อาชญากรรม

'บิ๊กโจ๊ก' ไม่โกรธ 'ชูวิทย์' รับสนิททนายดังจริงจากเรื่องงาน ปัดส่งลูกน้องบริการถือกระเป๋า

โดย petchpawee_k

5 เม.ย. 2566

30 views

จากกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำเงิน 6 ล้านบาทที่ได้มาจากนายพล ป. และนายศักดิ์ พระราม 3 เครือข่าย พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ “สารวัตรซัว” อดีตตำรวจโยธาธิการ มาให้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ยึดไว้เป็นของกลางเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน หลังทนายคนดังออกมาแฉจนถูกนายชูวิทย์แฉกลับ โพสต์มีตำรวจคอยถือกระเป๋าเวลาทนายดังเดินทาง และเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์


วานนี้ ( 4 เม.ย.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณี ที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แฉว่ามีทนายคนดังสนิทสนมส่วนตัวและโยงเครือข่ายพนันออนไลน์ ว่ายอมรับมีความสนิท เพราะทำงานแลกเปลี่ยนข้อมูลคดีทุจริตระบบไบโอเมตริกของ บช.สตม.และสนิทสนมนายชูวิทย์ ไม่เคยส่งลูกน้องไปอำนวยความสะดวกเวลาเดินทาง ทนายคนดังเป็นรุ่นน้องไม่จำเป็นต้องเอาคนไปบริการ เอาตำรวจไปถือกระเป๋า เป็นเรื่องไร้สาระ 


ส่วนที่นายชูวิทย์พูดว่าทนายคนดังเกี่ยวข้องเรื่องเว็บพนันไม่รู้เรื่อง การตรวจสอบเว็บพนัน รอง ผบ.ตร. ถูกแบ่งมอบงาน มี ผบ.ตร.เป็นผู้ควบคุม แต่ที่มาพูดเรื่องพาดพิงลูกน้อง ผกก.ต๋อง มีคนเดียว อยู่กับตนไม่ได้เกี่ยวข้อง และรู้จักทนายคนดัง แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องพนันออนไลน์ ไม่ได้โกรธนายชูวิทย์ซึ่งรู้จักกัน แม้การให้สัมภาษณ์จะถูกมองว่าอาจเข้าข่ายหมิ่นประมาท

-----------------------------------

ขณะที่นายชูวิทย์ วานนี้ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ปฏิบัติการ “ล้มชูวิทย์”  มีกลุ่มคนที่กระสันอยากจะล้มผมมากมาย  วงการที่ผมอยู่มันสีเทา ไม่มีสัจจะในหมู่โจร

เมื่อโจรอย่างผมกล้าเปิดปาก คนดีแต่เปลือกที่แทรกอยู่ในหมู่โจรเสียประโยชน์ จึงแง้มหน้ามาแทงหลัง ไม่กล้าปะทะตรงๆ ตามสันดานโจรกระจอก

ทนายโจรเด็กที่เพิ่งเริ่มมีแสงส่องสว่าง แสร้งทำดีมาได้ไม่กี่ปี ก็เผยตัวตนที่แท้จริงออกมาให้ได้เห็น  หากเป็นกระดานหมากรุกถือว่าเป็นแค่ “เบี้ย” ตัวหนึ่ง ไม่ได้มีไว้รุก แต่มีไว้ให้มหาโจรได้หลอกกิน  ในเมื่อเป็นแค่ “เบี้ย” แต่สำคัญตนผิด คิดมาชนกับ “ขุน” ผลจึงพังไม่เป็นท่า กู่ไม่กลับ เดินเกมพลาดไปจนสุดกระดาน  ที่คิดว่า “ขุดหลุม” กลับโดนฝังเสียเอง

แรกๆ เห็นการออกมาช่วยเหลือประชาชน ใส่เสื้อยืดตีตรา ดูเหมือนทำเพื่อคนในสังคมที่เดือดร้อน  จนกระทั่งวันหนึ่ง ตกผลึกก้าวข้ามจากคนดีมาบังเกิด แปรสภาพเป็น “จิ๊กโก๋” ปากซอยอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย  กัลยาณมิตรในหมู่โจรอดรนทนไม่ไหว บอกผมว่า  ทนายเป็นเพียงเด็กที่ยอมเป็น “ม้ารับใช้” ได้ผลตอบแทนแค่เศษเงินจากคนที่บงการอยู่เบื้องหลัง

บุคคลดังกล่าวเป็นนายตำรวจใหญ่ที่ผมเคยคุยตอนแฉจีนเทา ร่วมมือกับสื่อเฒ่าสีเทาจัด ที่เสียผลประโยชน์จากการต่อต้านกัญชาเสรีของผม ใช้ทนายเด็กเป็น “เบี้ย” ออกหน้าแทน  เริ่มจากการแฉถุงขนม 6 ล้าน ทั้งที่รู้เรื่องราวดีอยู่ว่าผมเอาไปบริจาคให้โรงพยาบาล 2 แห่ง เรียบร้อยแล้ว

เปิดเกมรุก แล้วดันตกม้าตาย กลับกลายเป็นเกมถอย  พอรู้ว่าชักเสียท่า โดนกระแสตีกลับเพราะตัวเองยังอ่อนหัด จู่ๆ เลี้ยวไปเล่นเรื่องที่ดินของผมแบบยอมพลีชีพ

สันดานเป็นได้แค่ “เด็กใช้งาน” ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมวันยันค่ำ เขียนบทเหมือนสื่อเฒ่าสีเทาที่เสียหน้า เพราะไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ที่มีคนกล้าชนถลกหนังหัว

วันนี้ทนายเด็กต้องถูกสังคมตรวจสอบที่มาของเงิน และความหรูหราที่ขาดมาตั้งแต่ยังเล็ก  แม้แต่เพื่อนทนายยังอดรนทนไม่ไหว ออกมาระบายความในใจว่า “เป็นห่วง”  ที่แท้แรงหิวโหยแค่แบรนด์เนม โชว์โซเชียลว่าขึ้นชั้น อยากทำผลงานโชว์ผู้ใหญ่

หวังเพียงจะได้โลดแล่นในยุทธจักรสีเทา ร่วมมือกับหุ้นส่วนเจ้าหน้าที่ DSI ตัวเตี้ยๆ อายุประมาณ 50 ปี ชื่อเล่นย่อ “ท.” ที่เพิ่งมีคดีเกี่ยวพันกับบ้านกงสุลแถวสาทร

แต่ในเมื่อกล้าที่จะเปิดศึก ผมก็พร้อมชน ไม่ว่าเด็กไม่ว่าแก่ เมื่อชนมาก็ต้องชนตอบ อยู่ที่ใครจะอึดกว่ากัน หากพลาดครั้งเดียวก็หมายถึงล้มได้ทั้งยืน

ผมเคยล้มมาแล้ว 99 ครั้ง หากครั้งนี้ล้มอีกจะเป็นไร?  แต่อย่าให้คนอย่างผมได้ชน

งานนี้ ไม่มีได้ไม่มีเสีย ผมล้มทั้งกระดาน


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/FTw0xwNNAJA

คุณอาจสนใจ

Related News