สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 25 ส.ค.65 นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่-ยอด นครนายก เสียชีวิต-กินหมูกระทะ เจอไข่มุกเมโล

โดย thichaphat_d

25 ส.ค. 2565

84 views

-ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ รับวินิจฉัยปม 8 ปี พลเอกประยุทธ์ และมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ให้ หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ส่งผลให้ พล.อ.ประวิตร ขึ้นแท่นรักษาการนายกรัฐมนตรีทันที

-เพจดังแฉ หนังสือคำสั่งย้าย ส.ต.ท.หญิง ของสันติบาล 1 เป็นคำสั่งซ้อนกับหนังสือคำสั่งที่ให้ไปช่วยราชการ กอ.รมน.ภาค 4 พร้อมภาพ ออกงานร่วมกับ ส.ว. รวมถึงภาพหลุด ยืนคุยกับ บิ๊กตำรวจระดับนายพล ที่ยืนแบบนอบน้อม ด้านแฟนหนุ่ม เตรียมเข้ามอบตัวที่ สภ.ชะอำ หลังถูกทหารหญิงแจ้งความทำร้ายร่างกาย

-ทนายตั้ม พาดาราสาววัย 21 พบผกก.สน.โชคชัย จี้ความคืบหน้าคดี ที่ถูกหลานอดีตรัฐมนตรี ลวงเข้าพูลวิลล่า มอมยา-ขืนใจ แถมข่มขู่ อ้างรู้จักนายตำรวจระดับบิ๊ก ยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

-ยอด นครนายก อดีตตลกชื่อดัง เสียชีวิต ด้วยวัย 73 ปี หลังล้มป่วยมานานหลายปี แล้วอาการทรุดหนัก ญาติติดใจสาเหตุการตาย ขอส่งร่างผ่าพิสูจน์หาสาเหตุที่แท้จริงก่อน ด้านพระหม่อมเหยิน เพื่อนสนิท ตั้งใจมาเยี่ยม แต่มาไม่ทันดูใจ

-ทางหลวงอยุธยารื้อแล้ว วิมานสะพานลอย หลังมีชายเร่ร่อน เอาอุปกรณ์มาจัดตกแต่งเสมือนเป็นบ้าน ชาวบ้านแถวนั้นเผยจุดนี้มีคนเร่ร่อนหลายกลุ่มวนเวียนไปมา บางคนก็น่ากลัวเพราะเป็นชายรูปร่างใหญ่มีรอยสัก หญิงสาวไม่กล้าเดินขึ้นคนเดียวหวั่นได้รับอันตราย

-หนุ่มสาวชาวพะเยา กรี๊ดสนั่น กินฉลองวันเกิดร้านหมูกระทะ เจอไข่มุกเมโล ในหอยหวาน เผยศูนย์วิทย์ฯ เชียงใหม่ ยันเป็นของจริงคาดราคาทะลุล้าน ด้านบริษัทวิเคราะห์อัญมณี ชี้ ราคาหลักล้านต้องไซส์ใหญ่เป็นเซนติเมตร แต่ที่พบในหอยหวานมักมีขนาด 1 – 2 มิลลิเมตรเท่านั้น ทำให้ไม่มีราคากลาง ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ซื้อขาย

-กรมการค้าภายใน ไฟเขียว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นราคา ครั้งแรกในรอบ 15 ปีล็อตแรกให้ 3 ยี่ห้อดัง  มาม่า ไวไว และยำยำ ซองละไม่เกิน 1 บาท ส่วนอีก 2 ยี่ห้อ คือนิชชินและซื่อสัตย์ รอไปก่อน ย้ำ หากต้นทุนลด ต้องลดราคาลงตาม ส่วน ปตท. – บางจาก ขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน – โซฮอลล์ ลิตรละ 80 สตางค์ และ E85 ปรับขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร



เรื่องเล่าการเมือง

-ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี หลังจากมีมติรับคำร้องกรณีการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ไว้พิจารณา

โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ รับคำร้องของประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ ว่าสิ้นสุดลงเนื่องจากดำรงตำแหน่ง มาแล้ว 8 ปีแล้วหรือไม่ และให้ พลเอกประยุทธ์ ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลภายใน15 วัน

และมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ให้ พลเอกประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (คือวันที่ 24 สิงหาคม) จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

ต่อมามีรายงานว่า สำหรับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 5 เสียง ที่สั่งให้พลเอกประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ประกอบด้วย

1.นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์

2.นายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ์

3.นายจิรนิติ หะวานนท์

4.นายวิรุฬห์ แสงเทียน

5.นายนภดล เทพพิทักษ์

ส่วนอีก 4 เสียงที่ไม่เห็นด้วยให้พลเอกประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ประกอบด้วย

1.นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ

2.นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม

3.นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์

และ 4.นายปัญญา อุดชาชน


-มีท่าทีจาก พล.อ.ประยุทธ์ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง โดยสื่อสารผ่านมาทางโฆษกรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ เคารพผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญทุกประการ โดยจะหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย โดยจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต่อไปตามปกติ

โดยในระหว่างนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทน และปฎิบัติหน้าที่ร่วมกับคณะรัฐมนตรี โดยมิได้มีผลกระทบอย่างใดต่อการบริหารประเทศ และการปฏิบัติงานของข้าราชการ หรือการดำเนินนโยบายอื่นๆของรัฐบาล


-จับตาความเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะประเดิมร่วมประชุมสภากลาโหม ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือไม่

ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีกำหนดเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าร่วม ซึ่งเบื้องต้น พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้สั่งการ หรือ มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะแม้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังมีตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ยังปฏิบัติงานได้

ขณะที่มีรายงาน จากแหล่งข่าวระดับสูงภายในกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ภายในกระทรวง มีห้องทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอยู่แล้ว ซึ่งได้ทำความสะอาดเป็นปกติทุกวัน สถานที่ และทีมงานก็พร้อมอยู่แล้ว

ด้านความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งจะเป็นวันแรก ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี จะนั่งทำงานที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ โดยเวลา 10.00 น. จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์



-หลังมีมติศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องวาระ 8 ปี มีการเปิดเผยจาก รองนายกฯ วิษณุ เครืองาม ออกมาบอกว่า ได้พูดคุยกับทั้งพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร แล้ว ก็ยืนยันไม่มีใครเครียด หรือตื่นเต้นตกใจ

พร้อมย้ำว่า พล.อ.ประวิตร จะทำหน้าที่ รักษาการนายกรัฐมนตรี โดยอัตโนมัติตั้งแต่เมื่อวานนี้เป็นต้นไป ส่วนครม. ยังคงทำหน้าที่ตามปกติ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้

แต่ช่วงหนึ่ง ก็มีประเด็นน่าสนใจ ระหว่างพูดถึงตำแหน่งนายกฯรักษาการ บอกว่า กรณี พล.อ.ประวิตร ไม่พร้อมรับหน้าที่ก็มีสิทธิ์ปฏิเสธได้ หรือ ในที่สุด หากรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 6 คนไม่สามารถทำหน้าที่ได้ ครม.จะเลือกรัฐมนตรีคนหนึ่งขึ้นมาทำหน้าที่แทน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังมีสิทธิ์ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

จากนั้น นายวิษณุ มาให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ที่ทำเนียบรัฐบาล ก็ย้ำชัดเจน ภายหลังได้พูดคุย กับ พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร แล้ว

โดย พล.อ.ประยุทธ์ จะไปทำงานที่กระทรวงกลาโหม และยังสามารถใช้รถประจำตำแหน่งได้ เพราะยังไม่พ้นตำแหน่ง แค่อยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร จะทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี แต่บอกว่า จะไม่ขึ้นไปทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทั้งนี้ ยืนยัน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เครียด หรือสั่งการอะไร และจากการพูดคุยกับทั้ง 2 ท่าน ไม่มีใครตื่นเต้นตกใจ


-สำหรับอนาคตของ พลเอกประยุทธ์ หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ทีมข่าวการเมืองสอบถามจากนักวิชาการด้านกฎหมาย และตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แนวทางคำวินิจฉัยจะมีเพียง 2 ทาง คือ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งเพราะดำรงตำแหน่งมาครบ 8 ปี หรือ ไม่ต้องพ้นตำแหน่ง

หากไม่ต้องพ้นตำแหน่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็กลับมาทำหน้าที่ตามปกติ

แต่หากศาลวินิจฉัยว่าต้องพ้นตำแหน่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ เมื่อนายกฯพ้นตำแหน่ง คณะรัฐมนตรีทั้งหมดก็ต้องพ้นตำแหน่งด้วย

ซึ่งนักกฎหมายส่วนหนึ่ง รวมทั้งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย มองว่า จากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ทั้งนายกฯและ ครม.ทั้งหมดยังสามารถรักษาการต่อไปได้ จนกว่ารัฐสภาจะมีการเลือกนายกฯคนใหม่

แต่กรณีรักษาการนี้ ก็มีความเห็นต่างจากนักกฎหมายบางส่วน เช่น รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 2560 มองว่า หากศาลวินิจฉัยให้พลเอกประยุทธ์ พ้นจากตำแหน่ง ตามหลักกฏหมายมหาชนแล้ว พลเอกประยุทธ์ ไม่สามารถรักษาการในตำแหน่งต่อไปได้


-ฝ่ายค้านนำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีการนัดแต่งชุดดำ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ พร้อมเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก เพื่อเปิดทางให้สภา ได้เลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งจะช่วยลดภาระหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ

ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กังวลต่อสูญญากาศของการบริหารประเทศ ที่ประชาชนต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง กระฉับกระเฉง จึงเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้สุญญากาศที่กังวลนั้นสั้นลง พร้อมมองว่า การที่พล.อ.ประวิตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ก็เหมือนพายเรือในอ่างของระบอบประยุทธ์



-ความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องเรื่องการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของพลเอกประยุทธ์ และมีคำสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ได้มีการนัดรวมตัวทำกิจกรรมแสดงท่าที

กลุ่มมวลชนอิสระที่ใช้ชื่อว่า "ราษฎรไล่ตู่" ได้ประกาศจัดกิจกรรม โดยมีจุดยืน ไม่เอาพลเอกประยุทธ์ และพลเอกประวิตร รวมถึงไม่เอารัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร

ขณะที่บริเวณฝั่งแยกนางเลิ้ง มีกลุ่มเสื้อแดงก้าวหน้ามาร่วมกิจกรรมด้วย โดยการจัดปราศรัยบนรถแห่ ระบุว่าพอใจต่อคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ให้พลเอกประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็ไม่พอใจที่พลเอกประวิตร จะรักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งผู้ชุมนุมเรียกร้องให้สรรหานายกฯที่เหมาะสม


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/NHWEfZ2GrBg

คุณอาจสนใจ

Related News