ตร.ปส.บุกค้นบ้านพักย่าน กาจนาภิเษก 39 แอบซุกไอซ์ - เฮโรอีน

นายวิชัยชัยมงคลเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นำกำลังเข้าตรวจค้นและสอบปากคำผู้ต้องหาที่บ้านเช่าหลังหนึ่งในซอยกาญจนาภิเษก 39 แขวงดอกไม้เขตประเวศกรุงเทพมหานคร  หลังหน่วยปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ท่าเรือไปตรวจพบการแอบลักลอบขนส่งไอซ์ที่ซุกซ่อนไปกับพรหมเช็ดเท้าน้ำหนักรวม 51 กิโลกรัม จึงขยายผลไปถึงบุคคลที่ขนส่งของดังกล่าวตนไปพบนายยง ชาวจีนฮ่องกง และนายนวมินทร์ ชาวไทยที่บ้านหลังหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ จากการตรวจค้นในช่วงแรกพบนายยง แอบซุกซ่อนเฮโรอีนไว้ในโบรชัวร์ขายบ้านอีก 13 กิโลกรัมและพบเฮโรอีนอีก 94 กรัมไอซ์ 21 กรัมและเงินสด 500,000 บาทภายในบ้าน จากการตรวจสอบภายในบ้านพบว่ามีลักษณะการดัดแปลงเป็นสถานที่บรรจุหีบห่อสิ่งของต่างๆเพื่อส่งไปยังต่างประเทศให้เครือข่ายที่อยู่ปลายทาง จึงทำการสอบปากคำทั้งสองคนอย่างละเอียดจนยอมรับสารภาพว่านายยงเป็นผู้ดูแลส่วนนายนวมินทร์เป็นคนนำของไปส่ง โดยมีคนไทยอีก 1 คนเป็นคนเช่าบ้านในจังหวัดสมุทรปราการและบ้านอีก 1 หลังที่เขตประเวศ ซึ่งจะใช้เป็นที่เก็บของที่บรรจุซุกซ่อนแล้วและใช้เป็นที่บรรจุซุกซ่อนอีกที่หนึ่ง จึงนำกำลังไปตรวจค้นที่บ้านอีก 1 หลัง



โดยบ้านที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดพื้นที่ประมาณ 50 ตารางวา ที่ชั้นล่างเป็นลักษณะบ้านเช่าตามปกติ แต่ที่ชั้นบนพบผ้าอ้อมสุนัขจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าเตรียมไว้ใช้ในการบรรจุซุกซ่อนไอซ์ในล็อตต่อไป นอกจากนี้ยังพบยาเสพติดประเภทอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก จึงให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบพร้อมสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองคนอย่างละเอียด



นายวิชัยเปิดเผยว่าเครือข่ายดังกล่าวมีการลักลอบขนส่งยาเสพติดไปยังประเทศต่างๆหลายครั้งโดยการซุกซ่อนขนส่งไปในครั้งนี้มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ประเทศฮ่องกง ซึ่งจากสถิติการตรวจจับของเจ้าหน้าที่พบว่าก่อนหน้านี้มีการแอบลักลอบขนส่งไปยังฮ่องกงแล้วรวม 6 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 เชื่อว่าน่าจะเป็นเครือข่ายที่มีความเชื่อมโยงกัน จากนี้จะขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนรวมถึงผู้เช่าบ้านทั้งสองหลังซึ่งสืบทราบว่าเป็นคนไทยแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนการตรวจสอบข้อมูลในทะเบียนประวัติอาชญากรที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดทั้งของไทยและต่างประเทศยังไม่พบว่าทั้งสองคนมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับขบวนการใดจึงได้ประสานให้ทางการของฮ่องกงช่วยตรวจสอบข้อมูลของนายยงอย่างละเอียดก่อนขยายผลไปยังเครือข่ายอื่นๆต่อไป