อาชญากรรม

รวบหนุ่มอดีตนักศึกษาสวมโปรไฟล์หนุ่มหล่อ หลอกเหยื่อเป็นหมอชายวัย 60 เปย์หนัก สูญเงินกว่า 4.3 ล้าน

โดย kanyapak_w

2 พ.ย. 2566

982 views

รวบหนุ่มอดีตนักศึกษาจิตวิทยา ม.ชื่อดัง สวมโปรไฟล์หนุ่มหล่อ หลอกเหยื่อเป็นหมอชายวัย 60 เปย์หนัก ตั้งแต่หลักร้อยยันหลักแสน โอนรัวๆ 248 ครั้ง สูญเงินกว่า 4.3 ล้านบาท ตามรวบตัวได้ที่อยุธยา พบประวัติก่อเหลตุลักษณะเดียวกันกว่า 10 คดีทั่วประเทศ





เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 2 ต.ค.66 พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.ไกรศรี จุฬพรรค์ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 (PCT ภาค 5) ได้ร่วมกันจับกุม นายวรพจน์ (สงวนชื่อสกุล) อายุ 40 ปี ชาวต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1081/2566 ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ในฐานความผิด “ฉ้อโกงโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมได้ที่บ้านในจังหวัดอยุธยา




กาารจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจาก ผู้เสียหายซึ่งเป็นชาย ซึ่งทำงานเป็นหมอ อายุ 60 ปี ได้รู้จักกับชายหนุ่มใช้โปรไฟล์หน้าตาดีผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งหนุ่มดังกล่าวก็นำทำรูปปลอมขึ้นหล่อ ขั้นเทพ จากนั้นได้พูดคุยกันถูกคอ จนกระทั่งถูกชายดังกล่าวหลอกล่อใช้กลอุบายหว่านล้อม สร้างสถานการณ์ให้เกิดความเห็นใจต่างๆ นานา เช่น กำลังเรียนอยู่ ไม่มีเงินค่าหอ พ่อแม่เสียชีวิตต้องทำงานพิเศษหาเงินทำศพ และค่าเทอม อื่นๆ จนทำให้หลงเชื่อ โดยได้โอนเงินไปรวมจำนวน 248 ครั้ง สูญเงินไปจำนวน 4,341,794 บาท พอโอนไปเสร็จภายในระยะเวลาแค่ เดือนเศษ ก็ถูกหนุ่มคนร้ายบล็อกช่องทางการติดต่อ



ภายหลังเชื่อว่าถูกหลอกลวงจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ จนกระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT ภาค 5 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุรายนี้คือ นายวรพจน์ (สงวนชื่อสกุล) อายุ 40 ปี อดีตเป็นนักศึกษาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศ พบมีประวัติเกี่ยวกับการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวกว่า 10 คดี ทั่วประเทศ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนศาลอนุมัติออกหมายจับ และจับกุมได้ในเวลาต่อมา เจ้าตัวรับสารภาพติดการพนันออนไลน์ จึงต้องหาหลอกเหยือเรื่อยๆได้เงินมากว่า 10 ล้านบาท แต่ก็เอาไปลงพนันออนไลน์หมด




คุณอาจสนใจ

Related News