พ้นวิกฤตแล้ว 'คริสติน่า-เอ ศุภชัย' แถลงอาการล่าสุด 'เอส กันตพงศ์' หลังแอดมิทกว่า 1 เดือน

'เอ ศุภชัย' พร้อมครอบครัว 'เอส กันตพงศ์' แถลงข่าวคืบหน้าอาการป่วยหลังหมดสติ แอดมิตมานานกว่า 1 เดือน หมอเผย หมดสติไป 8 วัน พ้นขีดอันตราย

อาการป่วยของนักแสดงหนุ่ม 'เอส-กันตพงศ์' ที่วูบหมดสติกลางงานอีเวนต์ ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม จนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมานานกว่า 1 เดือน

ล่าสุดเมื่อวานนี้ 'คริสติน่า' ภรรยา คุณแม่ และ เอ ศุภชัย รวมถึง นายแพทย์ อชิรวินทร์ จิรกมลชัยสิริ แพทย์ชำนาญการด้านอายุรศาสตร์โรคหัวใจ สถาบันโรคหัวใจบำรุงราษฎร์ ได้จัดแถลงข่าวอัปเดตความคืบหน้าด้านการรักษา และอาการของพระเอกหนุ่ม “เอส กันตพงศ์”

โดย นพ. อชิรวินทร์ จิรกมลชัยสิริ เผยว่า ขณะนี้ผู้ป่วยอาการดีขึ้นตามลำดับ ตื่น สามารถรับรู้ และสื่อสารได้ ซึ่งภาวะที่เกิดขึ้นมาจากภาวะหัวใจอักเสบเฉียบพลัน กรณีนี้อยู่ในขั้นรุนแรง การทำงานหัวใจลดลงอย่างมากและหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง จึงทำให้หัวใจหยุดเต้นและล้มลง แต่จากการซักประประวัติคนไข้ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคหัวใจมาก่อน แต่ทั้งนี้ภาวะที่เกิดขึ้นสามารถเป็นไปได้ทุกช่วงทุกวัย และความเครียด-เก็บกด อาจมีผลต่ออาการ แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลัก

โดยรวมขณะนี้ทุกอย่างเกือบปกติแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ เพื่อติดตามอาการและโอกาสหัวใจเต้นผิดจังหวะ เนื่องจากหลังคนไข้หยุดหายใจ นานถึง 20 นาที และ หลับไปถึง 8 วัน ทำให้ไตและสมองผิดปกติด้วย ส่วนเรื่องของสมอง ผู้ป่วยรับรู้และดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งหลังจากนี้ผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ระบบประสาท เพื่อฟื้นฟู ซึ่งตอนนี้ได้ย้ายมาอยู่หอผู้ป่วยปกติ หลังจากนี้ต้องฟื้นฟูและกายภาพ แพทย์ก็เผยว่าโดยรวมไม่มีภาวะใดที่น่าห่วงขนาดนั้น เรียกว่าพ้นวิกฤตแล้ว

ซึ่ง "คริสติน่า บำรุงรักษ์" ภรรยาของ “เอส” ก็เล่าว่า วินาทีที่รู้สึกตัว เอสยังสับสน คิดว่าตัวเองทำงานอยู่ และเชื่อว่าที่ฟื้นขึ้นมาคือปาฏิหาริย์ สำหรับคนที่มีอาการป่วยแบบนี้ และคำแรกที่คริสติน่าพูดกับเอส คือ ที่รัก พวกเราทุกคนอยู่ตรงนี้ เพื่อคุณ ตอนที่ตื่นขึ้นมายังจำไม่ได้ แต่ตอนนี้จำได้แล้ว พร้อมกับได้ขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุน ขอโทษที่บางครั้งอาจจะยังอัปเดตบางเรื่องไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ก็หวังอย่างมากว่า เอสจะกลับมาเป็นได้เหมือนเดิม

ด้าน "เอ ศุภชัย" ผู้จัดการส่วนตัว ก็บอกว่า พอเห็นเอสฟื้น เชื่อว่าปาฏิหาริย์มีจริง สิ่งที่คาดหวังเป็นจริงแล้ว พูดกับเขาเรื่องในอดีตบอกเขา พี่เอสจำได้เรื่องในอดีตหมดเลย เขาก็โอเค งานพี่เอสที่ค้างไว้ต้องถามคุณหมอว่าจะสามารถให้เริ่มรับงานได้ช่วงไหน ต้องลุ้นวันต่อวัน เพราะอาการไม่เหมือนกัน ไม่สามารถพูดได้เลย