ปิดคดีขโมยรังนกพัทลุง ส่งฟ้องชาวบ้าน-จนท.รัฐ รวม 41 ราย

ความคืบหน้าต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็คือกรณีลักลอบเข้าไปจุดไฟรมควันและขโมยรังนกอีแอ่น ภายในถ้ำสัมปทานรังนก พื้นที่อ.ปากพะยูน เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้แม่นกบินหนีและมีลูกนกตายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท ล่าสุด มีรายงานว่าตำรวจ สรุปสำนวนและสั่งฟ้องดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซึ่งมีรวมกันมากถึง 41 คน ในจำนวนนี้ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐมากถึง 20 นาย คอยแบ่งรับผลประโยชน์ ร่วมกันทำเป็นขบวนการ



คราบเขม่าควัน และซากลูกนกร่วงตกลงมาจากรังบนผนังถ้ำ นำมาสู่การสืบสวนขยายผล จนพบว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่การขโมยรังนกทั่วไป แต่เป็นรูปแบบของแก๊งโจรกรรม ที่มุ่งทำลายล้าง ลักลอบเข้ามากอบโกยเอาทรัพยากรออกไปในช่วงเปลี่ยนผ่านสัมปทาน หลังเอกชนส่งมอบพื้นที่คืนให้คณะกรรมรังนกฯ ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว



เรื่องนี้รู้ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ต่อมาจึงมอบหมายรองผบตร.นำโดยพล.ต.อ. สุชาติ ธีระสวัสด์ กับผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล เข้ามาทำคดี หลังสืบทราบว่ามีกลุ่มอิทธิพล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ข้าราชการคนมีสีหลายคนอยู่ร่วมในขบวนการ แบ่งรับผลประโยชน์ เปิดทางและสั่งการอยู่เบื้องหลัง



ข้อมูลการสืบสวนของตำรวจ พบว่า หลังจากเอกชนส่งมอบพื้นที่คืนให้กับจังหวัดพัทลุง ได้มอบหมายให้จัดกำลังไปเฝ้าถ้ำ ซึ่งมีอยู่ 3 ฝ่ายหลัก ๆ ประกอบด้วย อุทยาน ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ต่อมาทั้งหมดถูกเรียกสอบ กระทั่งหนึ่งในชุดเฝ้าปากถ้ำ ได้เอาคลิปเสียงออกมาแฉ กล่าวหาว่ามีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งโทรมาบอกให้คอยเปิดทาง จะมีทีมเก็บรังนกเข้าไปและห้ามบอกใครเด็ดขาด



ข่าว 3 มิติ เกาะติดเรื่องนี้ และได้รับอนุญาตให้เข้าไปสำรวจสภาพความเสียหาย คือที่ ถ้ำรื่น หนึ่งในหลายถ้ำที่ถูกโจรกรรม-จุดไฟรมควัน จนทำให้ลูกนกตาย แม่นกบินหายจนเหลือแต่ค้างคาว



ขณะนั้นที่ปรึกษาบริษัท ซึ่งต่อมาได้สิทธิสัมปทาน บอกว่า หลังยื่นซองและชนะการประมูล ด้วยราคา 400 ล้านบาท สิ่งที่น่ากังวลมากที่สุด คือผลกระทบทางระบบนิเวศ ที่อาจต้องใช้เวลาฟื้นฟูนานหลายปี ประเมินเบื้องต้นเชื่อว่าเสียหายมากกว่าพันล้าน



ล่าสุด มีรายงานว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ลงพื้นที่พัทลุง ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 8 ติดตามความคืบหน้า หลังผ่านมา 6 เดือน สอบพยาน 262 ปาก มีเอกสารมากถึง 12,667 แผ่น และพยานวัตถุอีกจำนวนมาก โดยคณะพนักงานสอบสวน เตรียมสรุปสำนวนคดีและสั่งฟ้องผู้ต้องหารวมกันมากถึง 41 คน ในจำนวนนี้เป็นประชาชน 21 คน อีกครึ่งหนึ่งคือ 20 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ถูกแจ้งหลายข้อหา ทั้งที่เกี่ยวข้องกับ



พ.ร.บ.การจัดเก้บอากรรังนกอีแอ่น / พ.ร.บ.สวงนและคุ้มครองสัตว์ป่า / ความผิดทางอาญา ฐานร่วมกันทุจริต ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทั้งปรับและจำคุก ในส่วนเจ้าหน้าที่รัฐจะมีโทษทางวินัย สูงสุดคือไล่ออกจากราชการ



พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ บอกว่า สืบสวนขยายผลมาตลอด 6 เดือน เป็นอีกคดีตัวอย่างในการดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง และไม่มีใครอยู่เหนือกฏหมายได้