตียง เรียกค่าเสียหาย 8 ล้าน

โดย kanyapak_w

28 เม.ย. 2566

624 views

ความคืบหน้าจากกรณีนางสาวดวงกมล แม่ของนายธนกฤต หรือน้องอ๊อฟ นักแสดงจากภาพยนตร์ที่ประสบอุบัติเหตุกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ต้องนั่งรถกู้ภัย มาให้เจ้าหน้าที่ตรวจร่างกาย ที่หน่วยตรวจเลือกทหารกองเกิน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน หลังจากประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรง หลังถูกหญิงสาวรายหนึ่งอยู่ในอาการมึนเมา ขับรถยนต์มาชนท้ายรถมอเตอร์ไซด์ของอ็อฟอย่างจัง ทำให้อ็อฟหัวฟาดพื้นอย่างแรง กะโหลกศีรษะร้าว อาการสาหัส กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงใน ยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องปลอดเชื้ออยู่ที่บ้าน


ความคืบหน้าของคดีความล่าสุดเช้าวันนี้ (28 เม.ย.) ศาลจังหวัดลำพูน ได้นัดสืบพยานโจทย์ และพยานจำเลย คดีดังกล่าวในวันนี้ หลังจากนางสาวดวงกมล วุฒิโรธง แม่ของน้องอ๊อฟ ได้ยื่นฟ้องนางสาวลัคกี้ (นามสมมติ) คู่กรณี โดยในวันนี้ฝ่ายผู้เสียหายได้นำเอกสารหลักฐานมายื่นประกอบในสำนวนเพิ่มเติม


ด้านนายเหมวัต อภิวัง ทนายความฝ่ายโจทย์ เปิดเผยหลังออกจากห้องพิจารณาคดี พร้อมกับนางสาวดวงกมล แม่ของน้องอ๊อฟ เปิดเผยว่าคดีนี้ศาลได้นัดตัดสินทั้งคดีอาญา และคดีแพ่งในวันที่ 12 มิถุนายน 2566 ซึ่งในส่วนของคดีอาญาจำเลยได้รับสารภาพในชั้นศาลตั้งแต่การสืบพยานครั้งที่ผ่านมา ส่วนคดีแพ่งทางโจทย์ได้ยื่นฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายประกอบด้วยค่าขาดรายได้ตั้งแต่เกิดเหตุ 2 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างรักษาตัว 2 ล้านบาท ค่าตกเป็นบุคคลไร้ความสามารถ 1 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการรักษาและดำรงชีพอนาคต 3 ล้านบาท ซึ่งค่าขาดรายได้คำนวนจากรายได้คร่าวๆจากการการแสดงของนายธนกฤต วุฒิโรธง หรือน้องอ๊อฟ เฉลี่ยวันล่ะ 3,500 บาท


ขณะที่แม่ของน้องอ๊อฟ เปิดเผยว่า วันนี้ที่ได้มีโอกาศแถลงความในใจท่านผู้พิพากษา ว่าค่าเสียหายการรักษาน้องอ๊อฟ มีจริงและมูลค่าสูงมากๆ ซึ่งเป็นการเปิดเผยความรู้สึกอึดอัดในใจตลิดระยะเวลาที่น้องอ๊อฟ ได้รับชะตากรรมกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งน้องเป็นผู้ถูกกระทำและน้องต้องได้รับความเป็นธรรม ซึ่งที่ผ่านมาตนและลูกชายได้รับความลำบากเป็นอย่างมากเนื่องจากไม่มีรายได้เลย ทุกวันนี้ต้องดูแลลูกชายเพียงลำพังตนจนบางครั้งเกิดสภาวะเครียดและโรคซึมเศร้า ในส่วนของคู่กรณีได้ยินว่าวันที่ 5 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้จะได้นำเงินมาวางไว้ที่ศาล เพื่อชดใช้ค่าเสียหายเพิ่มเติมให้ หลังจากก่อนหน้านี้จ่ายเงินให้แล้วเป็นเงิน 46,000 บาท ซึ่งในความเป็นจริงไม่พอกับค่าใช้จ่ายที่เสียไปก่อนหน้านี้รวมเกือบ 4 ล้านบาท

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ