ลุ้นผลตรวจอีก 7 ตัวอย่าง 'คลัสเตอร์ตากใบ' หลังพบโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้

ศบค.รายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้รวม 2,713 คน ผู้ติดเชื้อใหม่ 2,507 คน ผู้ติดเชื้อจากเรือนจำที่ต้องขัง 206 คน ส่งผลมีผู้ป่วยสะสมพุ่งสูงเกินแสนคนอยู่ที่ 103,350 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิต 30 คน ขณะที่ยอดผู้รักษาหายกลับบ้านแล้ว 1,565 คน หายป่วยสะสม 58,674 คน

วันนี้ 24 พ.ค.ต้องเกาะติด คลัสเตอร์ตากใบ จ.นราธิวาส สายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่ตรวจพบใน 3 ตัวอย่าง ซึ่งต้นตอคาดว่ามาจากประเทศเพื่อนบ้านมาเลเซีย และต้องรอผลตรวจอีก 7 ตัวอย่าง

ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี บอกว่า ในช่วงบ่ายนี้จะทราบผลว่า ตัวอย่างที่เหลือในห้องแล๊ป ว่าเป็นสายพันธุ์แอฟริกาใต้หรือไม่ เช่นเดียวกับอีก 3 ตัวอย่างแรก ทั้งนี้การตรวจและถอดรัหสพันธุ์กรรมใช้เวลาประมาณ 4-7 วัน ยืนยันว่า สายพันธุ์นี้ยังมีความรุนแรง เจ้าหน้าที่รับผิดชอบจึงต้องควบคุมพื้นที่หรือล๊อคดาวน์ให้ได้ พร้อมอธิบายว่า สายพันธุ์นี้มีการติดเชื้อรวดเร็วและรุนแรงอยู่ ซึ่งเป็นเชื้อที่คล้ายกับประเทศเพื่อนบ้าน

หากจะเปรียบเทียบ สายพันธุ์แอฟริกาใต้ ที่หลายคนกังวลอยู่ในขณะนี้กับสายพันธุ์อินเดีย พบว่า โควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ พบที่ ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเชื้อมีความรุนแรงและติดต่อกันได้ง่าย ซึ่งก่อนหน้านี้แพร่ระบาดในมาเลเซีย ซึ่งมีพรมแดนติดกับไทย หลายฝ่ายจึงเฝ้าระวัง แต่สุดท้ายก็เข้ามายังประเทศไทยจนได้ ส่วนประสิทธิภาพของวัคซีน 2 ยี่ห้อที่ฉีดอยู่ในบ้านเรา ซิโนแวคกับแอสตราเซเนกา นั้นตอบสนองต่อสายพันธุ์แอฟริกาใต้ไม่ดี

ส่วนสายพันธุ์อินเดีย พบเมื่ออาทิตย์ก่อนที่แคมป์คนงานก่อสร้างย่านแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม. ล่าสุดตัวเลขที่พบยังอยู่ที่ 36 คน ซึ่งเชื้อสายพันธุ์นี้เมื่อติดแล้ว เข้าสู่ปอดได้ลึก การตรวจด้วยวิธีสว๊อบ อาจไม่เจอเชื้อ ต้องตรวจด้วยวิธีเจาะเลือดเพื่อหาเชื้อจึงจะแม่นยำ ขณะที่วัคซีน 2 ยี่ห้อก็มีประสิทธิภาพลดลง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีคำเตือนจาก นพ.ยง ภู่วรวรรณ จากแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์ ว่าไม่ควรให้ 2 สายพันธุ์นี้แพร่ระบาดในไทย