อาชญากรรม

คาดฝีมือต่างด้าว ใช้มีดแทงอกอดีตทูตฯ 3 แผล ดับคาบ้าน ตร.เร่งตามตัว เชื่อยังหลบอยู่ไทย

โดย nattachat_c

9 ต.ค. 2566

141 views

วานนี้ (8 ต.ค. 66) เกิดเหตุฆาตกรรม ภายในหมู่บ้านเเห่งหนึ่ง ซ.วิภาวดี 20 เเขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ซึ่ง ร้อยเวร สน.สุทธิสาร รับเเจ้งหตุ ตั้งเเต่ช่วง 09.00 น. ว่า พบศพชายไทย สวมกางเกงขาสั้น สีน้ำเงิน // เสื้อยืดคอกลม สีดำ อยู่ในสภาพเริ่มเน่า ภายในห้องน้ำชั้น 2 ของบ้าน ที่เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น เเล้วใช้กระดาษลังปิดบังอำพรางเอาไว้


คาดว่าเสียชีวิตมาเเล้ว 4 - 5 วัน ในเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ซึ่งชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเป็นผู้เเจ้งเหตุ เนื่องจากได้กลิ่นเหม็นผิดปกติ จึงเข้าไปกดกริ่งเรียกที่บริเวณหน้าบ้าน เเต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับออกมา จากนั้น จึงตัดสินใจเรียกช่างทำกุญแจมาเปิดประตูบ้าน จึงพบศพ ต่อมา มูลนิธิร่วมกตัญญูจึงส่ง จนท.ตรวจสอบเหตุดังกล่าว


พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ลาวัณย์วิสุทธิ์ ผู้กำกับการ สน.สุทธิสาร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จึงทราบว่าผู้เสียชีวิต ชื่อ นายวิชิต ชิตวิมาน อายุ 63 ปี เป็นอดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน เดนมาร์ค และได้ภายในบ้านกันพื้นที่เอาไว้ พร้อมไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป


จากนั้น ครอบครัวเดินทางมาที่เกิดเหตุ ทีมเเพทย์ชันสูตรกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ หาสาเหตุการเสียชีวิต เบื้องต้น คาดว่า 'ผู้ต้องสงสัย' จะเป็นคนใกล้ตัว


นักข่าวคุยกับชาวบ้านรายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในหมู่บ้าน เเละอยู่ข้างบ้านของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า เคยเห็นผู้เสียชีวิตบอกว่า เขาอยู่กับลูกเลี้ยง


จากนั้น เวลา 12.52 น. ตำรวจ สน.สุทธิสาร นำตัวเยาวชนชายอายุ 17 ปี ซึ่งมีรายงานว่า อยู่กับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย เป็นลูกชายของช่างที่เป็นผู้รับเหมาต่อเติมบ้าน  เเละยังเป็นลูกเลี้ยงของผู้เสียชีวิต นำตัวมาสอบปากคำที่ สน.สุทธิสาร ในฐานะพยาน


ซึ่งขณะที่ ตำรวจนำตัวเยาวชนอายุ 17 ปี เข้าห้องสืบสวน พบว่า มีเยาวชนอายุ 15 ปี และ เด็กชายอายุ 14 ปี พร้อมผู้ปกครองเดินทางมาด้วย และได้เชิญตัวผู้ปกครองออกมาแยกสอบ ที่ห้องพนักงานสอบสวน

-------------

ด้าน พ่อของเยาวชนวัย 17 และ 15 ปี เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ สน.สุทธิสาร เผยว่า

รู้จักกับผู้เสียชีวิต เมื่อ 4 เดือนที่เเล้ว ตอนเข้าไปรีโนเวทบ้าน ไม่เคยทราบว่าเขาเป็นใคร มีตำเเหน่งใหญ่โต เเต่ผู้ตายให้ทุกคนเรียกว่า 'พ่อต้น' เพราะผู้ตายชื่อต้น ผู้ตายเป็นคนใจดี มักจะซื้ออาหารและเครื่องดื่ม มาให้เสมอ พร้อมปฏิเสธว่า ลูกชายของตน ไม่ใช่ลูกเลี้ยงของผู้ตาย


ก่อนหน้านี้ ลูกชายก็มาช่วยเเพ็กของตอนจะย้ายบ้าน ไม่เคยพาลูกไปเลี้ยงที่บ้าน เเต่เขาเอ็นดูเด็กหมดทุกคน ทั้งลูกของตนเเละลูกของเพื่อน เเละยังหาสถานที่เรียนให้ลูกชาย ที่โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย เเต่เขาไม่เคยควักเงิน หรือจ่ายเงินสดให้กับตน จะจ่ายผ่านตัวเเทน


ยืนยันว่า อยู่กับลูกตลอดเพราะเป็นคนต่างจังหวัด เพิ่งเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ เเละช่วงปลายเดือนกันยายน ที่เกิดเหตุ ลูกชายอยู่ด้วยตลอด ไม่ได้กลับเข้าไปบ้านของผู้ตายอีกเลย


พอทราบข่าว รู้สึกตกใจที่เอกอัครราชทูตเสียชีวิต เเต่ไม่ได้ตกใจที่ลูกชายทั้ง 2 ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เเละเรียกมาสอบ เพราะมั่นใจว่า ลูกชายไม่เกี่ยวข้องอยู่เเล้ว ผู้ตายถือเป็นผู้มีอุปการะคุณของครอบครัว ตั้งใจว่าจะพาลูกชายทั้ง 2 ไปกราบศพของเอกอัครราชทูต ที่เสียชีวิตด้วย


ต่อมา เวลา 17.30 น. หลังสอบปากคำนาน 4 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวเยาวชนทั้ง 2 ราย กลับบ้านพร้อมผู้ปกครอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พิมพ์ลายนิ้วมือและเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ไว้เปรียบเทียบกับกับพยานหลักฐาน ที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุว่ามีความเชื่อมโยงกับการการเสียชีวิตของอดีตเอกอัครราชทูต หรือไม่


หากพบมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือสงสัยในประเด็นใด ก็จะเรียกตัวมาสอบสวนภายหลัง

----------

วานนี้ (8 ต.ค. 66) เวลา 18.40 น. พล.ต.ต. อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยว่า


ทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุฆาตกรรมอดีตเอกอัครราชทูตแล้ว ยืนยันว่า เป็นคนต่างด้าว (ไม่ระบุสัญชาติ) แต่ยังไม่ขอระบุว่า ผู้ก่อเหตุนั้น เข้า - ออก หมู่บ้าน ได้อย่างไร


ตอนนี้คาดว่า ยังคงหลบหนีอยู่ภายในประเทศไทย ยังไม่ได้ออกนอกประเทศ ตำรวจแกะรอยตามไปที่พักของคนร้าย แต่ไม่เจอตัวคนร้าย


ขณะนี้ ทางตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับ และติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด


ทั้งนี้ มีรายงานว่า จุดที่คนร้ายก่อเหตุใช้มีดแทง อยู่บริเวณชั้น 1 ทางขึ้นบันไดไปชั้น 2 ภายในบ้าน


โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นกลางดึก วันที่ 27 ก.ย. ต่อเนื่องวันที่ 28 ก.ย. ซึ่งก่อนที่คนร้ายจะใช้มีดแทงหน้าอกผู้ตาย 3 ครั้ง นั้น ได้ต่อยใบหน้าของผู้ตาย 2 ครั้ง


หลังแทงเสร็จ ผู้ตายวิ่งหนีขึ้นไปชั้น 2 ส่วนคนร้ายนำมีดที่เปื้อนเลือดไปล้างเสียบเก็บไว้ที่เดิม รื้อค้นทรัพย์สิน เดินออกมาขึ้นรถแท็กซี่หน้าหมู่บ้านเพ หลบหนี


ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้นำพยานหลักฐานต่าง ๆ ในที่เกิดเหตุ 13 รายการ มาไว้ สน.สุทธิสาร อาทิ

  • กล่องกระดาษลูกฟูก ที่คนร้ายใช้ปกคลุมศพ ระบุอักษรที่กล่อง 'CUERO'
  • มีดทำครัวที่ใช้ในการก่อเหตุ


พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ภายในบ้านที่เกิดเหตุ ทั้งบริเวณ...

  • ทางขึ้นบันได รวมถึงบริเวณชั้นล่างและชั้น 2 ของบ้านไป
  • ห้องน้ำจุดพบศพ
  • เพื่อมาตรวจเปรียบเทียบ และติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

----------

วานนี้ (8 ต.ค. 66) เวลา 12.00 น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินทางเข้ามาประชุมกับคณะพนักงานสอบสวนที่ สน.สุทธิสาร กรณีการเสียชีวิตของอดีตเอกอัครราชฑูต ภายในบ้านหรู ซอยวิภาวดี 20


พล.ต.ต.นพศิลป์ เผยว่า เบื้องต้น ผลตรวจร่างกายผู้เสียชีวิต พบถูกแทงบริเวณหน้าอก 3 แผล


ขณะเดียวกัน ภายในบ้าน มีรอยคราบเลือดตั้งแต่ประตูหน้าบ้าน ไปจนถึงห้องน้ำชั้น 2 จุดพบศพ คาดว่า คนร้ายน่าจะลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้เสียชีวิตทันทีที่เจอกันครั้งแรก ที่ชั้นล่างของบ้าน แล้วดิ้นรนวิ่งหนีขึ้นไปชั้น 2  เพราะพบคราบเลือดที่บันได


จากการสอบถามกับญาติผู้ตาย ทราบว่า ญาติไม่สามารถติดต่อผู้ตายได้ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2566 หรือประมาณ 11 วันที่แล้ว ปกติแล้ว ผู้ตายพักอาศัยอยู่คนเดียว ซึ่งเดิมผู้ตายพักอาศัยอยู่ที่คอนโด เพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2566 หลังปรับปรุงซอมแซ่มบ้านเสร็จ


จนวานนี้ (8 ต.ค. 66) ช่างที่มาปรับปรุงบ้าน ซึ่งมีกุญแจบ้านไขกุญแจเข้าไปภายในบ้าน พบว่า เจ้าของบ้านกลายเป็นศพอยู่ในห้องน้ำชั้น 2 เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นอดีตข้าราชการระดับสูง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงกำชับให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้รวดเร็วรัดกุมที่สุด


เบื้องต้น จากการรวบรวมหลักฐาน และเรียกบุคคลมาสอบปากคำ ผู้ก่อเหตุไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับครอบครัวผู้ตาย หรือครอบครัวของผู้ใกล้ชิด ซึ่งเป็นช่างที่เข้ามาปรับปรุงบ้านให้ผู้ตาย แต่เนื่องจากครอบครัวช่างมีเยาวชน ดังนั้น จึงต้องรอการสอบปากคำพร้อมสหวิชาชีพ แต่ยืนยันว่า ตำหนิรูปพรรณคนร้ายที่ตำรวจได้มา ไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัวช่างที่มาทำบ้าน


จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า มีการรื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้านบริเวณชั้น 1 และ ชั้น 2 จึงเชื่อได้ว่าคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ แต่เบื้องต้น ไม่มีร่องรอยการงัดแงะภายในบ้าน แต่จุดเกิดเหตุคล้ายว่า เกิดบริเวณประตูทางเข้าบ้านเลย เพราะมีร่อยรอยกระเซ็นของเลือด


ทางการสอบสวนเชื่อว่า มีการต่อสู้ครั้งแรกที่เจอหน้ากันเลย ส่วนอาวุธที่คนร้ายใช้ทำร้ายผู้ตายเป็นมีดทำครัว จำนวน 2 เล่ม เพราะเจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐาน พบคราบเลือดที่มีด 2 เล่ม จากมีดทั้งหมด 5 เล่ม ที่เสียบเก็บไว้ภายในที่เก็บมีดของบ้าน โดยมีดที่ใช้ก่อเหตุ เมื่อคนร้ายแทงอดีตทูตฯ แล้ว ก็นำมีดไปล้าง แล้วเสียบเก็บไว้ที่เดิม


ส่วนกรณีที่ ชาวบ้านบอกว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่กับลูกเลี้ยงนั้น ลูกเลี้ยงในที่นี้ ตำรวจก็หมายถึงครอบครัวช่างที่สนิทกัน ขณะนี้ ได้เรียกตัวมาสอบสวนแล้ว แต่ในครอบครัวมีเยาวชน จึงต้องสอบร่วมกับสหวิชาชีพ แต่ทราบมาว่า ลูกเลี้ยงไม่ได้อาศัยกับผู้ตายนานกกว่า 2 เดือนแล้ว


ทั้งนี้ ตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะเข้าไปภายในบ้าน โดยผู้ตายเป็นคนเปิดประตูบ้านให้ เพราะไม่พบร่อยรอยการงัดแงะ แต่ในพื้นที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดอยู่ด้วย ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ แต่ ผบ.ตร.กำชับแล้ว ให้ทำคดีนี้ให้เร็วที่สุด

----------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ycB9WbltnkI






คุณอาจสนใจ

Related News