เปิดหลักฐานใหม่คดีฆ่าหนุ่มโรงงาน พบรถเก๋งต้องสงสัยไล่บี้-ปาดหน้าก่อนเป็นศพ

ตำรวจเริ่มตีวงแคบกลุ่มผู้ต้องสงสัย รวบรวมหลักฐานเร่งรัดออกหมายจับ เปิดหลักฐานใหม่พบรถเก๋งต้องสงสัยไล่บี้และปาดหน้าก่อนเป็นศพ

หนึ่งในหลักฐานสำคัญที่ตำรวจกำลังเร่งแกะรอยคือกล้องวงจรปิด ภายในหมู่บ้านที่นายใหม่ผู้ตายอาศัยอยู่ ที่พบรถเก๋งสีแดงต้องสงสัยในคืนวันที่ 27 มกราคม ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายที่ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ออกไปทำงาน แต่สุดท้ายไปไม่ถึงที่ทำงานถูกฆาตกรรมเสียก่อน

วงจรปิดเพิ่มเติมอีก 2 มุมที่พ้นออกมาจากปากซอยหมู่บ้านแล้ว พบว่ารถเก๋งสีแดง คันเดิมยังขับตามที่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายอย่างรวดเร็ว ซึ่งจากกล้องมุมนี้จะเห็นว่าไม่ใช่หลังคาสีดำ คาดว่าน่าจะเป็นที่มุมกล้องและแสงของกล้องวงจรปิดในหมู่บ้านที่ทำให้เห็นเป็นหลังคาสีดำแต่ที่แน่ๆ น่าจะเป็นรถคันเดียวกันและพฤติกรรมยังขับตามที่รถของผู้ตายอย่างรวดเร็ว ซึ่งพยานยืนยันว่า รถเก๋งสีแดงคันดังกล่าว ไม่ใช่รถของคนในหมู่บ้าน เป็นรถของบุคคลภายนอก และในวันเกิดเหตุมีการขับวนเข้ามาดูลาดเลาหลายครั้ง

ขณะที่ประเด็นเชือกสีแดง ที่ถูกใช้มัดมือมัดเท้านายใหม่ผู้ตาย ซึ่งตอนแรกดูแล้ว คล้ายกับเชือกรองเท้า ซึ่งคุณพร เมียผู้ตายยืนยันว่า สามีไม่เคยมีรองเท้าที่มีเชือกสีแดง และเชือกดังกล่าวน่าจะเป็นเชือกที่เพิ่งซื้อมาใหม่ หรือคนร้ายอาจจะมีติดรถไว้อยู่แล้ว

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์สำรวจบริเวณโดยรอบบ้านของผู้ตายพบว่า เชือกดังกล่าวหาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์ก่อสร้างทั่วไป เรียกว่าเชือกร่มหรือเชือกผ้า มีทั้งสีแดงสีเขียวสีดำสีน้ำเงิน ซึ่งคุณสมบัติของเชือกชนิดนี้จะมีความเหนียวและยืดหยุ่น ใช้สำหรับมัดของเวลาบรรทุกใส่ท้ายกระบะ เช่น เหล็ก, กระจก, อุปกรณ์แต่งรถ หรืออะไรที่ไม่ต้องการให้มีรอยขีดข่วนของเชือกที่มัด ซึ่งคนขายบอกว่า ถ้านำมาใช้มัดมือมัดเท้าคน ก็จะไม่เป็นรอยและมัดได้แน่น แกะไม่หลุดแน่นอน

ขณะที่คุณพรยังยืนยันและมั่นใจว่าเรื่องที่สามีถูกฆ่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องการพนันแน่นอน เพราะนายใหม่ไม่เล่นการพนัน ส่วนเรื่องชู้สาวก็คิดว่าไม่ใช่ แต่ถ้าหากว่าเป็นเรื่องชู้สาวจริง เธอก็ทำใจยอมรับได้ เพราะว่าสามีก็เสียไปแล้ว มันทำอะไรไม่ได้ แต่ขออย่างเดียวอยากให้คดีมีความชัดเจน และจับคนร้ายให้ได้ จะสาเหตุอะไรก็รับได้ทั้งนั้น แค่อยากรู้ว่าคนที่ก่อเหตุทำไปทำไม ทำไมต้องโหดร้ายขนาดนี้ สามีเธอเป็นคนดี ไม่เคยทำร้ายใคร ตั้งใจทำงาน ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้

ส่วนประเด็นที่อาจขัดแย้งทางธุรกิจขนส่งที่เธอทำอยู่นั้น ยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะคนละสายงานกับสามีเลย เธอก็ทำงานของเธอ แฟนก็ทำงานประจำของแฟนไม่เกี่ยวกัน

ขณะที่ประเด็นเพื่อนของผู้ตายอาจเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย คุณพร กล่าวว่า เพื่อนที่รู้จักก็มาร่วมงานศพกันหมด เลยไม่รู้ว่าใครทำอะไรยังไง มืดแปดด้านไปหมด ส่วนกลุ่มเพื่อนใหม่ที่ทำงานที่แฟนไปสนิทสนมด้วยพักหลังและออกไปดื่มสังสรรค์กันบ่อย ไม่ขอพูดถึงเพราะไม่สนิทและไม่รู้จัก จึงไม่อยากปรักปรำใคร อยากให้ตำรวจรีบติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม เธอมองว่าคนร้ายวางแผนมาอย่างดี ต้องเป็นคนรู้จักและใกล้ชิดกับสามี เพราะรู้เวลาเข้าออกบ้าน ส่วนรถเก๋งสีแดงต้องสงสัยที่ขับเข้าไปในหมู่บ้านและเปิดไฟสูงตลอดเวลา เธอก็เพิ่งได้เห็นและทราบจากข่าว ยอมรับว่า รู้สึกสงสัยเหมือนที่ทุกคนสงสัย จึงอยากให้ตำรวจรีบจับคนร้ายให้ได้ไวที่สุด เพราะยิ่งหากช้า เธอก็ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงและตอนนี้เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวด้วย

ล่าสุดทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ เจอรถเก๋งสีแดงยี่ห้อซูซูกิ Swift ซึ่งเป็นรถของลูกบ้านในหมู่บ้านดังกล่าว โดยเจ้าของรถยืนยันว่าในคืนวันที่ 27 มกราคม ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ไม่ได้ขับรถออกไปไหน และอยู่บ้านตลอดตั้งแต่หลัง 18.00 น. จึงยืนยันได้ว่ารถต้องสงสัยคันดังกล่าวไม่ใช่รถของเขาและน่าจะไม่ใช่ยี่ห้อซูซูกิ สวิฟ

ขณะที่ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ไล่กล้องวงจรปิดในหมู่บ้านอีกรอบ พบว่ารถเก๋งสีแดงต้องสงสัย ขับเข้ามาตอนช่วงเวลา 21.45 น. และเปิดไฟสูง พยายามสังเกตพบว่า รถคันดังกล่าวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

จากการสอบถามกับ รปภ.ของหมู่บ้าน กล่าวว่า ในวันที่ 27 มกราคม มีรถสีแดงผ่านเข้าออกหมู่บ้านหลายคัน ซึ่งทุกคันที่เป็นรถบุคคลภายนอกที่ผ่านเข้าออกโดยไม่มีคีย์การ์ด แต่รถทุกคันจะต้องแสดงบัตรประจำตัว และแจ้งบ้านเลขที่ของลูกบ้านที่ต้องการมาพบทุกครั้ง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/-UplcKLWpRU