เพื่อไทยหาเสียงน่าน 'เศรษฐา' แนะ 'บิ๊กตู่' ศึกษานโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล หลังวิจารณ์ห่วงทำประเทศเสี่ยง

เพื่อไทยหาเสียงน่าน 'เศรษฐา' แนะ 'บิ๊กตู่' กลับไปศึกษานโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล หลังวิจารณ์ห่วงทำประเทศเสี่ยง ยันเข้ามาฟื้น ไม่ใช่เข้ามาพัง ด้าน 'ชัยเกษม' ฟาด 'ประยุทธ์' ห่วงเพราะคิดถึงหนี้ที่ตัวเองก่อไว้มาก เหตุเพื่อไทยต้องคิดใหญ่ ทำเป็น เพราะรัฐบาลสร้างปัญหาไว้ให้กับประเทศ


เมื่อวันที่ 8 เม.ย.66 นายเศรษฐา ทวีสิน และ นายชัยเกษม นิติสิริ 2 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรค ลงพื้นที่จังหวัดน่าน ก่อนเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงเป็นครั้งแรก หลังพรรคเพื่อไทยเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คน รวมถึงนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท


จุดแรกที่ลงพื้นที่คือ วัดพระธาตุแช่แห้ง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดน่าน พร้อมทั้งพบปะพ่อค้าแม่ค้าที่บริเวณหน้าวัด ก่อนจะปล่อยขบวนคาราวานหาเสียง เคลื่อนรถประชาสัมพันธ์ผู้สมัครและนโยบายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในจังหวัดน่าน พร้อมทั้งจัดปราศรัยย่อย ที่บริเวณหน้าวัดภูมินทร์ ถนนคนเดิน


นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์กรณี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมาเตือนว่านโยบายแจกเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย เสี่ยง บางประเทศล้มทั้งยวง โดยนายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นความเห็นของพลเอกประยุทธ์ แต่ 8 ปีที่ผ่านมาประเทศบอบช้ำเยอะ การหยอดน้ำข้าวต้มทีละ 500 หรือ 1,000 บาท ไม่ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจดีขึ้น และย้ำว่าเงิน 10,000 บาท ที่จะเติมในกระเป๋าดิจิทัลมีที่มาที่ไป และมั่นใจว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้ในรูปแบบของภาษี และการจัดการงบประมาณปีหน้า ซึ่งยังไม่ผ่านสภา หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล มั่นใจจะสามารถจัดการงบประมาณเหล่านี้ได้


เมื่อถามย้ำว่านโยบายยังไม่เริ่ม แต่พลเอกประยุทธ์ก็เป็นห่วงถึงสถานการณ์การเงินการคลังของประเทศ นายเศรษฐา กล่าวว่า เพื่อไทยคิดใหญ่ ทำเป็น และต้องทำให้ได้


ด้าน นายชัยเกษม กล่าวว่า ที่พลเอกประยุทธ์เป็นห่วงเพราะคิดถึงหนี้ที่ตัวเองก่อไว้จำนวนมาก แต่พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าไม่มีปัญหา และหากรัฐบาลไม่สร้างหนี้ไว้จำนวนมาก เพื่อไทยคงไม่ต้องคิดนโยบายให้ประเทศดีขึ้น


เมื่อถามว่า พลเอกประยุทธ์ยกตัวอย่างหลายประเทศที่ใช้สกุลเงินดิจิทัลแล้วทำให้ประเทศล่มสลาย นายเศรษฐา กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ไม่เข้าใจสิ่งที่พรรคเพื่อไทยกำลังทำ จึงแนะนำให้พลเอกประยุทธ์กลับไปอ่านและทำความเข้าใจนโยบายเพื่อไทยให้ดี


ส่วนที่ กกต. ให้พรรคเพื่อไทยชี้แจงถึงแหล่งที่มาและวงเงินในนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล นายเศรษฐา กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยินดีให้ความร่วมมือกับ กกต. ซึ่งขณะนี้คณะทำงานด้านเศรษฐกิจและกฎหมาย อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเอกสาร ซึ่งเป็นโอกาสดีที่จะได้ชี้แจงเป็นกิจลักษณะ


นายชัยเกษม กล่าวอีกว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยเข้ามาฟื้นเศรษฐกิจไม่ได้เข้ามาพังเศรษฐกิจ และทุกอย่างที่พรรคเพื่อไทยทำ มีการคิดมาอย่างดีแล้วถึงจะทำ และไม่ได้ทำเฉพาะการหาเสียงเท่านั้น แต่ทำเพื่อแก้ปัญหาที่รัฐบาลที่แล้วสร้างปัญหาไว้ให้กับประเทศ และมั่นใจว่ากรณีที่ กกต. เชิญไปชี้แจงถึงการจัดทำนโยบายจะไม่เกิดปัญหาอะไร


นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า พรรคเปิดนโยบายนี้มา 3-4 วัน ยังเป็นที่กล่าวขานของพรรคอื่นและประชาชน ซึ่งเห็นว่าเป็นเรื่องดีที่เพื่อไทยจะชี้แจงกับประชาชน


ในเวลาต่อมา นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นำทัพพรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ล้านนา วิทยาเขตน่าน อ.ภูเพียง


นายเศรษฐา กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า วันนี้เป็นการขึ้นเวทีครั้งแรกหลังจากได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในสามแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เข้าท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เกิดมา 61 ปี เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมาถือเป็นเกียรติประวัติสูงที่สุดในชีวิต และคิดว่าจะสามารถทำความฝันของพี่น้องชาวน่านและชาวไทยทุกคนให้เป็นจริง โดยนำพาพี่น้องชาวไทยผลจากหลุมดำของความยากจน 8 ปีที่ผ่านมา พอหรือยังกับพลเอกประยุทธ์


นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า ตนเป็นคนไม่ก้าวร้าว เป็นคนสุภาพ แต่ตนสงสัยว่าทำไมคนตะแบงว่า พลเอกประยุทธ์สุจริต ตนก็ไม่เข้าใจว่าสุจริตตรงไหน เพราะดัชนีทุจริตในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทรุดต่ำลงเรื่อย ๆ ตรงนี้เชื่อว่าเขาตะแบงต่อไปไม่ไหวแล้ว วันนี้จึงอยากจะเน้นเรื่องความทุจริตของรัฐบาลที่ผ่านมา


จากนั้น นายเศรษฐา ได้เน้นย้ำถึงนโยบายเติม 10,000 บาท ในกระเป๋าดิจิทัล ซึ่งบางครอบครัวมีสี่ห้าคน ก็ได้เงิน 4-5 หมื่นบาท ซึ่งสามารถไปตั้งตัวทำอาชีพใหม่ได้เลย ไม่ใช่รัฐบาลปัจจุบัน ที่ทยอยหยอดน้ำข้าวต้มครั้งละ 500 หรือ 1,000 ซึ่งมันน่าเบื่อ แต่เพื่อไทยให้ครั้งเดียวเลย 10,000 บาท ซึ่งจะสามารถทำให้เราสามารถหลุดพ้นจากหลุมดำของความยากจนได้


แต่เมื่อประกาศนโยบายไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทุกวันพรรคอื่นพูดแต่เรื่องนี้ตลอด ค่อนแคะกระแหนะกระแหนว่าจะทำได้หรือไม่ ขณะที่พรรคเพื่อไทยไม่เคยพูดถึงนโยบายคนอื่น เพราะไม่โดนใจเหมือนนโยบายของพรรคเพื่อไทย เขาจึงกลัว ดังนั้นจึงไม่ต้องไปฟังที่อื่นพูดว่าจะทำได้หรือไม่ รวมถึงพลเอกประยุทธ์ว่า เพราะเขาไม่เข้าใจก็ปล่อยเขาไป

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/tTki6T0bS1Q