สังคม

เสี่ยขายรถยนต์มือสอง หลงคารมสาวสวย แชตไลน์หลอกลงทุน สูญกว่าล้าน

โดย nutda_t

1 ธ.ค. 2565

199 views

นายชัยเวช อายุ 55 ปี เสี่ยเจ้าของบริษัท และเจ้าของร้านขายรถยนต์มือสองที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองขอนแก่น ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ถึงกรณีที่ตนเอง ถูกสาวสวย อ้างเป็นนักธุรกิจขายเสื้อผ้า ตุ๋นเงินสูญไป 1,134,754 บาท ว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2565 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง แอดมาขอเป็นเพื่อน ตนจึงกดรับไว้ จากนั้นก็มีการทักทายกันตามประสาเพื่อนในเฟซ แต่ส่วนใหญ่ฝ่ายหญิงจะทักแชตมาคุย พร้อมแนะนำตัวว่าเป็นนักธุรกิจ ขายเสื้อผ้าแฟชั่นในห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่จ.หนองคาย และครอบครัวลงทุนแพลตฟอร์มซื้อเงินตราต่างประเทศ ซึ่งได้ผลกำไรดี



โดยในแต่ละวันจะลงทุนครั้งละ 200,000-500,000 บาท เพื่อซื้อเงินตราต่างประเทศ โดยจะได้รับการปันผล10% ซึ่งบริษัทที่ร่วมลงทุนจะเปิดให้ผู้ต้องการลงทุนซื้อเงินตราต่างประเทศเพียง 20 นาทีเท่านั้น โดยจะเริ่มเปิดให้ผู้ร่วมลงทุนเข้าไปลงทุน หรือซื้อเงินตราต่างประเทศในช่วงเวลา 20.00 น.ของทุกวัน โดยจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนซื้อเพียงครั้งละ 5 นาทีเท่านั้น และในช่วงที่ซื้อ หากหมดเวลาก็จะได้รับการปันผลกำไร 2.5% หากซื้อครบ 20 นาที ก็จะได้รับการปันผล 10%



จากนั้นหญิงคนดังกล่าวก็ขอไลน์และชวนคุยทางไลน์ โดยชื่อว่ามัดหมี่ จากการคุยกันนานวันก็ไม่เหมือนเพื่อน เพราะหญิงรายดังกล่าวเรียกตนว่าที่รัก อยากพาตนไปพบพ่อแม่ ชวนไปเที่ยว ไปพบพี่ชาย ยอมรับว่าหลงในคำพูดและความสวยของหญิงรายดังกล่าว จากนั้นหญิงสาวก็ชวนลงทุนแพลตฟอร์มซื้อเงินตราต่างประเทศผ่านทางเว็บไซต์ พร้อมพูดชวนมาเล่น บอกว่าถ้ายังไม่มั่นใจลองเล่นดูก่อนก็ได้ เติม 3,000 บาท เล่นครั้งละ 5 บาท ตนเองจึงลองเล่นดู ครั้งแรกก็เติมไปก่อน 3,000 บาท วันต่อมาลงเพิ่มเป็น 10,000 บาท ซึ่งก็ได้ผลตอบแทนในการลงทุนแต่ละครั้งคือ 2.5% โดยครั้งแรกที่ลงทุนไปนั้นคือ 3,000 บาท ได้ผลตอบแทน 2.5% เท่ากับ 75 บาท ครั้งที่ 2 ลงไป 20,000 บาท ซึ่งในหนึ่งวันจะสามารถลงเล่นได้ 4 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที โดยกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 10%ของเงินลงทุนในแต่ละครั้ง ลงมากก็ได้มาก ลงน้อยก็ได้น้อย ซึ่งแต่ละครั้งที่ทำการถอนก็จะได้เงินเข้าบัญชีพร้อมกับผลตอบแทนถูกต้องทุกครั้ง เมื่อได้เงินตลอดก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่เลว



ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะเริ่มชักชวนลงทุนเพิ่มมากกว่านี้ พร้อมกับบอกว่า ตัวฝ่ายหญิงเองเล่นครั้งละ 500,000 บาท พร้อมทั้งส่งภาพแคปหน้าจอและสลิปเงินยืนยันว่าได้จริงมาให้ดู ก็ยิ่งทำให้ตนเองเกิดความเชื่อถือขึ้นไปอีก พอมาวันที่ 3 ฝ่ายหญิงส่งสลิปมาให้ดูว่าโอนไป 500,000 บาท เพื่อลงทุน แล้วมีโบนัส 50,888 บาท ถามตนเองว่าได้รับข้อความแบบนี้เหมือนกันไหม ตนเองก็เปิดดูพบว่ามีข้อความเช่นกัน แต่ต้องเติมเงิน 500,000 บาท จึงจะได้โบนัสจำนวนนี้ ตนเองจึงบอกว่างั้นไม่เอา ถ้าต้องเติมเงิน 500,000 บาท แต่ฝ่ายหญิงบอกว่าอยากให้จองให้หน่อย เพราะว่าเสียดาย มีแค่เพียงอันเดียว ตนเองจึงเข้าไปจองให้ฝ่ายหญิง โดยใช้แอคเคาท์ของตนเองจอง ทำให้เกิดปัญหาขึ้น ตอนที่ตนเองสั่งถอนเงิน 220,000 บาท พร้อมกำไร 10% ในระบบแจ้งข้อความมาหาตนเองว่า ได้ทำการจองโบนัสไว้จะต้องเติมเงินให้ครบ 500,000 บาท ซึ่งตอนนี้ในแอคเคาท์ตนเองมีเงิน 220,000 บาท จะต้องโอนเข้าไปอีก 280,000 บาท จะเป็น 500,000 บาทพอดี



ตนเองจึงโอนเข้าไปครบ 500,000 บาท แต่ในระบบแจ้งมาอีกว่า เงินของคุณเข้าออกสูงเกินสมาชิกธรรมดา จะต้องอัปเกรดแอคเคาท์เป็นVIP ตั้งแต่ VIP 1 / 2 / 3 และจะสามารถถอนได้โดยไม่มีเงื่อนไข จึงเลือก VIP1 เติมเงินเข้าไปอีก 300,000 บาท เพื่ออัปเกรดเป็นวีไอพี ทำให้ตอนนี้กลายเป็นเงินในแอคเคาท์ของตนเองรวมกำไรมีอยู่ 870,000 กว่าบาท แต่ระบบบอกให้ทำเรื่องเปลี่ยนบัญชีใหม่ โดยให้ยกเลิกตัวเก่า เนื่องจากเปลี่ยนเป็นบัญชี VIP แต่ตอนใส่ข้อมูลตนเองใส่ผิด ในช่องเลขบัญชี ตนเองใส่ชื่อธนาคารลงไป ทำให้ระบบแจ้งมาว่าระบบตัดเพื่อเซฟตี้ข้อมูลเอาไว้ เนื่องจากตนเองกรอกข้อมูลผิด จะต้องเติมเงิน 30 %ของเงินที่ลงทุนไป คือ 260,000 กว่าบาท เพื่อปลดล็อค



ตนเองจึงไปคุยกับฝ่ายหญิง บอกว่าตนเองไม่มีเงินแล้ว โดยฝ่ายหญิงช่วยมา 120,000 บาท พอเติมเงินเข้าไปตามเขื่อนไขเสร็จ ตนเองทราบว่า VIP เบิกได้ 1 ล้านบาท ตนเองกลัวว่าจะมีลูกเล่น กลัวมีปัญหา จึงขอถอน 900,000 บาท แต่ระบบก็ยังพยายามจะเอาเงินตนเองเพิ่มอีก บอกว่าการลงทุนที่คุณลงทุนเข้าไปยังไม่มีการเล่น ทำให้ไม่สามารถถอนได้ คราวนี้จะต้องเติมเงินอีก 30% จากเงิน 1,134, 000 บาท ต้องเติมอีกประมาณ 4 แสนบาท ตนเองจึงไม่เติม เพราะรู้ตัวแล้วว่าถูกหลอก



ต่อมาฝ่ายหญิงบอกว่าเป็นห่วง หาเงินมาช่วย ยืมเงินพี่ชายมา 200,000 บาท เอาแหวนแม่มาขายอีก 50,000 บาท แต่ตนเองจะต้องเติมเงินอีกแสนกว่าบาท จึงไปปรึกษาตำรวจบอกว่าถูกมิจฉาชีพหลอก และเป็นขบวนการมิจฉาชีพหลอกผู้เสียหายหลายรายแล้ว มีผู้เสียหายทั่วประเทศ



นายชัยเวช กล่าวว่า ทีแรกยังไม่รู้ว่าถูกต้มตุ๋น เพราะการลงทุน 20 นาที ได้กำไรมากกว่าฝากธนาคาร จึงยอมลงทุนไป แต่พอถอนเงินไม่ได้ และให้ฝากเพิ่มเรื่อย ก็เริ่มรู้และคิดว่าถูกหลอก จนกระทั่งระบบล็อค เข้าไปแก้ไขข้อมูลไม่ได้ จึงรู้ว่าถูกหลอกชัวร์ และไม่ยอมลงทุนอีก ได้ติดต่อไปหาหญิงสาวชื่อมัดหมี่ แจ้งให้ทราบว่าเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นและถอนเงินไม่ได้ หญิงสาวบอกให้ใจเย็นๆ ระบบล็อคชั่วคราว และควรจะลงทุนต่อ เพื่อจะได้ถอนเงินทุนและกำไรออกมา



ตนฟังแต่ไม่ทำตาม ทำเพียงรวบรวมหลักฐานทั้งหมด เพื่อจะเข้าแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 (บก.สอท.3) ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อให้มีการสืบสวนจับกุมขบวนการหลอกลวงต้มตุ๋น ให้ลงทุนซื้อสกุลเงินต่างประเทศ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเชื่อว่าหญิงสาวชื่อมัดหมี่ น่าจะเป็นหนึ่งในนกต่อที่หาลูกค้ามาร่วมลงทุน และหลอกเอาเงินไป และยังเชื่ออีกว่าน่าจะมีคนถูกหลอกอีกจำนวนมาก จึงออกมาเตือนประชาชน นักธุรกิจ อย่าหลงเชื่อคารมหญิงสาวสวยน่าตาดี วาจาดี เพราะจะทำให้สูญเสียเงินล้านได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ