สุดเถื่อน วัยรุ่นยกพวกตีกัน คาเขื่อนห้วยติ๊กชู สลด ทหารเข้าระงับเหตุ ถูกปาระเบิดปิงปองใส่เสียชีวิต

วานนี้ (27 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับคลิปจากกล้องติดหมวกของเจ้าหน้าที่ บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่ ตำรวจ สภ.ภูสิงห์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี เจ้าหน้าที่ อส.อำเภอภูสิงห์ กำลังเข้าไประงับเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกัน ที่บริเวณเขื่อนห้วยติ๊กชู ต.ห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ติดกับแนวชายแดนไทย - กัมพูชา

ปรากฏว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเข้าไประงับเหตุ ตรวจค้นหาอาวุธและสิ่งผิดกฎหมาย ได้มีชายรูปร่างอ้วนใหญ่ มีอาการเมาสุรา ขว้างระเบิดปิงปองใส่เจ้าหน้าที่ทหารที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บล้มลง

จากนั้น ได้นำทหารที่ได้รับบาดเจ็บส่งไปยัง รพ.ภูสิงห์ แต่ว่าได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อทหารที่เสียชีวิตภายหลังว่าคือ ส.อ.สินสมุทร ทหารสังกัด กองกำลังสุรนารี

ขณะที่ กลุ่มที่ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมตัวได้ทั้งหมด 14 คน นำตัวไปควบคุมไว้ที่ สภ.ภูสิงห์ เพื่อทำการสอบสวนต่อไป

-------------

ด้านนายปัชญา อายุ 26 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ และเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ก่อเหตุ กล่าวว่า พวกตนพากันมาเล่นน้ำที่เขื่อนห้วยติ๊กชูเพื่อคลายร้อน และได้พากันนั่งดื่มเหล้า

ปรากฏว่า มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนประมาณ 7 คน มาจากไหนไม่ทราบ ได้เข้ามานั่งดื่มเหล้ากับพวกตนด้วย และหาเรื่องกับตน โดยขว้างขวดเหล้าใส่ตน แต่ว่าตนหลบทัน จากนั้นได้เกิดการชกต่อยตะลุมบอนกันขึ้น

ต่อมา มีเจ้าหน้าที่ ตร.เข้ามาระงับเหตุ พวกตนจึงได้รีบแยกย้ายกันจะหลบหนี แต่ว่ามาพบเจ้าหน้าที่ ตร.สกัดอยู่ ทำให้โดนเจ้าหน้าที่จับกุมได้

ส่วนเหตุที่มีการขว้างระเบิดด้วยนั้น ตนไม่ทราบว่าใครเป็นคนขว้างระเบิดปิงปอง จนทำให้ทหารเสียชีวิต ตนขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษครอบครัวญาติพี่น้องของทหารที่เสียชีวิตด้วย

-------------

ด้าน พ.ต.ท.สมภพ ประกอบผล สารวัตรสอบสวน สภ.ภูสิงห์ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. ของวันที่ 26 มี.ค. 66 เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ภูสิงห์ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นยกพวกตีกัน ที่บริเวณเขื่อนห้วยติ๊กชู ต.ห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ จึงได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ตร.ไประงับเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุจำนวนมาก จึงได้วิทยุขอกำลังเสริมจากเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.3 และ อส.อำเภอภูสิงห์

โดยขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเข้าไปทำการระงับเหตุ และจับกุมผู้ก่อเหตุ กลุ่มผู้ก่อเหตุได้เข้ามาล้อมรถเจ้าหน้าที่ ตร. ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการระงับเหตุอย่างเต็มที่ ปรากฏว่า ได้มีชายคนหนึ่งรูปร่างท้วม ขว้างระเบิดปิงปองใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ทำให้ ส.อ.สินสมุทร ทหารสังกัดหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตที่ รพ.ภูสิงห์

ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ทั้งสิ้น 14 คน เป็นผู้ใหญ่ 7 คนและวัยรุ่น 7 คน ทั้งหมดเป็นชาวบ้านโอทะลัน ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ พร้อมด้วยของกลางประกอบด้วย มีดสปาต้า เหล็กแหลม ระเบิดปิงปอง 3 ลูก เครื่องกระสุนปืน แก๊ป ตะกั่ว ดินปืน ตกในที่เกิดเหตุ

พนักงานสอบสวนจึงได้ตั้งข้อหาว่า

• ร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
• ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
• มีเครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ซึ่งผู้ต้องหาทุกคนให้การปฏิเสธ จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

-------------

ต่อมา เมื่อเวลา 19.00 น.ที่วัดโนนชัยวนาราม บ้านโนนชัย อ.เมือง จ.ขอนแก่น ร้อยตรีสุทิน อายุ 60 ปี นางยุพิน อายุ 53 ปี พ่อและแม่ ได้นำร่างของ สิบเอก สินสมุทร อายุ 32 ปี ทหารสังกัด ทหารเฉพาะกิจที่ 3 ที่เสียชีวิตจากแรงระเบิด ขณะเข้าระงับเหตุวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันที่ริมอ่าง มาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ในจังหวัดขอนแก่น

ด้านร้อยตรีสุทิน (พ่อ) กล่าวว่า ครอบครัวยังไม่มีใครเห็นคลิปที่เกิดเหตุ จึงไม่สามารถแสดงความคิดเห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่รู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คาดคิดว่าลูกชายจะเสียชีวิตในเหตุการณ์แบบนี้ จึงขอให้ทุกคนเลิกการกระทำเช่นนี้ เพราะครอบครัวต้องสูญเสียคนที่เขารัก และขอให้เข้าใจความรู้สึกของครอบครัวด้วย ลูกต้องกำพร้าพ่อ ครอบครัวขาดเสาหลัก

ด้านนางยุพิน (แม่) กล่าวว่า ลูกชายเป็นคนมีความใฝ่ฝัน อยากรับราชการทหาร เมื่อมีการคัดเลือกทหาร ก็ติดทหารเกณฑ์ เป็นพลทหาร จากนั้นก็สอบได้นายสิบ และรับราชการที่ค่ายเปรม ที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น 

จนการะทั่งถูกส่งไปที่ทหารเฉพาะกิจที่ 3 จ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่ก่อนจะมีโควิดระบาด แต่ถึงกำหนดพัก ก็จะกลับมาเยี่ยมพ่อแม่และภรรยาที่จังหวัดขอนแก่นตลอด กระทั่งได้รับการประสานงานให้ออกไปช่วยระงับเหตุ และก็ถูกระเบิดเสียชีวิต

“ก่อนจะไประงับเหตุ ลูกชายโทรศัพท์มาบอกพ่อกับแม่ว่า จะกลับถึงบ้านในวันที่ 27 มี.ค. นี้ ทุกคนก็รอที่บ้าน กระทั่งเพื่อนทหารและผู้บังคับบัญชาโทรมาแจ้งว่า ลูกชายไปช่วยตำรวจระงับเหตุวัยรุ่นทะเลาะวิวาท แล้วถูกระเบิดบาดเจ็บ เสียชีวิตที่ รพ.

จึงไม่คิดว่า ลูกจะได้กลับบ้านในสภาพที่ไม่มีลมหายใจ กลายเป็นร่างไร้วิญญาณกลับมาถึงขอนแก่น ตามที่ลูกชายได้บอกเอาไว้ สงสารหลานชายวัย 3 ขวบ ที่รอพ่ออยู่ที่บ้าน เหมือนลูกชายรู้ว่าพ่อเสียชีวิต ลูกชาย 3 ขวบ จึงล้มป่วย มารดาจึงพากลับไปพักผ่อนที่บ้าน”

ส่วนการตั้งสวดอภิธรรมศพ สิบเอก สินสมุทร อายุ 32 ปี ครอบครัวจะประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันพฤหัสบดีที่ 30 มี.ค. ที่จะถึงนี้ และจะมีพิธีสวดอภิธรรมศพเวลา 18.30 น. ทุกวัน
-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/5y-WR6Q-nlo