เศรษฐกิจ

นักลงทุนกังวลน้ำมันล้นตลาด หลังสหรัฐฯประกาศปล่อยคลังสำรองออกสู่ตลาด ฉุดราคาน้ำมันโลกร่วงทันที 1%

โดย paranee_s

24 มี.ค. 2566

59 views

เช้าวันนี้ (24 มี.ค.) ผู้ค้าน้ำมัน ประกาศปรับ "ราคาน้ำมัน" ทั้งเบนซินและดีเซล มีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. ที่ผ่านมา โดยกลุ่มน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ทุกชนิด ปรับขึ้น 0.50 บาท/ลิตร ส่วนกลุ่มน้ำมันดีเซล ปรับลดลง 0.50 บาท/ลิตร ซึ่งในส่วนของดีเซล ปรับลดลงตามมติคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ กบน. รอบที่ 3 เพื่อลดภาระให้ประชาชน หลังราคาตลาดโลกช่วงที่ผ่านมาลดลงต่อเนื่อง ส่งผลกองทุนน้ำมันติดลบน้อยลง ล่าสุดอยู่ในระดับต่ำกว่าแสนล้านบาท


ส่งผลราคาหน้าปั๊มเช้าวันนี้ แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 35.35 บาท/ลิตร

-ซูเปอร์พาวเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 42.64 บาท/ลิตร

-แก๊สโซฮอล์ E20 ราคา 33.04 บาท/ลิตร

-แก๊สโซฮอล์ E85 ราคา 33.49 บาท/ลิตร

-แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 35.08 บาท/ลิตร

-เบนซิน 95 ราคา 43.16 บาท/ลิตร

-ดีเซล B7 ราคา 33.44 บาท/ลิตร

-ดีเซลพรีเมี่ยม ราคา 42.56 บาท/ลิตร

-ดีเซลหมุนเร็ว B20 ราคา 33.44 บาท/ลิตร

-ดีเซล ราคา 33.44 บาท/ลิตร


ขณะที่ราคาน้ำมันโลก ขยับลง 1% ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.66) หลังจากที่ รัฐมนตรีพลังงานสหรัฐฯ บอกกับสภาคองเกรส ว่า การเติมเต็มคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (เอสพีอาร์) ของประเทศ จะใช้เวลาหลายปี หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนมีคำสั่งให้ระบายน้ำมันออกจากคลังดังกล่าว ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำมันในคลังลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 40 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2526


น้ำมันดิบเวสต์เทกซัส ลดลง 94 เซนต์ ปิดที่ 69.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ลดลง 78 เซนต์ ปิดที่ 75.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล


โดยความเห็นของ นางแกรนโฮล์ม ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของอุปทานล้นตลาด ขณะเดียวกัน กระทรวงพลังงานมีแผนเดินหน้าระบายคลังน้ำมันดิบสำรองทางยุทธศาสตร์ออกมาเพิ่มเติมอีก 26 ล้านบาร์เรล ภายใต้การอนุมัติของสภาคองเกรส


ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือ โอเปกพลัส ในวันที่ 3 เม.ย.66 แหล่งข่าว เปิดเผยว่า โอเปกพลัสมีแนวโน้มที่จะรักษานโยบายการผลิตน้ำมันด้วยการปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปี 66 แม้เกิดวิกฤตธนาคารก็ตาม


ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (24 มี.ค.) ที่ระดับ 34.05 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.08 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.95-34.20 บาทต่อดอลลาร์


โดยช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นทดสอบโซน 33.90 บาทต่อดอลลาร์ จากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบโซนแนวต้านสำคัญขณะที่การพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ เป็นปัจจัยที่ช่วยชะลอไม่ให้เงินบาทแข็งค่าไปมาก


ส่วนในวันนี้ ค่าเงินบาทอาจแกว่งตัว sideways ในกรอบ 33.95-34.20 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทอาจพอได้แรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติที่เริ่มทยอยกลับเข้ามาบ้างแล้ว นอกจากนี้ หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อใกล้โซนแนวต้านแถว 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็อาจมีแรงขายทำกำไรช่วยหนุนการแข็งค่าของเงินบาทได้บ้าง


ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานดัชนี PMI ของบรรดาเศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะ ดัชนี PMI ของสหรัฐฯ เพราะหากข้อมูลออกมาดีกว่าคาด และยังสะท้อนสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ก็อาจหนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องและกดดันเงินบาทได้


ในช่วงนี้ ความผันผวนของตลาดการเงินยังอยู่ในระดับสูง (ค่าเงินบาทผันผวนในระดับ 9%-10% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมาที่ระดับ 5%เป็นอย่างมาก) ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ