อาชญากรรม

เจ้าของคลินิกดังเมาแล้วขับดอดพบตำรวจ ขอโทษญาติไรเดอร์ผู้เสียชีวิต เยียวยาเบื้องต้น 70,000 บาท

โดย kanyapak_w

5 ธ.ค. 2567

271 views

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ผู้บริหารคลินิกที่เป็นผู้ก่อเหตุเมาแล้วขับชน น.ส.ฉวี อายุ 44 ปี ตกสะพานไทย-ญี่ปุ่น ถนนพระราม 4 เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ได้เดินทางมาพบกับตำรวจสนปทุมวันแล้ว โดยเข้าทางประตูหลังเพื่อหลีกเลี่ยงสื่อมวลชน โดยได้ขึ้นมาที่ห้องประชุมของสนปทุมวัน



ขณะเดียวกัน ครอบครัวของผู้เสียชีวิตหลังจากพบพนักงานสอบสวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ขึ้นมาที่ห้องประชุมของสถานีตำรวจ โดยมีรายงานว่า เป็นการพูดคุยเจรจาเบื้องต้นระหว่างครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ แล้วหลังจากนั้นครอบครัวผู้เสียชีวิตก็ได้เดินทางกลับออกไปประมาณ 14:00 น. โดยเปิดเผยกับสื่อมวลชนสั้น ๆ เพียงแค่ว่า หลังจากนี้จะเดินทางไปรับศพที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่จังหวัดร้อยเอ็ด



ส่วนในเรื่องทางคดีนั้น เบื้องต้นได้มีการพูดคุยกับผู้ก่อเหตุแล้ว แต่ในรายละเอียดจะพูดคุยกันหลังเสร็จสิ้นพิธีศพ



ต่อมาเวลา 14:30 นายจุลเมธ สอนสุทธิ์ ทนายความของผู้ก่อเหตุ ได้ลงมาให้สัมภาษณ์เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า วันนี้ผู้ก่อเหตุได้เข้ามาพบผู้เสียหาย เพื่อขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยผู้ก่อเหตุไหว้ขอโทษและแสดงความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งทางผู้ก่อเหตุได้มอบเงินเยียวยาเบื้องต้นจำนวน 70,000 บาท แบ่งเป็นเงินค่าเดินทางครอบครัว 50,000 บาท และเงินค่าส่งศพกับ จ.ร้อยเอ็ด 20,000 บาท



นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุยังได้รับปากว่า จะดูแลค่าใช้จ่ายในงานศพทั้งหมด รวมทั้งจะเดินทางไปร่วมงานศพที่ จ.ร้อยเอ็ด ด้วย อย่างไรก็ตาม จำนวนเงินการเยียวยาอย่างละเอียดนั้น ไดเให้ทางครอบครัวผู้เสียหายไปพิจารณาก่อน แล้วค่อยดำเนินการพูดคุยเสนอการเยียวยากันต่อไป คาดว่าน่าจะพูดคุยกันหลังเสร็จสิ้นงานศพ



ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีของการดื่มสุราอันเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว ทนายความระบุว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะมีงานเลี้ยงเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาและกำลังขับรถกลับบ้านย่านปทุมวัน ปรากฏว่าเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ เนื่องจากเป็นช่วงทางขึ้นและไม่เห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตขี่อยู่ข้างบนสะพาน เลยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว



ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามว่า ถ้ารู้ตัวว่าดื่มสุราแล้วเมา ทำไมถึงยังฝืนขับรถต่อไปหรือไปใช้บริการรถสาธารณะแทน ทนายความระบุว่า ตนไม่ทราบในประเด็น แต่ตัวผู้ก่อเหตุอาจจะคิดว่า ตัวเองสามารถขับรถได้ไหว ส่วนปริมาณการดื่มและความเร็วขณะขับนั้น ทนายความระบุว่า ไม่ทราบในเรื่องดังกล่าว



อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุยังคงอยู่ในที่เกิดเหตุตลอด ไม่ได้หลบหนีไปไหน ก่อนจะถูกนำตัวมาที่สถานีตำรวจและวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แล้วยื่นประกันตนด้วยหลักทรัพย์ 150,000 บาท จากนั้นจึงได้นัดหมายกับทางตำรวจว่าจะมาพบครอบครัวผู้เสียหายในช่วงกลางวัน



ส่วนในเรื่องทางคดี ผู้ก่อเหตุถูกดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับและขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยผู้ก่อเหตุยอมรับผิดและพร้อมรับผิดชอบทุกอย่างแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต หลังจากนี้จะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการการดำเนินคดีทางอาญา ซึ่งวันนี้ตัวผู้ก่อเหตุก็ยังอยู่ในระหว่างการสอบปากคำ ส่วนจะนำตัวส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการเมื่อไหร่ คาดว่าน่าจะภายในสัปดาห์หน้าหรือโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มีปัญหา โดยคดีดังกล่าวจะอยู่ภายใต้เขตอำนาจของศาลอาญากรุงเทพใต้



สำหรับตัวผู้ก่อเหตุนั้น มีอาการเครียดอย่างมาก ร้องไห้ตลอดเวลาและจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้นอน ผู้ก่อเหตุรู้สึกเสียใจและสำนึกผิด ทันทีที่พบครอบครัวของผู้เสียชีวิตก็ได้ก้มลงไหว้ขอโทษทันที ส่วนฝั่งครอบครัวผู้เสียชีวิต ตนก็ไม่ทราบว่าให้อภัยหรือไม่ แต่ก็เข้าใจดีว่าต่างคนต่างก็เสียใจและเชื่อว่ายังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ไม่กล้าไปถามครอบครัวผู้เสียชีวิตว่าจะให้อภัยหรือไม่



ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นทำให้สังคมตั้งคำถามว่า อาจจะมีความคล้ายคลึงกับกรณีเหตุการณ์เมาแล้วขับก่อนหน้านี้ที่ผู้ก่อเหตุมักจะเป็นคนมีเงิน ทนายความมองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ ตัวผู้ก่อเหตุก็เสียใจแล้วไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียนแก่ตัวผู้ก่อเหตุอย่างมาก ผู้ก่อเหตุยังรับปากว่าหลังจากนี้จะไม่ดื่มสุราตลอดชีวิต



คุณอาจสนใจ