อาชญากรรม

จับฆาตกรโหด บุกร้านชำชิงรถ ฆ่าพ่อเฒ่าวัย 74 ต่อหน้าเมียป่วยติดเตียง พบเพิ่งพ้นคุกคดียาเสพติด

โดย petchpawee_k

30 ส.ค. 2566

48 views

ปูพรมล่าฆาตกรโหดบุกร้านชำฆ่าพ่อเฒ่าวัย 74 ต่อหน้าเมียป่วยติดเตียง ชิงรถกระบะมอเตอร์ไซค์ ล่าสุดตามรวบฆาตกรโหดได้แล้ว


วานนี้ (วันที่ 29 ส.ค.) ตำรวจ สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งมีเหตุชิงทรัพย์ และฆ่าเจ้าของบ้านเสียชีวิต ในพื้นที่หมู่ 5 ต.อู่ทอง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.อู่ทอง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี สมาคมกู้ภัยจักรนารายณ์


ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เปิดเป็นร้านขายของชำ ภายในบ้านบริเวณชั้นวางของมีร่องรอยถูกรื้อค้นของหล่นกระจายเกลื่อนพื้น ที่หน้าทางเข้าห้อง พบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อนายสมชัย กล้าหาญ อายุ 74 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่หัว มีรอยแผลที่หน้าอกและท้องรวม 8 แผล เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12 ชม.


ใกล้ร่างผู้เสียชีวิตพบร่างหญิงสูงวัยซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงและเป็นภรรยาผู้เสียชีวิตขยับร่างกายไม่ได้นอนอยู่บนที่นอนไฟฟ้า อยู่ข้างศพสามีที่เสียชีวิตจมกองเลือดเป็นที่น่าเวทนาสลดใจเป็นอย่างยิ่ง  เจ้าหน้าที่ให้หน่วยกู้ภัยจักรนารายณ์ จึงรีบให้การช่วยเหลือนำออกมาด้านนอกเพื่อให้ลูกสาวนำส่งโรงพยาบาล ให้แพทย์ตรวจร่างกาย


จากการตรวจสอบภายในห้องนอนพบท่อนไม้เปื้อนเลือด ขนาดยาวประมาณ 60 ซม. ตกอยู่ ส่วนที่หลังบ้าน พบบานเกร็ดหน้าต่างถูกงัดออก 2 แผ่น และประตูถูกเปิดออก กล้องวงจรปิดด้านหลังบ้าน 3 ตัวถูกคนร้ายชักปลั๊กออกพร้อมใช้ไม้ดันกล้องให้แหงนขึ้นด้านบน พร้อมกับเอาเราเตอร์อินเทอร์เน็ตไปด้วย


ตรวจสอบทรัพย์สินที่หายไปเบื้องต้นมีรถโตโยต้า วีโก้ แคป ทะเบียน 7163 สุพรรณบุรี , รถจยย. เวฟ 110 สี ขาว-ดำ และ รถจยย. ยามาฮ่า อีก 1 คัน รวมถึงพระเครื่อง กระเป๋าเงิน ซึ่งเพิ่งได้มา 10,000 บาท จากลูกสาว รวมถึงของในร้านชำ ก็โดนขโมยไปจนหมดตู้แช่


สอบถามนางพัทร์ธีรา ลูกสาว ผู้มาพบศพคนแรก กล่าวว่า เมื่อเวลา 07.30 น. ตนมาหาพ่อ ก็พบว่าบ้านถูกรื้อค้น และพบศพพ่อนอนตาย จึงรีบแจ้งตำรวจ ซึ่งตนอยู่คนละบ้านกับพ่อ พ่อจะอยู่กับแม่เลี้ยงที่ป่วยติดเตียงแค่ 2 คน ตนเพิ่งโทรคุยกับพ่อครั้งสุดท้าย ตอน 3 ทุ่มกว่า วันที่ 27 ส.ค.และพ่อเพิ่งไปเอาเงิน 10,000 บาทที่ตน ซึ่งตอนนี้ก็หายไปด้วย


น.ส.สุพัก ใ อายุ 45 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า บ้านหลังเกิดเหตุขโมยเพิ่งขึ้นบ้านแกไปเมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา เข้ามาทางหลังบ้านและกระโดดลงมาตอนเช้า ซึ่งก็กลัวในความไม่ปลอดภัยของคนในหมู่บ้านจึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดเพราะถามคนตายตลอดว่าจับได้หรือยัง แกก็บอกว่าตำรวจตามอยู่จนมาวันนี้พอเหตุเกิดซึ่งเราอยู่ข้างบ้านเราก็จะรู้สึกไม่ปลอดภัย อยากฝากตำรวจติดตามให้ด้วย


รอบแรกที่โจรเข้าไปเอากุญแจบ้านพระเครื่องแล้วก็ของเก่าที่แกเก็บไว้แล้วก็พวกของชำที่แกขายอยู่เอาไปประมาณสามถุงใหญ่ ครั้งแรกเห็นว่ามาคนเดียวปีนข้ามรั้วหลังบ้านมาแล้วขนของกระโดดข้ามรั้วออกไปแต่ไม่รู้ว่าเป็นใครขนใส่กระสอบไป 3 ใบ ซึ่งที่บ้านของตนก็มีรถจอดอยู่หน้าบ้านหลายคันแต่จะมีเด็กวัยรุ่น จะเข้าออกตลอด เราก็ห่วง ซึ่งลุงที่เสียชีวิต โจรขึ้นรอบนี้เป็นรอบที่ 3 ที่โจรเข้ามา ซึ่งรอบแรกไม่ได้อะไรไปเลยพอรอบ 2 ก็คือรอบที่เราเห็นเขาปีนกำแพงออกมาแล้ววันนี้ที่เสียชีวิตคือรอบที่ 3 คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้เพราะแกต้องคอยดูแลเมียที่ป่วยติดเตียงไม่คิดว่าแกจะอายุสั้นแบบนี้


ล่าสุด พ.ต.อ.ปราโมทย์ โพธิ์พันธุ์ ผกก.สภ.อู่ทอง นำกำลังตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายเกรียงไกร วงค์บุตร หรือ ก๊อง อายุ 35 ปี ชาวสมุทรสาคร หลังก่อเหตุได้ขับรถของผู้เสียชีวิตหลบหนี กล้องวงจรปิดตามเส้นทางการหลบหนี พบว่าคนร้ายมุ่งหน้าปทางจังหวัดนครปฐม จึงวางแผนติดต่อล่อซื้อรถที่คนร้ายชิงไป โดยนัดส่งมอบรถกันที่บ้านญาติผู้ต้องหา ริมถนนสาย 333 อู่ทอง - ด่านช้าง พื้นที่ตำบลหนองโอ่ง อ.อู่ทอง คนร้ายหลงกล ขับรถกลับมาส่งให้ในพื้นที่นัดหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้แสดงตัวจับกุม ตัวได้พร้อมมของกลางที่ชิงไปจากนั้นได้คุมตัวไปสอบสวนต่อที่ สภ.อู่ทอง



พ.ต.อ.ปราโมทย์ เผยว่า คนร้ายเพิ่งพ้นโทษมาได้ 4-5 เดือน ทางตำรวจสงสัยอยู่แล้วเพราะเขาอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีอาชีพ เขาจะเก็บขยะตามกองขยะขายแล้วก็นอนอยู่ที่เพิงแถวกองขยะ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ผู้ต้องหาเคยเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ที่ร้านชำหลังนี้มาแล้วหนึ่งครั้ง แต่มีเห็นคนมาก่อนเลยวิ่งหนีไปพร้อมของกลางหลายรายการ


พอมาเกิดเหตุครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้อวงจรปิดผู้ก่อเหตุคือคนเดียวกัน จึงทำการตรวจสอบเช็คว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน จนทราบแน่ชัดจึงวางแผนล่อซื้อรถที่ชิงไปและคนร้ายหลวมตัวย้อนกลับมาจึงถูกเจ้าหน้าที่จับกุมพร้อมของกลางในคดี ซึ่งได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจหลักฐานต่างไว้ เพราะตอนนี้ต้องการหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อมาประกอบสำนวนโดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าก่อเหตุคนเดียว โดยประวัติคนร้ายเพิ่งออกจากคุกมาได้ประมาณ 4-5 เดือน ในข้อหายาเสพติด


จากการสอบถามผู้ต้องหา เบื้องต้น ให้การว่าลงมือทำเพียงคนเดียวมีวิธีการเอามอไซ ขึ้นคนเดียวได้ ซึ่งก็ยังงงว่า ที่ทำได้จริงไหม ส่วนในเรื่องว่าเข้าบ้านไปตอนกี่โมง กระทำการยังไง ตอนนี้อยู่ในขั้นสอบสวนตอนนี้ได้ตัวมาพร้อมของกลางความผิดแรกก็มีอยู่แล้ว โดยผู้ต้องหาเข้าไปลักทรัพย์เพื่อหวังทรัพย์สินอย่างเดียว แต่ทางผู้เสียชีวิตไม่ยอมจึงเกิดการต่อสู้ ซึ่งอาวุธที่เขาเตรียมเข้าไปก็เป็นท่อนอ้อย โดยเขาใช้ท่อนอ้อยตี ไม่ได้มีอาวุธอย่างอื่น โดยใช้ต้นอ้อยตีจนหักและจากนั้นก็คว้าไม้มาตีซ้ำ


ทั้งนี้จากการชันสูตรของหมอ หลังเกิดเหตุผู้ตายยังไม่เสียชีวิตทันที เพราะเหตุเกิดตอนช่วงเวลาประมาณตี 2 ของวันที่ 28 ส.ค. โดยทางแพทย์บอกว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12 ถึง 18 ชั่วโมง ซึ่งหลังเกิดเหตุลุงเขาอยู่บ้านกับภรรยาที่ป่วยติดเตียง พอบ้านปิด และรถของลุงก็ไม่อยู่ด้วย คนที่เคยมาซื้อของ ก็คงคิดว่าออกไปทำธุระข้างนอกจึงไม่มีใครเข้าไปดูในบ้านว่าเกิดเหตุอะไร จนทางลูกของลุงติดต่อไปแล้วไม่รับโทรศัพท์ ติดต่อ ไม่ได้ 2 วันจึงได้เข้ามาดูก็พบว่าเสียชีวิต


โดยกล้องวงจรปิดในบ้านเห็นแค่ลูกตากับคิ้ว เพราะผู้ต้องหาสวมหมวกปิดบังมิด แต่จากการดูคิ้วแล้วเป็นคนเดียวกัน ซึ่งคนร้ายเคยมามั่วสุมอยู่ที่บ้านฝั่งตรงข้ามของบ้านที่เกิดเหตุและพอรู้เส้นทางในบ้าน ส่วนกล้องวงจรปิดในบ้านคนร้ายได้ใช้ไม้ดันขึ้นไปและมีการถอดปลั๊กออก ซึ่งดูแล้วคนร้ายเหมือนเป็นคนไม่คิดอะไรมาก เพราะหลังก่อเหตุพอโดนหลอกล่อให้กลับมาเอาทรัพย์สินที่ชิงไปมาขายเขาก็กลับมา ไม่มีการวางแผนเหมือนแค่ทำไปวันวันเพื่อหาเงิน เหมือนคนไม่มีความคิด ผู้ต้องหาเป็นคนต่างถิ่นมาจากกระทุ่มแบน เหมือนเป็นคนเร่ร่อนทั่วไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาชิงทรัพย์และทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนข้อหาอื่นต้องรอสอบสวนอีกครั้ง



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/luG7mqUjY30

คุณอาจสนใจ

Related News