สั่งสอบ! ปมเด็กป.6 ข่มขืนป.5 แม่ งง! เคลียร์จบรับเงินหมื่นแล้ว เป็นข่าวได้ไง

ศึกษาธิการจังหวัดเพชรบูรณ์ สั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีเด็กชายป.6 ข่มขืนเด็กหญิงป.5 ในโรงเรียน ขณะที่แม่เด็กยืนยันมีการไกล่เกลี่ยเจรจาจบเรื่องไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา

จากกรณีเด็กนักเรียนชายชั้น ป.6 ก่อเหตุข่มขืน เด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.5 อายุ 11 ปี ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุ ผอ.ทราบเรื่องแล้ว แต่กลับบอกเด็กหญิงว่า อย่านำเรื่องนี้ไปบอกผู้ปกครอง ซ้ำยังบอกด้วยว่า "ไม่ท้องหรอก"

ต่อมาเด็กหญิงได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับญาติที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ซึ่งผู้ปกครองมาได้ยินพอดี จึงได้สอบถามเด็กหญิงคนดังกล่าว จนเด็กหญิงเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง ทำให้ผู้ปกครองตกใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และไปหารือกับผู้ใหญ่บ้านในการแก้ไขปัญหา เพราะช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นเวลาที่อยู่ในความดูแลของโรงเรียน และสถานที่เกิดหตุยังเป็นในพื้นที่โรงเรียนอีกด้วย

เด็กหญิงเล่าว่า วันเกิดเหตุ เด็กชายเดินไปกับตนเพื่อจะไปเอาหนังสือ แต่เมื่อมีโอกาสเด็กชายก็ก่อเหตุดังกล่าว หลังเกิดเหตุตนวิ่งร้องไห้ออกมา และไปขอความช่วยเหลือกับครู โดยครูได้พาไปพบกับ ผอ. แต่ผอ.กลับบอกไม่ให้บอกใคร

ขณะที่น้าของเด็กหญิง เล่าว่า หลานสาวพยายามขอความช่วยเหลือจาก ผอ. แต่ ผอ. กลับบอกกับเด็กว่า ห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกกับผู้ปกครอง เพราะจะทำให้ ทางผอ.เสียหาย และอีกอย่างก็ไม่ท้องหรอก ซึ่งตนและชาวบ้านประมาณ 30 คนได้รวมตัวกันไปพบผอ. เมื่อวันเสาร์ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อต้องการข้อเท็จจริง

แต่ผอ. กลับบอกว่า ไม่ได้ห้ามเด็กไม่ให้บอกผู้ปกครอง เพียงแต่พูดว่า อย่าเพิ่งบอก ซึ่งตนไม่รู้ว่าอย่าเพิ่งบอก คือเมื่อไหร่ หรือต้องให้เกิดเรื่องแบบนี้กับเด็กคนอื่นภายในโรงเรียนอีก เพราะหากผู้ปกครองไม่เค้นถามจากหลาน ก็คงไม่มีใครทราบเรื่อง ซึ่งการเป็น ผอ.แล้วมาพูดแบบนี้ เป็นเรื่องที่ตนรับไม่ได้

นอกจากนี้ เมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา เด็กชายผู้ก่อเหตุ ก็เคยมีพฤติกรรมชอบไป กอด หอม และจับหน้าอกเด็กนักเรียนหญิง มาแล้ว ถึง 5 คน ซึ่งตอนนั้น ผู้ปกครองของเด็กชายก็ได้ตักเตือนว่ากล่าวไปแล้ว จนมาเกิดเรื่องขึ้นกับหลานสาวตนตัวเอง

ขณะที่ยายของเด็กหญิง ตั้งแต่รู้เรื่องตนก็นอนไม่หลับ เป็นกังวล กลัวหลานสาวจะท้อง เพราะหลานสาวมีประจำเดือนแล้ว และเป็นห่วงจิตใจหลานสาว กลัวว่าจะโดนเพื่อนล้อ แล้วหลานตนจะอยู่ในสังคมได้ยังไง และที่สำคัญรับไม่ได้กับคำพูดของ ผอ.โรงเรียน ที่ห้ามเด็กไม่ให้บอกทางบ้าน เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาปิดบัง ทำไมคนเป็นถึง ผอ.โรงเรียน คิดได้แค่กลัวว่าตนจะเสียหายแค่นั้นหรือ แล้วทำไมไม่คิดถึงสภาพจิตใจของเด็กบ้าง

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปติดตามเรื่องที่เกิดขึ้น ได้พบกับแม่ของเด็กหญิงคนดังกล่าว ซึ่งปกติทำงานอยู่อีกจังหวัด เล่าว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งผู้ปกครองเด็กชายและฝ่ายตน เป็นญาติห่าง ๆ กัน ซึ่งลูกยืนยันว่า เด็กชายมาเปิดกระโปรง เพื่อจะมาทำมิดีมิร้าย แต่ลูกก็พยายามขัดขืน

ต่อมา ทางยายทราบเรื่อง ก็มีการพูดคุยกับโรงเรียนและมีการนัดเจรจากันตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งอีกฝ่ายจ่ายค่าเสียหาย 1 หมื่นบาท ก็จบไปแล้วไม่ได้ติดใจแต่อย่างใด แต่ไม่ทราบว่า ทำไมถึงมาเป็นข่าวดังได้อีก ซึ่งตนรับว่าไม่ได้มีการแจ้งความและยังไม่ได้พาลูกไปตรวจร่างกาย

ด้านชาวบ้านคนหนึ่ง เล่าว่า กรณีชาวบ้านไม่พอใจเรื่องนี้ ถึงขนาดพากันขับไล่ ผอ.นั้น ข้อเท็จจริง ยังไม่ได้มีการขับไล่ เพียงแค่มีการพูดคุยให้ตัว ผอ.ย้ายออกจากพื้นที่ ซึ่ง ผอ.ก็ยอมรับผิด และไม่ได้มีเหตุการณ์รุนแรง

ส่วนเรื่องดราม่า กรณี ที่ ผอ.บอกว่า เด็กไม่ท้องหรอก และห้ามเด็กไปแจ้งผู้ปกครองนั้น จากการสอบถามข้อเท็จจริง มีการยืนยันแล้วว่า ทางตัวผอ.นั้น ไม่เคยมีการพูดกล่าวอ้าง ว่าเด็กไม่ท้องหรอก และห้ามเด็กไปแจ้งผู้ปกครองนั้น ซึ่งในตอนนั้น ได้มีการพูดคุย พร้อมประสานให้ทางผู้ปกครองของฝ่ายเด็กชายที่ก่อเหตุ ซึ่งทำงานอยู่ กทม. เดินทางกลับมาพูดคุยกันเสียก่อน เนื่องจากเรื่องยังไม่ชัดเจน จึงได้นัดพูดคุยกันในวันศุกร์ที่ผ่านมา ยืนยัน ผอ.ไม่มีการพูดอย่างแน่นอน

ขณะที่นายธัญ สายสุจริต ศึกษาธิการจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ได้ประสานไปยัง สพป.เพชรบูรณ์เขต 3 เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเร่งด่วน พร้อมเชิญ ผอ.คนดังกล่าว มาสอบถามพร้อมทั้งลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลให้รอบด้าน

ส่วนที่ชาวบ้าน กดดันให้ ผอ.ออกจากพื้นที่นั้น ต้องรอผลการสอบสวน หากมีความผิดจริง ก็จะมีคำสั่งให้ ผอ.คนดังกล่าวไปปฏิบัติงานที่อื่นได้ หรือหาก ผอ.มีความประสงค์ที่จะขอย้าย ตนเองออกจากพื้นที่ก็สามารถทำได้

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบูรณ์ กำลังเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว และดำเนินการให้การความช่วยเหลือ ในขณะที่ครูภายในโรงเรียนต่างก็ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลแก่ผู้สื่อข่าวโดยแจ้งแต่เพียงว่าให้ไปสอบถามที่เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์

นอกจานี้ทีมข่าวสอบถามนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือกพฐ.กล่าวว่า ได้รับทราบเหตุการณ์นี้แล้ว และได้สั่งการไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ ให้เจ้าหน้าที่เขตพื้นที่การศึกษา ไปลงพื้นที่ตรวจสอบถึงสาเหตุเกิดอะไรขึ้น เด็กชายถึงมีพฤติกรรมเช่นนี้ พร้อมดูแลผลกระทบที่เกิดขึ้นกับคู่กรณี ก่อนจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยให้แจ้งกลับมาภายในเที่ยงวันนี้