'ทะเลแดง' เดือด กลุ่มฮูตีเปิดฉากถล่มเรือสินค้า หลายประเทศยอมเดินเรืออ้อมแอฟริกา

สำนักข่าวต่างประเทศ รอยเตอร์ส รายงานว่า การปล่อยขีปนาวุธโจมตีเรือสินค้าที่แล่นผ่านทะเลแดงของกลุ่มฮูตี กองกำลังติดอาวุธนิกายชีอะฮ์ ที่ยึดครองเยเมน กำลังส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อการขนส่งสินค้าทั่วโลก

หลังบริษัทเรือสินค้าหลายแห่งประกาศเปลี่ยนเส้นทาง โดยขณะนี้ เรือขนส่งสินค้า และเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ ของทั้งอังกฤษ เยอรมนี เบลเยี่ยม นอร์เวย์ ได้ระงับการเดินเรือผ่านทะเลแดงแล้ว

การโจมตีดังกล่าว บีบให้เรือสินค้าจำนวนมากต้องเลี่ยงทะเลแดงที่ไปสู่คลองสุเอซ ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างอ่าวเปอร์เซีย และ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยเปลี่ยนไปแล่นลงใต้เพื่ออ้อมทวีปแอฟริกาแทน

โดยกลุ่มฮูตี ระบุว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นเพื่อตอบโต้อิสราเอลรุกรานฉนวนกาซา ส่งผลให้เรือสินค้าแทบไม่สามารถผ่านทะเลแดงจากฝั่งตะวันออกไปยังอิสราเอลได้

สถานการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นหลังหลายบริษัทเดินเรือสมุทรรายใหญ่ เช่น เอ็มเอสซี (MSC) และ 'เมิร์สก์' (Maersk) เปลี่ยนไปแล่นอ้อมทวีปแอฟริกา แทนที่จะผ่านทะเลแดง และคลองสุเอซ ซึ่งเป็นเส้นทางทางทะเลที่ใกล้ที่สุดระหว่างเอเชียกับยุโรป

นักวิเคราะห์คาดว่า ผลจากการโจมตีของกลุ่มฮูตี จะส่งผลกระทบต่อสินค้าในโลกประมาณ 15% ที่ต้องส่งผ่านคลองสุเอซ โดยต้นทุนพลังงาน และเวลาแล่นเรือที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบให้เห็นเป็นรูปธรรม ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ล่าสุด บริติช ปิโตรเลียม (BP) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานสัญชาติอังกฤษ ประกาศระงับการขนส่งน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติทั้งหมด ผ่านทะเลแดงชั่วคราวแล้ว หลังมีเรือสินค้าถูกขีปนาวุธของกลุ่มฮูตียิงใส่อย่างต่อเนื่อง ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ล่าสุด สำนักข่าวอัลอราบียา รายงานว่า กลุ่มฮูตี (กลุ่มติดอาวุธนิกายชีอะฮ์) ที่ยึดครองประเทศเยเมนอยู่ ยังประกาศจะเดินหน้าโจมตีเรือสินค้าที่แล่นผ่านทะเลแดงเพื่อขนสินค้าของอิสราเอล หรือมีจุดหมายปลายทางเป็นอิสราเอลต่อไป  

และยืนยันว่า น่านน้ำที่ติดกับเยเมนทั้งหมดมีความปลอดภัย ยกเว้นเฉพาะกับเรือสินค้าสัญชาติอิสราเอล และเรือที่มีจุดหมายปลายทางไปอิสราเอลเท่านั้น เนื่องจากการทำสงครามต่อชาวปาเลสไตน์อย่างดุร้าย และไม่ชอบธรรมของอิสราเอล

--------------