พระมหาสมปองเปิดใจทั้งน้ำตา หลังถูกจับผิด - จ้องจับสึก ชาวเน็ตแห่ติดแท็ก #saveพระมหาสมปอง

จากกรณี #save พระมหาสมปอง พุ่งติดเทรนร่ำไห้กลางไลฟ์ ถูกจ้องจับผิดและจับสึก ห่วงสภาพจิตใจแม่ที่ป่วยติดเตียง ซึ่งพระมหาสมปอง เปิดความในใจผ่านไลฟ์สด ผ่านเพจพระมหาสมปอง พูดคุยกับพระมหาไพรวัลย์ แคปชั่นว่า พส.ไพรวัลย์ ขิงมาขิงกลับ ไม่โกง

โดยระหว่างไลฟ์สตอนหนึ่ง พระมหาสมปอง เผยว่า ถูกจ้องจับผิดจากพระผู้ใหญ่ ถูกจ้องให้จับสึกตลอดเวลา ทำไมคนต้องจ้องสึกเราด้วยนะ ใช้งานเราเถอะ ไม่ต้องสึกเราหรอก ถึงเวลาเราไปก็ไปเองไม่ต้องมาไล่ ทำไมคนที่ดูแลเราตอนนี้ มาจ้องจับสึกเรา 

ผมก็เหนื่อยนะ เราไม่ได้มีเจตนาอื่น เรามีเจตนาช่วยคน แต่ขออนุญาตนะ….จ้องจับผิดเรา จ้องจับสึกเราแทนที่จะใช้งานเรา แล้วจะเอากำลังใจจากไหน ผมก็เป็นหนึ่งในพระพุทธศาสนา

ให้ผมเรียนผมก็เรียน ไม่รู้ว่าเรียนบาลีไปทำ…อะไร ขออนุญาตใช้คำแรง ผมก็เรียนผมก็ท่อง ให้ผมทำอะไรผมก็ทำ ไม่ให้ผมทำอะไรผมก็ไม่พูด ให้ผมหยุดผมก็หยุด ผมดื้อเหรอ

ผมทำขนาดนี้ยังจ้องจับสึกผม คืออะไร ผมไม่ใช่ลูกพวกคุณเหรอ ผมไม่ใช่คนที่พวกคุณปั้นมาเหรอ คุณต้องการทำร้ายอะไรผม ผมเคยคิดร้ายใครเหรอ ผมเคยทำร้ายใครเหรอ ผมเคยตอบโต้ใครเหรอ

ตอนหนึ่ง พระมหาสมปองบอกด้วยว่า แม่เราก็แก่ ป่วยติดเตียงตั้งแต่อายุ 69 จน 74 ชอบดูทีวีติดทีวี ช่วงหลังๆ มีข่าวช่องหนึ่งชอบเล่นข่าวแรง ว่าพส.สมปองจะโดนจับสึก แล้วแม่ไม่สบายใจเป็นที่กังวล พี่สาวโทร.มาถามบ่อยๆ เป็นห่วงจิตใจคุณแม่

พระมหาสมปอง เปิดใจ หลังระบายความในใจผ่านไลฟ์ ปมโดนจ้องจับสึก ยันไม่เกี่ยวกับพระผู้ใหญ่ แต่เป็นบางองค์กร ห่วงโยมแม่เครียด ลั่นถ้าทำประโยชน์ไม่ได้จะไปเอง

ที่ วัดสร้อยทอง พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต กล่าวถึงกรณีการไลฟ์เมื่อคืน(9ต.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งมีช่วงหนึ่งพระมหาสมปองพูดถึงความรู้สึกถูกกดดัน ถูกบางคนมาด่าด้วยคำหยาบคาย และถูกจ้องจับสึก จนถึงกับร้องไห้เป็นบางช่วง และห่วงความรู้สึกโยมแม่ ที่ป่วยติดเตียง เมื่อรู้กระแสข่าวนี้ โดยมีพระมหาไพรวัลย์ และพระมหานภันต์ จากวัดสระเกศ ที่ร่วมไลฟ์อยู่ด้วย ต่างให้กำลังใจ กระทั่งชาวทวิตเตอร์ทวิตข้อความให้กำลังใจ พร้อมติดเเฮชเเท็ก #saveพระมหาสมปอง

พระมหาสมปอง กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการพาดพิงถึงมหาเถรสมาคม หรือพระเถระชั้นผู้ใหญ่เเต่อย่างใด เเต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าขณะนี้มีบางองค์กร ซึ่งอาตมาไม่ขอเอ่ยนามองค์กร จ้องจับผิดเเละหาช่องเพื่อจะจับอาตมาสึก และเมื่อมีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวดังกล่าว ทำให้เเม่ของอาตมาที่ป่วยติดเตียง เเละอายุมากเเล้ว ได้ติดตามข่าวสารทำให้เกิดความเครียดเเละไม่สบายใจ จึงทำให้อาตมารู้สึกเป็นห่วงครอบครัวด้วย

ช่วงนี้จะทำอะไรก็ถูกจับจ้องไปหมด หากถามเรื่องพระธรรมวินัย อาตมาทำได้หมด เเต่บางครั้งก็อยากช่วยเหลือญาติโยมบ้าง อาตมาเป็นเพียงพระเล็กๆ รูปหนึ่ง ไม่ได้ต้องการจะขัดขาใคร เเต่เมื่อเจอเรื่องต่างๆ โถมเข้ามา ก็ทำให้เกิดความอึดอัด ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีหน่วยงานใดให้ความปกป้องหรือชี้เเนะอาตมาเลย

ในขณะเดียวกัน ตอนนี้มีผู้เเสดงความคิดเห็นหลากหลาย บางส่วนมองว่าอาตมาทำถูก เเต่บางส่วนก็มองว่าอาตมาทำผิด บางคนถึงขั้นเเสดงความคิดเห็นไล่ให้ไปสึก ซึ่งอาตมาขอยืนยันว่าการที่ครองสมเพศเป็นพระอยู่ขณะนี้ เพราะเห็นว่าตัวอาตมายังทำประโยชน์เเก่พระพุทธศาสนาได้ ยังมีญาติโยมนิมนต์ไปเทศน์อยู่บ้าง เเต่หากวันใดไม่มีคนฟังเทศน์จากอาตมา หรือตัวอาตมาไม่สามารถทำประโยชน์ให้พระพุทธศาสนาได้ อาตมาก็จะไปเอง

ส่วนกรณีบัญชีรับบริจาคน้ำท่วม อาตมายอมรับว่าผิดพลาด เนื่องจากขณะนั้นต้องการช่วยเหลือญาติโยมที่กำลังประสบภัยน้ำท่วม จึงขอรับบริจาค โดยไม่ทราบว่าการรับบริจาคจะต้องมีขั้นตอนต่างๆ มากมาย เเละมีกฎหมายรองรับ ดังนั้น หลังจากได้ปรึกษากับลูกศิษย์เเละทนายความที่เป็นห่วงเเละหวังดี ได้ให้คำเเนะนำว่าการเปิดบัญชีในลักษณะนี้จะต้องเปิดเป็นมูลนิธิ เเต่อาตมามองว่าส่วนตัวตอนนี้ยังไม่พร้อมถึงขั้นนั้น เบื้องต้นจึงเเก้ไขโดยปรับเปลี่ยนวิธีรับบริจาค โดยยกเลิกคำว่าช่วยเหลือน้ำท่วม เเต่เปลี่ยนเป็นบัญชีรวมที่จะช่วยเหลือพระภิกษุ-สามเณร ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เเละช่วยเหลือด้านอื่นๆ ตามสมควรเเทน

พระมหาสมปอง กล่าวอีกว่า ตอนนี้มีคนโทร.หาสำนักงานพระพุทธศาสนา รายงานว่าการไลฟ์สดที่ผ่านมาของอาตมา ที่อาจจะดูไม่เหมาะสม ทางสำนักพุทธฯ ก็มีหนังสือข้อความส่งถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เเละหน่วยงานดังกล่าวก็ส่งหนังสือมาถึงรักษาการเจ้าอาวาส อาตมาก็น้อมรับเเละนำมาปรับปรุงเเก้ไข ยืนยันว่าจะยังไลฟ์สดต่อไป เพราะไม่สามารถทอดทิ้งลูกเพจกว่า 1 ล้านคนที่สนับสนุนได้ เเต่จะระมัดระวังมากขึ้น รวมถึงตอนนี้ลูกศิษย์ก็กำลังศึกษาข้อมูลด้านกฎหมายมากขึ้น