สังคม

แกะรอยจับกุม 'แม่มณี' เตรียมขยายผลจับกุมเครือข่ายแชร์พันล้าน

โดย

2 พ.ย. 2562

132 views

ความคืบหน้าคดีแชร์แม่มณี ซึ่งถูกจับกุมเมื่อเช้าวันนี้ที่อำเภอสัตหีบ ชลบุรี ตำรวจเตรียมขยายผลผู้ร่วมขบวนการ รวมทั้งผู้ช่วยปิดบังซ่อนเร้นทรัพย์สิน ซึ่งคาดว่ามีการยักย้ายถ่ายเทไปในกลุ่มเครือญาติ แต่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยังให้การปฏิเสธ ส่วนตำรวจได้ติดตามยึดรถหรู 4 คัน พร้อมบ้านอีก 2 หลัง ติดตามรายงานจากคุณสุมนา แจวเจริญวงศ์
ก่อนจะถูกตำรวจแกะรอยจับกุมได้ ที่บ้านเช่า ใน ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือท้าวแชร์แม่มณี ให้การว่าถ่ายทำรายการ อยู่ที่เกาะเสม็ด ร่วมกับดาราที่ว่าจ้างไปรับงาน หลังจากนั้นเริ่มมีข่าวผู้เสียหายจำนวนมากรวมตัวไปร้องเรียน ทั้งใน กรุงเทพฯและอีกหลายพื้นทั่วประเทศ จึงได้ติดต่อให้นายเมธี ชิณภา สามี พามารดาและบิดาบุญธรรมพร้อมลูกสาวและป้า ของ นส.วันทนีย์ หลบออกจากจ.อุดรธานี มาอยู่ในจังหวัดระยองชั่วคราว
ขณะนั้นก็ยังได้ชี้แจงทางเฟสบุ๊คและไลน์ไปหาลูกแชร์เป็นระยะ โดยติดตามข่าวสารตามสื่ออย่างต่อเนื่อง เมื่อเห็นว่าตำรวจออกหมายจับ และกดดันให้ออกมามอบตัว จึงได้เช่ารถพาครอบครัวหนีมาเช่า ทาวน์เฮ้าส์ ใน ตลาดเอกธานี ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งด้านล่างเปิดเป็นร้านตัดผมชาย เพื่อจะมาขอบารมีคนมีสีช่วยคุ้มครอง แต่มาเช่าได้ประมาณ 3-4 วัน ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 4 ภาค 2 สืบสวนนครบาลและกองปราบ ได้สนธิกำลังร่วมกันจับกุมได้ โดยพบเงินสดติดตัว นส.วันทนีย์ 13,000 บาท 
หลังจากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวนส.วันทนีย์ นายเมธี สามี พร้อมครอบครัว มายังกรุงเทพฯ พร้อมกับนำตัวไปขึ้นเครื่องบินตำรวจที่ บน.6 ดอนเมือง โดย นส.วันทนีย์ ให้การกับตำรวจชุดสืบสวนว่าไม่ได้มีร้านทองจริง แต่ไปซื้อทองจากร้านทองมาเพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยน กระทั่งไปรู้จักกับนายทุนเงินกู้ ที่มีกลุ่มหมวกกันน็อคทวงหนี้ จึงไปร่วมปล่อยเงินกู้ ร้อยละ 20 ขณะนั้นจึงคิดโครงการออมเงิน ให้ผลตอบแทนสูงร้อยละ 93 เปอรเซ็นต์ นส.วันทนีย์ปฏิเสธว่าไม่ได้โกงลูกช่าย เพียงแต่ไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยให้ลูกแชร์เท่านั้น และยังขอชี้แจงว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับดาราหนุ่ม ตามที่เป็นข่าว
ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวนยังได้ยึดรถรถยนต์หรู ยี่ห้อเบนซ์ สีเหลือ 1คัน บีเอ็มดับบลิว 2 คัน โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ 1คัน โดยมีการเปลี่ยนสลับทะเบียนกันเพื่อง่ายต่อการหลบหนี แล้วนำมาหลบซ่อนไว้ ที่ อ.บ้านพึง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านเดิมของมารดา นส.วันทนีย์ พร้อมยึดบ้านที่ซื้อเงินสด 2หลัง มูลค่าประมาณ30 ล้านบาทในกรุงเทพฯ ส่วนทรัพย์สินพบเงินสดในตัวนส.วันทนีย์ 13000 บาท ส่วนบัญชีเงินฝากพบว่านส.วันทนีย์ได้ยักย้ายถ่ายเทให้ญาติพี่น้อง และสามี ไปบางส่วน มีเหลือในบัญชีของนส.วันทนีย์เองประมาณ 20 ล้านบาท 
ขณะที่ตำรวจภูธรภาค 4 ได้คุมตัว นส.วันทนีย์พร้อมสามีไปชี้ทรัพย์สิน ที่ตำรวจยึดมาได้จากสำนักงาน ในจ.อุดรธานี และสอบสวนเพิ่มเติม โดยจะตรวจสอบว่ามีนายทุนหรือผู้อยู่เบื้องหลังอื่นอีกหรือไม่ และขยายผลไปถึงคนช่วยปกปิดซ่อนเร้นทรัพย์สินด้วย
โดยสรุปยอดความเสียหายจากแชร์แม่มณี เฉพาะสภ.เมืองอุดรธานี มีผู้เสียหาย 232 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 128 ล้านบาท ส่วนที่กรุงเทพฯผู้ที่เสียหายที่ไปแจ้งตำรวจ ปอศ และดีเอสไอ รวมแล้วกว่า 4 พันราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1000 พันล้านแล้ว
โดยพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว มียอดความเสียหายเป็นจำนวนมาก และเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ