อาชญากรรม

"ติ๊ก ชิโร่" แถลงคดีชนดับ 2 ศพ รับจ่ายไม่ไหว เยียวยา 24 ล้าน พ่อเหยื่อชี้พร้อมลด แต่เอาอะไรวัดว่าลูกมีค่าแค่ 4-5 ล้าน

โดย panwilai_c

23 ม.ค. 2568

793 views

ผ่านมากว่า 3 เดือนหลังเกิดอุบัติเหตุที่คุณติ๊ก ชิโร่ เมาแล้วขับพุ่งชน 3 พี่น้องครอบครัวศิวพรพิทักษ์ เสียชีวิตไป 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย วันนี้ คุณติ๊ก ชิโร่ ออกมาบอกแล้วว่า ครอบครัวผู้ตายเรียกค่าเยียวยา 24 ล้าน ยอมรับ "จ่ายไม่ไหว"



วันนี้ (23ม.ค.68) นาย มนัสวิน นันทเสน หรือ ติ๊ก ชิโร่ นักร้องชื่อดัง ออกมาเปิดใจอีกครั้ง หลังจาก 1 ในผู้บาดเจ็บ คือ นาย จักรภัคร หรือจูเนียร์ ศิวพรพิทักษ์ อายุ 21 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา หลังต้องรักษาตัวนานเกือบ 100 วัน เท่ากับว่าอุบัติเหตุที่คุณติ๊ก ชิโร่ เมาแล้วขับ มีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย และทางครอบครัวผู้เสียชีวิตได้เรียกเงินเยียวยา 24 ล้านบาท



คุณติ๊ก ชิโร่ แถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย บอกว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ไม่ได้มาแก้ต่าง หรือแก้ตัว พร้อมกับบอกว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ไม่มีใครอยากให้เกิด ทั้ง 2 ครอบครัวรู้สึกสูญเสียทั้งร่างกาย และจิตใจ สำหรับการเยียวยาได้พูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ว่า จะแต่งเพลงให้กับน้องที่เสียชีวิตทั้ง 2 คน หากปล่อยเพลงออกไปแล้วมีรายได้เข้ามา รายได้ทั้งหมดนั้นมอบให้กับทางครอบครัว เพื่อเป็นการเยียวยาอีกทาง



1 ในประเด็นที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตคาใจ คือ เรื่องการเยียวยา เพราะดูเหมือนการเจรจาหลายครั้งที่ผ่านมาจะตกลงกันไม่ได้ ซึ่งวันนี้ (23ม.ค.68)น้องสาวภรรยาของคุณติ๊ก ชิโร่ ได้อธิบายเรื่องนี้ว่า หลังจากเกิดเหตุ คุณติ๊ก เข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว และเธอเป็นตัวแทนในการเจรจามาตลอด



เงินก้อนแรกเป็นเงินช่วยงานศพของน้องเมจิ ที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 1 แสนบาท และช่วยค่าจัดงานศพเป็นเงิน 75,530 บาท และคุณติ๊ก เดินทางไปร่วมงานศพทุกวัน



จากนั้นวันที่ 22 ตุลาคม 2567 คุณติ๊กนัดเจรจากับครอบครัวผู้สูญเสียครั้งแรกที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะน้องจูเนียร์ยังรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU ต่อมานัดเจรจาอีกครั้งที่บ้านของคุณติ๊ก พ่อผู้ตายเรียกเงินเยียวยา 9 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินเยียวยากรณีการเสียชีวิตของน้องเมจิ คนเดียว



29 ตุลาคม 2567 คุณติ๊ก ภรรยา และเธอ ไปเจรจากับครอบครัวผู้ตายที่ สน.คันนายาว ประกันภัยยอมจ่ายให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 5 แสนบาท ถ้าศาลพิพากษาว่าคุณติ๊กผิด จะจ่ายเพิ่มอีก 5 แสนบาท ทำให้ครอบครัวผู้ตายเข้าใจว่า คุณติ๊กจะจ่ายเงินเยียวยาเพียง 3 ล้านบาท และมีการพูดจากระทบกระทั่งมาว่า "หากขับรถชนลูกสาวของติ๊กบ้าง แล้ววางเงินให้ 3 ล้านบาทได้หรือไม่"



และในระหว่างที่การเจรจายังไม่ลงตัว คุณพ่อน้องจูเนียร์ติดต่อให้จ่ายค่ารักษาพยาบาลน้องอีก 4 แสน 2 หมื่นบาท เมื่อรวมกับเงินประกันจะอยู่ที่ 9 แสน 2 หมื่นบาท



12 พฤศจิกายน 2567 เธอนัดพบครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่ สน.คันนายาว เพื่อนำโฉนดที่ดินในจังหวัดนครราชสีมา 1 แปลงมามอบให้ พร้อมกับชี้แจงว่า ที่ดินนี้น่าจะมีราคาอยู่ที่ 4-5 ล้านบาท จะนำมาขายเพื่อมอบเงินเยียวยาครอบครัวผู้ตาย แต่หากขายไม่ได้ก็จะนำมาโอนให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตโดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดฝั่งพี่ติ๊กจะเป็นผู้ออก แต่ก็ยังตกลงกันไม่ได้



จนวันที่ 13 มกราคม 2568 เป็นการเจรจากันครั้งสุดท้ายในชั้นของสถานีตำรวจ โดยมีผู้กำกับมานั่งร่วมเจรจาด้วย ครอบครัวผู้เสียชีวิตเสนอตัวเลขค่าเยียวยาของน้องจูเนียร์ 18 ล้านบาท และของน้องเมจิ 6 ล้านบาท รวมเป็น 24 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมองว่ายังไม่สามารถที่จะให้ได้ เนื่องจากยอดเงินสูงหาให้ไม่ทัน และตอนนี้ทางครอบครัวของพี่ติ๊กสามารถเยียวยาทั้ง 2 ชีวิตได้ในวงเงิน 4-5 ล้านบาท แต่อนาคตตอบไม่ได้ว่าจะเยียวยาได้สูงสุดเท่าไร



ขณะที่ทนาย กันตเมธส์ จโนภาส บอกว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคุณติ๊ก ไม่เคยปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้กระทำความผิด แต่เหตุการณ์ในคดีนี้ ความผิดจะเกิดจากฝ่ายคุณติ๊กฝ่ายเดียวหรือไม่ คงต้องรอผลจากพนักงานสอบสวนก่อน และที่ไม่นำกล้องหน้ารถมาเปิดเผย เพราะเป็นหลักฐานในสำนวนคดี ซึ่งทางทนายได้ทำหนังสือไปที่พนักงานสอบสวน เพื่อให้สรุปสำนวนคดีส่งอัยการเป็นไปตามข้อกฎหมาย หากสรุปสำนวนคดีไม่เป็นธรรมก็จะร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการเพื่อรักษาสิทธิ์ ส่วนการเจรจาเรื่องเยียวยา ทางคุณติ๊กพร้อมเจรจาเสมอ



ช่วงท้ายคุณติ๊ก กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า เดือนกุมภาพันธ์จะปล่อยเพลงออกมาอีกครั้ง เพื่อหาเงินมาเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต เพราะรายได้หลักมาจากงานคอนเสิร์ต ซึ่งตอนนี้ถูกยกเลิกไปเยอะ ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/XqnU9BGEzis

คุณอาจสนใจ

Related News