กทม.แถลงปรับแผนฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยงก่อน - แจงสั่งปิดร้านอาหารในห้างฯ เป็นอำนาจ ศบค.

กทม.ชี้แจงถึงฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ต้องปรับแผนมาฉีดให้กลุ่มเสี่ยง คือ ผู้สูงอายุก่อน ส่วนหลักการในการปิดกิจการ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด เป็นอำนาจของ ศบค.

ร้อยตำรวจเอก พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพมหานคร บอกว่า หลักการในการประกาศปิดสถานที่หรือกิจการ เพื่อควบคุมการระบาดโควิด-19 เป็นอำนาจของทาง ศบค.ในการพิจารณาภาพรวม เช่นกรณีร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า กทม.พยายามเสนอขอให้ปิดการซื้อหน้าร้าน ให้เหลือเฉพาะบริการรับ-ส่งหรือเดลิเวอรีไว้ แต่ ศบค.เห็นว่า ควรจะคงตามคำสั่งเดิมไว้ จึงไม่สามารถให้เปิดได้

ล่าสุด ศบค.ได้พิจารณาปิดสถานที่ หรือกิจการเพิ่มอีก 10 ประเภท ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ซึ่ง กทม.จะเร่งออกประกาศในส่วนนี้ต่อไป ส่วนเรื่องของการฉีดวัคซีน เดิม กทม.ตั้งเป้าจะฉีดให้ได้ 5 ล้านโดส ภายใน 2 เดือน แต่ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป

กระทรวงสาธารณสุข จึงปรับแผน ทำให้วัคซีน 5 แสนโดสที่ กทม.ได้รับมาครั้งล่าสุด ถูกนำไปเร่งฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยง คือ กลุ่มผู้สูงอายุก่อน แต่จากนี้จะเริ่มฉีดให้กับกลุ่มที่ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้ เพราะ กลุ่มผู้สูงอายุมารับวัคซีนค่อนข้างน้อย ซึ่งจะให้แต่ละเขต รวมถึงทีมดำเนินการเชิงรุก เคาะประตูบ้าน เพื่อขอให้รีบเข้ามารับวัคซีน คาดว่าจะเร่งฉีดให้ครอบคลุมภายในสิ้นเดือนนี้ ส่วนเรื่องของการตรวจเชิงรุก ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit เพื่อให้เข้าถึงการตรวจได้มากขึ้น

กทม.จะเร่งดำเนินการเช่นเดียวกัน เพื่อนำผู้ป่วยเข้าสู่แนวทาง Home isolation เร็วขึ้น หากใครที่ไม่สามารถแยกรักษาตัวที่บ้านได้ก็จะเข้าสู่ Community Isolation ซึ่งทางผู้ว่าฯ กทม.ได้มอบนโยบายให้ทุกเขต ต้องมีศูนย์ดูแลผู้ป่วย แต่หากอาการรุนแรงก็ให้ประสานส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล

ด้าน นายแพทย์ สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. ยอมรับว่า จำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ต้องขยายศักยภาพ เพิ่มจำนวนเตียงในโรงพยาบาลหลัก บางแห่งเคยรับเฉพาะผู้ป่วยสีเขียว ก็ต้องปรับให้รองรับกลุ่มผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดงได้ รวมไปถึง Hospitel ที่มีกว่า 8,000 เตียง ก็จะปรับให้รองรับผู้ป่วยสีเหลืองได้บางส่วน หลังกรมการแพทย์มีการปรับหลักเกณฑ์

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/VWL8dwvJTuY