อาชญากรรม

ออกหมายจับพระอาจารย์ล่วงละเมิดทางเพศเณรนาน 2 ปี เผย ชอบเอาจุดอ่อนมาขู่ไม่ให้ไปบอกคนอื่น

โดย kanyapak_w

1 พ.ย. 2565

3K views

ออกหมายจับ พระอาจารย์วัดดังตุ๋ยเณร พระอาจารย์วัดดัง กลางเมืองน่านล่วงละเมิดทางเพศสามเณรลูกศิษย์นานกว่า 2 ปี สามเณร ผู้เสียหาย เผย พระอาจารย์ มักยกจุดอ่อนมาข่มขู่ ไม่ให้เอาเรื่องไปบอกคนอื่น



ที่ จ.น่าน พระอาจารย์วัดดัง วัดใหญ่ใจกลางเมืองน่าน วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร พระอารามหลวง ล่วงละเมิดทางเพศ สามเณรลูกศิษย์นานกว่า 2 ปี ทนไม่ไหว รวบรวมความกล้าบอกแม่ให้พาเข้าแจ้งความ ด้วยมีเหตุผล เพื่ออยากจะปกป้องสามเณรรุ่นน้องๆ ที่จะมาบวชเรียนที่วัดแห่งนี้ เพราะที่ผ่านมาพระอาจารย์น่าจะบวชมานานกว่า 10 ปี คงมีเณรจำนวนมากที่เจอเหตุการณ์เช่นตน




ด้านแม่เณร เปิดเผยว่า ตัวเองได้สังเกตเณรซึ่งเป็นลูกว่า ทำไมถึงถ่ายรูปท้องฟ้า ลงคลิปแปลกๆที่ถ่ายทั่ววัด คล้ายเหงา กดดัน เช่นเขียนว่า ทางนี้ฝนตกแล้วทางโน่นฝนตกไหม ลงในเฟซบุ๊ก เลยสงสัย จึงได้โทรไปพยายามชวนคุยและสอบถามเณรว่าลูกมีปัญหาอะไรมั้ย จนมาทราบสาเหตุที่แท้จริง ว่าลูกถูกล่วงละเมิดทางเพศ ได้ฟังลูกเล่าเหตุการณ์ที่ถูกกระทำ รู้สึกช็อกแล้วทำใจไม่ได้ จึงอยากช่วยลูก ยืนยันจะดำเนินคดีกับพระอาจารย์ของลูกเณรให้ถึงที่สุด




เณร เล่าว่า ตอนที่บวชเข้ามาเป็นเณร เพื่อเรียนหนังสือเริ่มแรก ต้องอาศัยอยู่ที่กุฏิรวม แต่พระอาจารย์ ก. ให้ย้ายไปอยู่กุฏิกับพระอาจารย์ แต่เณรไม่ไป ต่อมาจึงย้ายไปอยู่กับเณรรุ่นพี่ที่กุฏิพระอาจารย์ ตอนนั้นยังไม่มีการล่วงละเมิด แต่พออยู่ไปนานวันขึ้น พระอาจารย์เริ่ม จับแก้ม หอมแก้ม จับอวัยวะเพศกับเณรที่อาศัยอยู่กุฏิเดียวกับเณร หลังจากนั้นพระอาจารย์ได้ล่วงละเมิดทางเพศ โดยเอาของลับของพระอาจารย์สอดใส่รูทวาร ตั้งแต่ม.2 ถึง ม.3 แล้วถูกกระทำอยู่บ่อยครั้ง



ล่าสุดโดนกระทำวันที่ประมาณเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา แล้วเณรรู้สึกว่าพระอาจารย์ โรคจิต เพราะขออมนกเขา และช่วยเหลือตัวเอง และคิดว่ายังมีเณรอีกหลายคนที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศเช่นตน บางรูปไปนอนกับพระอาจารย์ตลอด ส่วนเณรเองช่วงหลังเริ่มขัดขืน เณรเคยไปคุยขอให้เณรที่ถูกพระอาจารย์ทำแบบเดียวกันรูปอื่นๆมาช่วยเป็นพยาน เพราะอยากจะเอาเรื่องพระอาจารย์ให้ติดคุก แต่ถูกปฏิเสธ เพราะกลัวจะถูกสึก ส่งเณรกลับไปอยู่ที่บ้าน ทางบ้านของเณรลำบากกัน บ้างก็มีปัญหาทางครอบครัว



ส่วนพฤติการของพระอาจารย์ที่อยู่ภายในกุฏิที่ได้สังเกต มี 3 ลักษณะ คือ 1. กินข้าว 2. กินเหล้า 3. อยู่กับเณร เช่น ล็อกห้องเงียบ แสดงว่าอยู่กับเณร ยิ่งมีเณรออกมาจากห้องแสดงว่ามีอะไรกัน ถ้าล็อกห้องนอนจะมีป้ายบอกว่าขอพักผ่อน 30 นาที




สิ่งที่เณรได้ออกมาเปิดโปงในครั้งนี้ เพราะรู้สึกเครียด กดดันตัวเอง ไม่ไหวที่จะถูกกระทำแบบนี้ จึงยอมบอกแม่ว่า อยากออกจากวัด เคยมีครั้งหนึ่งที่ขอย้ายวัด แต่พระอาจารย์ได้ข่มขู่ว่า จะตัดพ่อแม่อุปภัมภ์ แล้วจะยกเลิกทุนศึกษา แล้วขู่อย่าบอกตากับยาย หากตายายท่านรู้จะไม่สบายใจ พระอาจารย์ชอบยกสิ่งที่เป็นจุดอ่อนของเณรมาอ้าง คือตายาย เพื่อต่อรองไม่ให้เณรย้ายวัดและเปิดเผยเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ เณรตัดสินใจแล้วอยากให้พระอาจารย์ถูกจับเข้าคุก เพื่อไม่ให้เป็นภัยต่อเณรรุ่นหลังที่เข้ามาบวชเรียนต่อไป



หลังจากนั้นแม่จึงประสานเจ้าหน้าที่พักเด็กและครอบครัวจังหวัดน่าน เพื่อพาเณรเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ. จิรัฎฐ์ จันทร์สว่าง พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจฎธรเมืองน่าน และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลน่าน และทำการสอบปากคำเพิ่มเติมตามขั้นตอน โดยสามเณรเข้ารับการช่วยเหลือคุ้มครองสวัสดิภาพและเยียวยาด้านจิตใจ ในบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดน่าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับ ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมีใช่ภริยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ,กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปิโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม



ขณะนี้พระอาจารย์คนดังกล่าว ไม่ได้ไปสอนหนังสือและอาศัยอยู่ในวัดดังแล้ว คาดว่าน่าจะรู้ตัว จึงหลบหนีออกจากวัดไป ซึ่งทางเจ้าหน้าตำรวจได้เร่งติดตามเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป



สำหรับพระอาจารย์ ก. เป็นทั้งพระอาจารย์ฝ่ายปกครอง และพระอาจารย์ที่สอนวิชาพุทธศาสนาของโรงเรียน ซึ่งสามเณรที่มาบวชเรียนของโรงเรียนและวัดดัง ดังกล่าวอีกทั้งยังมีสามเณรอีกหลายรูปที่ท่านนำมาอยู่ในอาศัยในกุฏิด้วย



ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงษ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน กล่าวว่า สำหรับพระรูปดังกล่าวได้กระทำผิดกฎหมายอาญา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเดือนกันยายน หลังจากพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความ ก็ได้ทำการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานและศาลจังหวัดน่านได้ออกหมายจับ พระรูปดังกล่าว ขั้นตอนต่อไปก็จะได้ติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดี จากการตรวจสอบพบว่าเมื่อวันที่ 2 กันยายนพระรูปดังกล่าวได้ถอนเงินออกจากบัญชีล้านกว่าบาทแล้วหลบหนีไป




สำหรับเรื่องดังกล่าววัดก็บังคงเป็นวัด ส่วนพระที่กระทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนตัวผู้กระทำผิดหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ติดตามตัวเพื่อมานินคดีตามกฎหมายต่อไป



คุณอาจสนใจ

Related News