อาชญากรรม

ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดประตูข้ามแดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลบหนีเข้าไทย

โดย nutda_t

29 เม.ย. 2567

1.7K views

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการ Lockdown the Cat ปิดประตูข้ามแดน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก่อนหลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติเข้าไทย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ประดิษฐ์ สุวรรณดี , เจ้าพนักงานตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.สระแก้ว ร่วมตรวจค้น และจับกุมบุคคลตามหมายจับ ซึ่งเป็นขบวนการลักลอบขนทีมงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ข้ามพรมแดนธรรมชาติ บริเวณ อ.อรัญประเทศ ประกอบด้วย

1. Mr.Zheng อายุ 31 ปี สัญชาติจีน ในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” และตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของตำรวจสากล  (Red Notice) ในความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ความเสียหายกว่า 40 ล้านหยวน

2. ร.ต.ท.อังคะ  (นอกราชการ) อายุ 70 ปี  

3. นายดาเล็ก อายุ 35 ปี สัญชาติกัมพูชา

4. นายซุ่น อายุ 31 ปี สัญชาติกัมพูชา

ผู้ต้องหาในความผิดฐาน “ร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย”  

สืบเนื่องจากศูนย์ AOC: Anti Online Scam Operation Center กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (กก.3 บก.ปอท.) ได้ทำการสืบสวนเกี่ยวกับการเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อนำไปใช้ในการกระทำความผิดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยพบว่ามีนายหน้าเข้าไปติดต่อให้กับประชาชนในเขตพื้นที่ อ.เขาฉกรรจ์, อ.วัฒนานคร, อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว และในพื้นที่ใกล้เคียง ให้เปิดบัญชีธนาคารแบบออนไลน์และเดินทางข้ามชายแดนไทยกัมพูชา เพื่อไปทำหน้าที่สแกนหน้ารับเงิน เมื่อมีเงินจากผู้เสียหายโอนเข้ามาที่บัญชีม้าและทำรายการโอนเงินให้กับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

จากการสืบสวนพบว่า บุคคลที่ถูกว่าจ้างให้ไปเปิดบัญชีม้าเหล่านี้ จะเดินทางไปออกไปจากประเทศไทย ด้วยเส้นทางธรรมชาติบริเวณตลาดผลไม้ (ภายในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ) ต.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และยังพบว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีการเดินทางออกไป เฉลี่ยวันละ 60-70 คน โดยมีนายทุนชาวกัมพูชาชื่อ “ดาใหญ่” เป็นผู้เก็บเงิน ครั้งละ 3,000 บาทต่อคนต่อครั้ง  นอกจากนี้ตรวจสอบพบอีกว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางเดียวกันกับที่ชาวจีน ซึ่งเป็นเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้ในการหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยอีกด้วย


จากข้อมูลทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. สืบสวนมาโดยตลอด จึงได้เฝ้าติดตามกระทั่งพบว่า เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2567 มีกลุ่มชาวจีน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้เดินทางลักลอบเข้ามาในอาณาจักรไทยผ่านเส้นทางดังกล่าวจริง จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสกัดจับบนถนนทางหลวงหมายเลข 33 พบ Mr.Zheng ขณะกำลังนั่งรถรับจ้างจะเดินทางเข้าไปในเขตกรุงเทพฯ เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศลาว และจากการตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนพบว่า เป็นบุคคลที่มีการออกหมายจับของตำรวจสากล (Red Notice Interpol) และรัฐบาลจีนต้องการนำตัวกลับไปดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งในส่วนนั้นมีผู้เสียหายจำนวน 121 ราย คิดเป็นความเสียหายกว่า 40 ล้านหยวน  โดย Mr.Zheng ผู้ต้องหารายนี้ มีหน้าที่ในการวางแผนทางการเงินของเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การจัดการองค์กรและการฟอกเงิน


จากการสืบสวนขยายผลพบอีกว่า การที่จะผ่านเส้นทางธรรมชาติเข้ามาในราชอาณาจักรไทยนั้น จะต้องมีการชำระเงินให้กับกลุ่มนายทุนชาวกัมพูชาครั้งละ 3,000 บาทต่อคน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสืบสวนเส้นทางการเงินจนกระทั่งพบว่า มีผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นชาวกัมพูชา จำนวน 3 คน ได้แก่ นายดาใหญ่ (กัมพูชา) , นายดาเล็ก (กัมพูชา) , นายซุ่ย (กัมพูชา) และชาวไทยอีก 1 คน คือ ร.ต.ท.อังคะ (นอกราชการ) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้  3 คน ก่อนนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ดำเนินการตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามตัวนายดาใหญ่ (ชาวกัมพูชา) ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี เพื่อมาดำเนินคดีต่อไป


สอบถามคำให้การเบื้องต้น Mr.Zheng ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา  ส่วนนายดาเล็ก  , นายซุ่ย และ ร.ต.ท.อังคะ รับสารภาพว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง แต่ปฏิเสธไม่ให้การใดๆ

แท็กที่เกี่ยวข้อง  แก๊งคอลเซ็นเตอร์

คุณอาจสนใจ

Related News