เปิดแชท นิสิตสาว ป.เอก ผวาคนเมาบุกห้อง ก่อนปีนหนีพลัดตกแมนชั่น ชั้น 6 ดับสลด

เกิดกรณีครอบครัวของนักศึกษาปริญญาเอก ร้องเพจ “สายไหมต้องรอด” ขอความเป็นธรรม หลังลูกสาวพลัดตกจากแมนชั่นเสียชีวิต สาเหตุคาดว่าเกิดจาก สามีของคนดูแลแมนชั่น ที่บุกขึ้นไปเคาะประตูห้อง อาละวาด สร้างความหวาดกลัว  เหตุเกิดวันที่ 13 ธ.ค. ช่วงกลางดึก ที่แมนชั่น ซ.ลาดปลาเค้า 3 โชคชัย 4                                     

โดย RED Skull ทวิต ระบุข้อมูลจากแม่ของน้องเล่าว่า  น้องไปจอดรถมอเตอร์ไซค์ทับที่ประจำ ของสามีคนดูแลแมนชั่นโดยไม่รู้  ส่วนสามีเพิ่งกลับมาจากไหนไม่รู้ ก็โวยวายอาละวาด แล้วถามหาเจ้าของรถที่จอดทับที่ โดยถามจากแม่บ้านแมนชั่น ก็บอกว่ามอเตอร์ไซค์เป็นของน้องคนนี้ พักอยู่ห้องนี้ ชั้นนี้ ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาประมาณจะเกือบจะตีสี่ สามีคนดูแลแมนชั่น ได้ขึ้นไปทุบประตูห้อง ตะโกนโวยวาย ให้น้องออกมาจากห้อง ซึ่งมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงจากห้องข้างๆที่ตกใจตื่นแล้วอัดไว้                                                                             
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากคลิปจะได้ยินเสียงสามีของคนดูแลแมนชั่น พยายามมาเคาะประตูห้อง พูดจาข่มขู่ ให้ออกมาจากห้อง  

RED Skull ยังทวิตต่อว่า “ด้วยความตกใจและความกลัวประกอบกับน้องมีอาการไข้ กินยาแล้วหลับลึก น้องได้หนีออกไปทางระเบียงห้องพักของตัวเอง พร้อมทั้งโทรให้เพื่อน ให้ขึ้นมาช่วย เพื่อนเลยรีบวิ่งลงไปตาม รปภ.ที่อยู่ชั้นล่าง

แต่พอวิ่งลงไปถึงด้านล่างก็พบร่างน้องตกลงมาแล้ว พร้อมทั้งข้อความสุดท้ายที่แชทส่งให้เพื่อนว่า จะปีนแล้วนะ ตอนเวลา 04.03 น. โดยน้องตกลงมาเวลา 04.08 น. ในแมนชั่นไม่มีกล้องวงจรปิด ตำรวจเรียกผัวคนดูแลแมนชั่นมาเปรียบเทียบปรับแล้วปล่อยกลับโดยให้เหตุผลว่าไม่ได้งัดห้อง แล้วน้องตกมาเอง

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า หลังจากที่น้องโทรขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ยังได้ส่งข้อความไปเร่งให้เพื่อนรีบมา หลายครั้งว่า มาหรือยังโดยบอกกับเพื่อนว่า ไม่รู้ว่าใครมาเคาะห้อง เสียงดังมาก  และยังบอกกับเพื่อนด้วยว่า จะปีนห้องออกไปข้างนอก ก่อนที่จะตกลงมาเสียชีวิต

ทั้งนี้ผู้เสียชีวิต เป็นนักศึกษาปริญญาเอก กำลังรอรับปริญญา เป็นนักวิทย์ กำลังจะได้ทำงานกระทรวงวิทยาศาสตร์ โดยแม่น้องคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากทางแมนชั่น เพราะแมนชั่นมีระบบคีย์การ์ด แต่สามีแม่บ้านกลับบุกขึ้นไปทุบประตูห้องคุกคามลูกสาวได้ แม่น้องกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม อยากให้สื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงด้วย

ขณะที่ตำรวจ สน.โชคชัย ได้ทำการสอบปากคำผู้ก่อเหตุแล้วโดยอ้างว่า ตนเองเมาแล้วเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคู่กรณีเก่าที่มาจอดรถขวาง แล้วได้ไปถามแม่บ้าน ว่าเป็นรถใครแต่แม่บ้านบอกผิดห้องเลยไปโผล่ที่หน้าห้องน้องผู้ตายจึงโวยวายอยู่ตรงนั้น แต่ไม่ได้เจตนาที่จะทำให้น้องตกตึกจนเสียชีวิต

โดยตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา บุกรุกในเวลากลางคืน / ขู่เข็ญใช้กำลัง และส่งสียงดังทำให้คนรำคาญ

ด้านนายสมชาย สีชำนาญ อายุ 60 ปี พ่อของ นางสาวอาภาภรณ์ อายุ  27 ปี นักวิจัยว่าที่ด็อกเตอร์สาว ผู้เสียชีวิต เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังลูกสาว พลัดตก จากที่พักชั้น 6 ลงมาเสียชีวิตโดยสาเหตุมาจากการตกใจที่สามีผู้ดูแลอาคารขึ้นไปทุกห้องโวยวายด้วยเหตุเข้าใจผิด

นายสมชาย ระบุว่าส่วนตัวลูกสาวเป็นคนขี้ตกใจมาตั้งแต่เด็ก เวลามีเสียงดังอึกทึก มักจะตกใจมากกว่าคนปกติ ซึ่งช่วงที่ลูกสาวเข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ชั้นปริญญาตรี ก็ไม่ได้อยู่กับตนเอง โดยจะพักอาศัยอาศัยอยู่ที่แมนชั่นแห่งนี้จนจบการศึกษาระดับชั้นปริญญาตรีและปริญญาโท ปัจจุบันศึกษาอยู่ในชั้นปริญญาเอก ที่เหลือเพียงแค่การส่งชิ้นงานสุดท้ายและทำเรื่องจบการศึกษาก็จะเป็นด็อกเตอร์ด้านงานวิจัย

พ่อบอกว่า ในระหว่างเกิดเหตุลูกสาวตนเองได้แชทไปขอความช่วยเหลือกับเพื่อนที่พักอาศัยอยู่ที่ห้องชั้น 3 ซึ่งเพื่อนก็ยืนยันว่าได้ยินเสียงโวยวายดังขึ้นจากด้านบนของอาคารเช่นกัน แต่เพื่อนไม่กล้าขึ้นมาช่วยห้าม เพราะเกรงว่าชายคนดังกล่าวอาจจะมีอาวุธและคลุ้มคลั่งอยู่ เพื่อนจึงตัดสินใจลงไปที่ชั้นหนึ่งเพื่อไปขอความช่วยเหลือกับเจ้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคาร แต่เมื่อเพื่อนของลูกสาวลงไปถึงชั้นล่างและกำลังจะเดินไปขอความช่วยเหลือกับ รปภ. ก็เห็นร่างลูกสาวร่วงตกมากระแทกทะลุหลังคาโรงจอดรถจักรยานยนต์ลงมาเสียชีวิตต่อหน้าต่อตา

หลังจากทราบเรื่องตนเองยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก และอยากให้ผู้ก่อเหตุออกมาแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะการกระทำที่ขาดสติโดยไม่ยังคิดของผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ทำให้ตนเองต้องสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รัก และประเทศชาติต้องสูญเสียบุคลากร ที่จะสามารถสร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไปในอนาคตได้อย่างมาก

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ระบุว่า เบื้องต้นหลังได้รับฟังเรื่องทั้งหมด ตนเองก็อยากให้ทางตำรวจดำเนินการแจ้งข้อหาและดำเนินการทางคดีกับผู้ก่อเหตุรายนี้ให้ถึงที่สุด เพราะหากไม่กระทำการในลักษณะการคุกคามแบบนี้ก็เชื่อว่า น้องคนนี้ก็จะไม่ต้องปีนตึกหนีไปจนพลาดพลัดตกเสียชีวิต

โดยต่อจากนี้ตนเองจะขอประสานไปที่ทางสถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ซึ่งเป็นเจ้าของคดี ให้ช่วยพิจารณาในการดำเนินการให้ถึง รวมถึงจะประสานไปที่รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลช่วยเข้ามากำกับดูแลคดีดังกล่าว และให้ความเป็นธรรมกับทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ด้วย

https://youtu.be/yl5g2Zgllqs